กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- “ประเสริฐ” ไม่กังวล “ภูมิใจไทย” เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มอง เป็นเรื่องการเมือง ชี้ เร็วไปให้ ครม. ชุดใหม่ทำงานก่อน ซัดกลับหลังถูกบอกบริหารงานได้ไม่เท่า เผย ก.ศึกษาธิการ มีคนร้องให้ตรวจสอบปมจัดซื้อจัดจ้าง
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ตามกลไกรัฐธรรมนูญ แต่ถือว่าเร็วเกินไป เนื่องจากรัฐบาลเพิ่งมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งใหญ่ ควรปล่อยให้รัฐบาลได้ทำงานก่อน การยื่นอภิปรายเช่นนี้มองได้ว่ามีประเด็นทางการเมือง
เมื่อถามว่าการที่พรรคภูมิใจไทยที่เคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในขณะนี้ จะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ นั้นมองว่าเรื่องนี้มีเหตุผลเกิดจากอะไร นายประเสริฐ กล่าวว่า พอไปอยู่ฝ่ายค้าน ตนคิดว่าท่าทีก็คงจะเปลี่ยนไป เพราะฝ่ายค้านก็ต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล แต่ทั้งนี้การตรวจสอบขอให้ใช้เหตุใช้ผล อย่าใช้อารมณ์หรือใช้การเมืองเข้ามา เพราะตอนนี้ประเทศต้องเดินต่อ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเอง ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งเข้าใจว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อย่างไรก็ดียืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความกังวล การทำงานของรัฐมนตรีแต่ละท่านในพรรคเพื่อไทยก็ได้ยึดหลักกฎหมาย หลักความถูกต้องอยู่แล้ว
ส่วนการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่า กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยเคยดูแล หากพรรคเพื่อไทยนำไปดูแล คงจะบริหารได้ไม่ดีเท่ากับตอนที่บริหารงาน นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่จริง เรื่องนี้ตนขอปฏิเสธ เพราะหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายภารกิจให้กับรองนายกและรัฐมนตรีเข้าไปรักษาการกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบ ตอนนี้มีผู้ร้องมาแล้วว่าเกิดการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล และอยากให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นเรื่องของการใช้งบประมาณ โดยตนที่เป็นผู้รับผิดชอบให้กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ มีการแจ้งและทำหนังสือมายังตน และพบว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงกว่าปกติ ที่มีมูลค่ากว่าหมื่นล้าน และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยตนก็ได้ยินข่าวมา แต่ก็เป็นเรื่องของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย
ส่วนหากปรับคณะรัฐมนตรีแล้วเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม โปรเจกต์ใหญ่ที่เคยทำไว้จะดำเนินการต่ออย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า หากมีการปรับเปลี่ยน การทำงานก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะเราวางโครงสร้างการทำงานไว้แล้ว หากตนยังนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิม การดำเนินงานทุกอย่างก็จะไปต่อได้ง่าย ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีจริง ก็จะต้องมอบหมายงาน ซึ่งในฝ่ายของข้าราชการประจำก็พร้อมทำงานร่วมอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ อีกทั้งโครงการใหญ่ๆส่วนมากก็ดำเนินการด้วยนโยบายของฝ่ายการเมือง แต่ในส่วนของการลงรายละเอียด ข้าราชการประจำก็เป็นฝ่ายดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาได้ด้วยดีไม่ได้มีปัญหาอะไร .-316 -สำนักข่าวไทย
