กลาโหม 24 มิ.ย.- ‘ภูมิธรรม’ ปัดตอบ นั่งที่เดิมหรือไปที่ใหม่ แต่ยืนยันที่ผ่านมา การทำงานประสาน ผบ.เหล่าทัพ ราบรื่น ปัดแสดงความเห็น 2 อดีตนายทหารถูกนำเปรียบคุณสมบัติ นั่ง รมว.กห. เชื่อทุกคนสามารถทำได้หมด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะในสัดส่วนของกระทรวงกลาโหม ว่าอาจเป็นนายภูมิธรรมได้ดำรงตำแหน่งนี้ต่อ ว่า ในขณะนี้ ตนเองยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่ ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่ ขึ้นอยู่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่มีใครทราบว่าจะไปดำรงตำแหน่งไหน
ส่วนกระแสข่าวว่า มีการเสนอชื่อ พลเอก สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จากพรรคเพื่อไทย และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น ตนเองมองว่าผู้บังคับบัญชาในทุกระดับมีศักยภาพอยู่แล้ว มีความเพียบพร้อม มีความจงรักภักดี รวมถึงในการเติบโตมาในเส้นทางของทหาร ก็ได้รับการฝึกฝนวินัย ถูกฝึกความรับรู้ในการที่จะปกปักรักษา เพราะว่าทหารเป็นรั้ว เรามีหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของประเทศ ใครมาก็มีลักษณะที่ได้รับการฝึกฝนมาอยู่แล้ว แต่ว่าที่สำคัญกำลังพลทั้งหมด ในส่วนของเหล่าทัพ มีความพร้อมที่จะทำหน้าที่อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ พลเอกสุนัย ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จะเหมาะสมกว่าหรือไม่ในการมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเทียบกับ พลเอก ณัฐพล นายภูมิธรรมระบุว่า วันนี้เรายังไม่รู้หรอกว่าจะเป็นใครที่จะมาดำรงตำแหน่ง การไปสมมุติและเอามาเปรียบเทียบกันคงไม่เหมาะสม แต่เชื่อว่า ไม่ว่าผู้นำเหล่าทัพ หรือใครก็ตามที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำของกระทรวงกลาโหมหรือของกองทัพ เชื่อว่าคนในกองทัพทั้งหมดมีวินัย สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่เราถูกฝึกฝนมาได้ ไม่มีปัญหาอะไร แม้อาจจะมีความแตกต่างระหว่างบุคคลบ้าง แต่ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าใครจะเป็นใคร
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองเป็นนักการเมือง และสังกัดพรรครัฐบาล หน้าที่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ฉะนั้น ไม่ว่าจะมอบหมายให้ตนเองทำหน้าที่อะไร ก็พร้อมทำสุดความสามารถ ส่วนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของตนเองกับเหล่าทัพไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งนี้ ก็ได้ยืนยันว่าตนเองมีคุณสมบัติและมีความสามารถในการตัดสินใจในการดำเนินงาน ด้วยวิธีบริหารที่รับฟังจากทุกส่วน ทุกเหล่าทัพ ไม่ได้บริหารตามคำเรียกร้องหรือความต้องการของบุคคล รวมทั้งได้พูดคุยกับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทั้งหมดว่า หลายเรื่องที่โลกเปลี่ยนแปลงไปเราต้องปรับเปลี่ยน แต่จะสามารถปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเป็นจริง ขอให้วางแผนให้ชัดเจน มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนก็ไปได้หมด-313 .-สำนักข่าวไทย