“วิโรจน์” เชื่อ “ฮุนเซน” ปั่นนำไปสู่การปฏิวัติ มอง รมว.กต.ไม่เก่ง

รัฐสภา 27 มิ.ย.-“วิโรจน์” แนะ นายกฯ อย่าสนใจ “ฮุนเซน” แฉ “ทักษิณ” เชื่อปั่นให้แตกแยกในชาตินำไปสู่การปฏิวัติ สงสัยคนใกล้ตัวมีเอี่ยวฟอกเงินหรือไม่ จึงไม่จัดการแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติจากเขมร มอง รมว.กต.ไม่เก่ง ควรเปลี่ยนและเร่งหาโฆษกส่วนตัวแจงสถานการณ์

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ปล่อยคลิปแผนเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีโยงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบิดานายกรัฐมนตรี ว่า ปกติแล้วความขัดแย้งระหว่างประเทศ เราก็กังวลจะมีการปล่อยอาวุธ หรือปล่อยโดรนสังหาร แต่กัมพูชากลับปล่อยคลิป ปั่นกระแสทุกวัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่ และเป็นที่สังเกตว่ามีความพยายามจะเชียร์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี จึงเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรหวั่นไหว หรือตื่นเต้น หรือหลงเป็นเหยื่อสมเด็จฮุนเซน ซึ่งเป็นผู้นำสายคอนเทนต์ และบิดาแห่งสแกมเมอร์แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น ต่อให้มีคลิปเสียงก็จะต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนก่อน อีกทั้งการที่สมเด็จฮุนเซนทำทีเป็นสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่ได้เป็นการสนับสนุนจริง แต่เป็นการยุแยง เพื่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างคนไทย และเป็นการสนับสนุนการทำรัฐประหารกลายๆ ซึ่งจะนำไทยไปสู่ความไม่ชอบธรรมในเวทีโลก เกิดความสูญเสียความชอบธรรม ในข้อพิพาทระหว่างกัมพูชากับไทย และจะโยงถึงการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ จะทำให้เกิดความหายนะทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันที


“ถ้าเราถกเถียงกันด้วยเหตุด้วยผล ผมว่ามีสิทธิ์แต่ถ้าเราต้องมานั่ง ทะเลาะกันเพราะการปั่นของฮุนเซน ผมคิดว่าไม่ใช่” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ เสนอว่า นายกรัฐมนตรี ควรรับมือด้วยการมีโฆษกประจำตัว หรือคณะทำงานของกระทรวงการต่างประเทศออกมาชี้แจงกับทูตานุทูตต่างๆ ให้ทันท่วงที โดยควรต้องวางตัวให้ชัดเจน เพราะต้องต่อสู้กับบิดาแห่งสแกรมเมอร์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรต้องประท้วง องค์การสหประชาชาติ ก็มีอยู่ในประเทศไทย รวมถึงสถานทูตต่างๆ แต่ก็เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงไปแล้ว แต่ควรต้องต่อเนื่อง


สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อกังขาถึงบทบาทของนายมาริษ เสงียมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอ าจเงียบเกินไปนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่าเราควรมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เก่งกว่านี้ โดยต้องหาคนที่ไวต่อสถานการณ์กว่านี้ และกล้าตัดสินใจกว่านี้ เพราะ ณ วันนี้ต้องรับมือกับคนที่วางแผนและไตร่ตรองล่วงหน้า เขียนบทมาโดยตลอด

นายวิโรจน์ ตั้งข้อสังเกตว่า ความขัดแย้งของ ผู้นำกัมพูชากับนายทักษิณ น่าจะมีการตกลงกันไม่ได้ และอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งฐานใหญ่สุดอาจจะไม่ได้อยู่ใน ชเวโกะโก แต่อาจจะอยู่ในกัมพูชา ดังนั้นนายกรัฐมนตรี ควรให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ทำงาน ร่วมกับข้อมูลของต่างประเทศ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และเมื่อถึงเวลาข้อมูลตกผลึกแล้วควรยึดเงิน และให้ขึ้นแบล็กลิสต์กัมพูชา โดยวางคณะทำงานที่ชัดเจนเพื่อปักหมุดหมายที่จะลงนามสัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งเราสามารถขอให้ต่างประเทศที่เป็นภาคีสมาชิก ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนประสานงานกับต่างประเทศในการจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ สมเด็จฮุนเซน กลัวที่สุด อย่างไรก็ตาม ก็ต้องตั้งคำถามว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงไม่ดำเนินการ สมเด็จฮุนเซนเปิดเผยว่ามีนักการเมือง 7คน ไปฟอกเงินที่กัมพูชา หรือไม่

เมื่อถามว่า มีการเปิดเผยรายชื่อนักการเมือง 7 คน ดังกล่าวหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่มีการเปิดเผย มีแต่การตั้งข้อสังเกต แต่ตนเชื่อว่า ป.ป.ง.ทราบ ว่าเป็นใครบ้าง เพราะการทำธุรกรรมตั้งแต่ 7 แสนบาท ขึ้นไป ป.ป.ง. ต้องทราบ และเชื่อว่าน่าจะคะเนได้ว่าเป็นใคร และขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นบุคคลใกล้ชิด นายกรัฐมนตรี หรืออยู่ในเครือข่ายที่นายกรัฐมนตรีรู้จักหรือไม่ หรืออาจจะเป็นอดีตรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งหากเป็นรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะมีข้อหาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน จาก ป.ป.ช.


และถ้าเงินนั้นมาจากการทุจริตอีก ก็จะเข้าความผิดมูลฐาน ถูกยึดอายัดทรัพย์ได้อีก แล้วถ้านายกรัฐมนตรีไปแต่งตั้งคนเหล่านี้ ก็อาจจะมีความผิดทางจริยธรรม และมีจุดจบเหมือนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จึงมีการตั้งข้อสังเกตในที่ประชุมกรรมาธิการการทหารว่าด้วยประเด็นเหล่านี้หรือไม่ ที่ทำให้นายกรัฐมนตรี ไม่จริงจังในการจัดการทั้งที่เส้นทางการเงินพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าของสมเด็จฮุนเซน และนายฮุนมาเน็ต ซึ่งแม่นยำและได้ผล

ส่วนฝ่ายค้านจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่าตนได้ทำหนังสือข้อสังเกตข้อมูลทั้งหมดถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จะบอกว่าไม่ทราบ ไม่ได้ และตนคิดว่าตนอาจจะเอาเรื่องที่นายกรัฐมนตรีรู้อยู่แล้วไปบอก อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดเรื่องการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ต้องรอดูความเหมาะสมก่อน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย