“กมธ.ต่างประเทศ” ถกปมชายแดน ย้ำไม่รับเขตอำนาจศาลโลก

รัฐสภา 25 มิ.ย.- “กมธ.ต่างประเทศ” ถกปัญหาชายแดน ย้ำไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก ยันใช้เวทีเจรจาอย่างสันติ ประณามผู้นำกัมพูชา ชี้เป็นจุดแตกหักที่ต้องจารึก เชื่อหวังผลทางการเมือง อยากสร้างตำนาน ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวภายหลังการประชุม ว่า ทางคณะกรรมาธิการมีการเรียกประชุม ในประเด็นความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ซึ่งวันนี้ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่ออัพเดทสถานการณ์ชายแกนตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 และยังมีตัวแทนจาก สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มาให้ข้อมูลในเชิงยุทธศาสตร์

สถานการณ์ชายแดนปัจจุบันยังมีความตึงเครียดเป็นอย่างสูง ทั้งสองฝ่ายมีการตรึงกำลังเพื่อเตรียมความพร้อมขณะเดียวกันประเทศไทยมีความประสงค์ที่ชัดเจน คือต้องการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี JBC แต่ยังมีอีกหลายกรอบทวิภาคีที่ไทยมีความตั้งใจอยากเห็นการดำเนินงาน จากตัวแทนทั้ง 2 ประเทศ ไม่ว่าจะ RBC หรือ GBC เส้นทางหน่วยงานความมั่นคงตั้งเป้าอยากจะใช้กรอบทำงานนี้ในการคลี่คลายความขัดแย้ง ตอบข้อผิดพลาดในพื้นที่ทั้ง 4 พื้นที่ ทางฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกรอบความตกลงอย่างเคร่งครัดและมีมารยาท ซึ่งยึดหลักความปลอดภัยอธิปไตยของทั้ง 2 ประเทศเป็นที่ตั้ง รวมถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องชายแดน


ขณะเดียวกันทางประเทศกัมพูชาในหลายเดือนที่ผ่านมาเราเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมีการยั่วยุ ใช้หลายวิธีทำให้เกิดความร้าวฉาน ไม่ว่าจะเป็นการนำคนเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ข้อพิพาทการร้องเพลงชาติตามปราสาทต่าง ๆ รวมถึงการวางกำลังล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นตามกรอบข้อตกลง

” ประเทศไทยเน้นย้ำเสมอว่าท้ายที่สุดจะต้องมีการเจรจากันอย่างสันติ เนื่องจากทั้งประเทศไทยและกัมพูชาไม่สามารถห่างออกจากกันได้ ชาตินี้ชาติหน้าก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนบ้านกัน เพราะฉะนั้นแนวทางและทางออกที่ดีที่สุด ก็คือต้องกลับมาที่โต๊ะเจรจา และมีความจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย ” นางสาวสรัสนันท์

นางสาวสรัสนันท์ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยไม่ได้รับความร่วมมือในการเจรจาอย่างสันติ โดยเฉพาะในการประชุม RBC และในอนาคตเขายังคงปฏิเสธที่จะใช้กรอบความร่วมมือในการเจรจากันอย่างสันติ แต่เพื่อให้คนไทยมีความสบายใจทางกองทัพมีความพร้อม ที่จะปฏิบัติการในทุกรูปแบบ แต่ขอให้เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นทั้งเรื่องยุทธวิธีทางทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์เรามีความพร้อม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งแรกที่ทางกองทัพจะเลือกใช้


ขณะเดียวกันเรื่องตามชายแดนยังคงมีเรื่องสงครามจิตวิทยา เกิดขึ้นผ่านการสื่อสารทำให้เกิดการยั่วยุ มีสงครามการเมืองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง หากสังเกตของกัมพูชากระทรวงต่างประเทศและ ฝ่ายความมั่นคงจะไม่พูดอะไร มีแต่ฝ่ายการเมืองที่แสดงความเห็นอย่างสุดโต่ง และไม่ไว้ถึงความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศต่อให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ไม่ประสงค์ จะเข้าสู่กระบวนการแบบวิธีสากล

นางสาวสรัสนันท์ กล่าวว่า มีการยั่วยุทางทหารอย่างต่อเนื่อง แต่กองทัพของไทยมีความยับยั้งชั่งใจอยู่เสมอ และเมื่อแทคติกยั่วยุทางทหารไม่ได้ผล เราจึงได้เห็นการยั่วยุทางการเมือง ทางกรรมาธิการมองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นการแทรกแซงทางการเมืองภายในของประเทศไทยอย่างชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้นคำถาม คือผู้นำกัมพูชาต้องการอะไรจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้

“สิ่งที่เกิดขึ้นมองได้ทางเดียวเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองภายใน โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชา ในปี 2570 ขณะเดียวกัน ผู้นำของกัมพูชาก็อาจจะอยากสร้างตำนาน ซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้อยากสร้างสันติภาพในภูมิภาคหรือสร้างสัมพันธ์เชิงบวกกับประเทศไทย แต่เป็นผลประโยชน์ของกลุ่มคน ที่ยอมสละผลประโยชน์ของประเทศตัวเองยอมสละมิตรที่คอยช่วยเหลือเกื้อหนุนกันมา ไม่ว่าจะยำทุกข์ยากอย่างไรประเทศไทยยังคงให้การปฏิบัติในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีเสมอมา” นางสาวสรัสนันท์กล่าว

ส่วนที่ประเทศกัมพูชาอ้างว่าเราปิดด่านความจริงคือไม่ใช่แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่ปิด เราใช้เพียงมาตรการควบคุม และคัดกรองกลุ่มคนที่สามารถเดินทางเข้าออกได้ตามความจำเป็นไทยยังยืนยันจะใช้ JBC ในการเจรจา ประเทศไทยไม่ยินยอมที่จะไปศาลโลกและมั่นใจในหลักฐานที่เรามี ทางกระทรวงการต่างประเทศมองว่าไม่ใช่แนวทางปฏิบัติที่ปกติในการจะไปศาลโลกเพราะต้องมีการยินยอมทั้งสองฝ่าย และการดำเนินงานโดยปกติ ต้องร่วมงานระดับกระทรวงกันก่อนที่จะไปศาลโลก ซึ่งในหลายกรณีที่ผ่านมาศาลโลกก็โยนให้ประเทศนั้นๆกลับมาเจรจาสุดท้าย JBC จะเป็นคำตอบ และมีความเป็นไปได้ว่าสัตว์โลกจะไม่ได้รับพิจารณากรณีดังกล่าว ยืนยันว่าเรามั่นใจในหลักฐานของเรา

นางสาวสรัสนันท์ กล่าวว่า กมธ.ต่างประเทศ ยังคงสนับสนุนรัฐบาลและแนวทางการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ และส่งกำลังใจให้ฝ่ายความมั่นคงที่ใช้ความอดทนอย่างเต็มที่ ในวันที่เราต้องต่อกรกับประเทศที่ไม่มีมารยาท ไม่มีเจตนารมณ์ที่อยากทำให้สันติของทั้งสองประเทศกลับคืนสู่แนวชายแดน

” โดยเฉพาะการชกใต้เข็มขัดที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ริเริ่ม ทางผู้นำหลายท่านดิฉันขอประณามในการกระทำต่าง ๆ ที่ประเทศกัมพูชาได้ทำและส่งผลต่อเสถียรภาพ การเมืองและความมั่นคงของประเทศไทย มันได้ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ได้ร่วมสร้างกันมา ครั้งนี้เป็นจุดหักที่จะต้องจารึกไว้อีกครั้งหนึ่ง แล้วมั่นใจว่าบทบาทที่กัมพูชาได้ดำเนินการมาวันนี้จะส่งผลกระทบกลับไปหาเขาไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมอย่างแน่นอน “นางสาวสรัสนันท์กล่าว

ทั้งนี้นางสาวสรัสนันท์ ระบุว่า ทางกรรมาธิการ ได้พูดถึงการขยายผลเรื่องการสื่อสารให้ประชาชนเพื่อให้เข้าใจตรงกันจึงอยากฝากสื่อมวลชน ช่วยขยายผลในสิ่งที่กระทรวงต่างประเทศได้แถลงไปในทุกวัน ที่ล้วนแล้วแต่จะเป็นประโยชน์ และขอยืนหยัดสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานยืนหยัดตามกฎกติกามารยาท โดยเฉพาะทางการทูตและการต่างประเทศไม่จำเป็นต้องไปเล่นตามบทของเขา และไม่จำเป็นต้องไปเล่นกับการยั่วยุรายวัน.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]