แนะ 4 แนวทางพัฒนาศาลรธน. อำนวยความยุติธรรมสังคม

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.- “อุดม” ชี้สิทธิมนุษยชนทุกวันนี้ซับซ้อนกว่าอดีต แนะ 4 แนวทางพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญอำนวยความยุติธรรมให้สังคม จัดตั้งสถาบันกฎหมาย เสมือนสติปัญญาช่วยหาแนวทางแก้ไขในอนาคต


นายอุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายในการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) ในหัวข้อ การพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรับรองการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ว่า การพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพัฒนารองรับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายต่อศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันศาลที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับทุกประเทศ จากหลักการที่เห็นร่วมกันในนานาประเทศที่ถูกบัญญัติไว้ในปริญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 สนธิสัญญาต่าง ๆ ในรูปของสัญลักษณ์ระหว่างประเทศ ปฏิญญาระหว่างประเทศ ข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน นานาประเทศได้นำหลักการไปตราเป็นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีผลบังคับในประเทศของตนและส่งผลโดยตรงให้องค์กรใช้อำนาจรัฐ โดยต้องให้ความคุ้มครองและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในประเด็นสิทธิมนุษยชนดังกล่าว และเพื่อให้เคารพต่อหลักนิติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญจึงจัดให้มีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจทั้งการตรากฏหมายหรือการใช้อำนาจในการทำใด ๆ ในองค์กรของรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลอื่นเพื่อตรวจสอบกรณีที่มีการฟ้องว่ามีการใช้อำนาจไปในทางขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี การขยายขอบเขตของสิทธิมนุษยชนในมุมมองใหม่อันเนื่องมาจากการพัฒนาองค์ความรู้วิทยาการด้านต่าง ๆ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในเชิงสังคม ค่านิยม วิถีชีวิตของคนในตามสมัย ทำให้การวินิจฉัยคดีรัฐธรรมนูญจะต้องตอบปัญหาในเชิงเนื้อหาสิทธิและเสรีภาพใหม่ ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากอดีตอย่างมีนัยยะสำคัญ

นายอุดม กล่าวว่า ปัญหาสิทธิมนุษยชนในยุคสมัยปัจจุบันแตกต่างจากอดีต โดยอดีตนั้นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนมีความซับซ้อนไม่มาก เป็นปัญหาด้านการใช้อำนาจของรัฐที่มากเกินกว่าเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่รับรู้ในประเทศต่าง ๆ และมักจะมีมุมมองที่ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา หรือสิทธิความเสมอภาคระหว่างหญิงกับชาย สถานะของบุคคลที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม หรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือสิทธิของบุคคลในความเป็นอยู่ส่วนตัวในหลายประการ แต่ปัจจุบันวิธีคิดค่านิยม วิถีชีวิตของผู้คนในโลกปัจจุบัน ได้ขยายขอบเขตสิทธิมนุษยชนในมิติใหม่ ๆ ด้วยความรู้ในวิทยาการที่เปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาและคุณค่า โดยเฉพาะเรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในหลากหลายมิติ ทำให้พื้นที่ในการอภิปรายด้านสิทธิมนุษยชนเปิดกว้างมากขึ้น ปัญหาที่ศาลรัฐธรรมนูญไทยได้เจอ ไม่ว่าจะเป็นการวางกฏหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2562 ในการกำหนดกฎหมายกำหนดความผิดบุคคลที่ไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือกรณีขัดคำสั่งของคณะรัฐประหารที่ไม่ไปรายงานตัวในคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 เป็นตัวอย่างประกันของการสร้างแนวทางในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


นอกจากนี้ แนวโน้มของโลกต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลอย่างกว้างขวางเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการดำเนินชีวิต ตลอดจนผลกระทบที่ตามมาต่อความเป็นส่วนตัวของบุคคล ปัญหาเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นเรื่องสำคัญระดับต้น ๆ เช่น เมื่อปี 2560 มีการวินิจฉัยการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่โลกปัญหาภัยพิบัติ คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไต้หวัน กรณีการออกคำสั่งกำหนดเงื่อนไขระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547 ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ก็เป็นปัญหาทางศาลรัฐธรรมนูญ หรือในคดีห้ามคนรักร่วมเพศบริจาคโลหิต ในศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2557 ก็ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าคดีศาลรัฐธรรมนูญมีความน่าสนใจ เช่นเดียวกันกับปัญหาของการเปลี่ยนแปลงของการมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น ปัญหาความเปราะบางของบุคคลในสังคมก็กลายเป็นปัญหาที่สำคัญทางรัฐธรรมนูญ บุคคลเปราะบางในบางส่วนได้ร้องเรียนต่อศาล โดยเฉพาะการปฏิเสธสถานะของคนต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายแก่บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ จึงปัญหาในศาลสิทธิมนุษยชนในยุโรปในปี 2563 ช่วงเดียวกับปัญหารัฐธรรมนูญของไทยกรณีที่ให้อำนาจรัฐในการถอนสัญชาติบุคคลที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดเพราะว่าบิดาไทยไม่ได้มีสัญชาติไทย ในปี 2567

นายอุดม ยกตัวอย่าง ปัญหาของสตรีที่ทั่วโลกเผชิญ คือ การยุติการตั้งครรภ์ ในศาลรัฐธรรมนูญไทย เมื่อปี 2563 เป็นปีเดียวที่ศาลรัฐธรรมนูญเบลเยียมได้วินิจฉัย เรื่องการทำแท้งของหญิงเช่นเดียวกัน ปัญหาการคุ้มครองสถานะทางเพศของบุคคลและกลุ่มคนข้ามเพศ ในกรณีเพศที่สามหรือกลุ่มคนข้ามเพศในศาลสูงสุดของอินเดีย เมื่อปี 2557 รวมถึงเรื่องของการกำหนดการเปลี่ยนแปลงสถานะทางเพศในสูติบัตร ซึ่งเกิดขึ้นในศาลรัฐธรรมนูญอิตาลี เมื่อปี 2017 ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เห็นว่าปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเรื่องสถานะของบุคคล ก็กลายเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องเอามาวินิจฉัยและเป็นปัญหาที่สำคัญในสิทธิมนุษยชน ด้วยเหตุดังกล่าว สิทธิมนุษยชนกลายเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ซึ่งรัฐธรรมนูญให้การรับรองและเป็นหน้าที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่เป็นผู้คุ้มครองรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญต้องมีกลไกทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองเช่นนี้ จึงมีข้อแนะนำเกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมในสังคมสถานการณ์ปัจจุบัน 4 ประการ คือ

  1. การที่คัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องผ่านกระบวนการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการเข้าดำรงตำแหน่ง ในเบื้องต้น
  2. กลไกสนับสนุนการปฎิบัติงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นการรับคดี การแสวงหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไปจนถึงการทำคำวินิจฉัย ที่ไม่ใช่เพียงการกลั่นกรองข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่หมายถึงการศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าวว่าควรดำเนินไปในทิศทางใด เพื่อให้ธรรมนูญเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่รัฐธรรมนูญจะต้องสามารถบูรณากระบวนการทั้งหลายให้เหมาะสมกับประโยชน์ของสังคม เพื่ออำนวยความยุติธรรมผ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ การพัฒนาคุณภาพประสิทธิภาพกลไกที่เป็น Back Office ของศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถทำให้บทบาทของศาลธรรมนูญอำนวยความยุติธรรมในเรื่องสิทธิมนุษยชนได้อย่างแท้จริง
  3. การส่งเสริมคุณภาพของรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ที่ยกระดับความสามารถในการช่วยเหลือสังคม และต้องเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง ยึดมั่นในวิสัยทัศน์และพันธกิจเป็นที่มีลักษณะเฉพาะตัว ชี้ความเป็นไปของบ้านเมืองเพื่อให้ศาลรัฐรัฐธรรมนูญดำรงความน่าเชื่อถือในสายตาของสาธารณะชน โดยเฉพาะปัญหาสิทธิมนุษยชนที่มักเกิดแง่มุมที่ต้องอภิปรายถกเถียงในพื้นที่ในสิทธิเสรีภาพในมุมมองใหม่ ๆ โครงสร้างของการตัดสินการมีกลไกที่ผลักดันโดยศาลรัฐธรรมนูญต้องการรักษาความเป็นอิสระและไม่ถูกครอบงำโดยอำนาจใด ๆ ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรศาลกฏหมายมหาชน มีหลักประกันความเป็นอิสระและความเป็นกลางในการทำหน้าที่
  4. การจัดตั้งสถาบันกฏหมายรัฐธรรมนูญ แม้เราจะมีสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่า แล้ว การจัดตั้งสถาบันกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ละประเทศจะเป็นสิ่งที่สำคัญในการที่จะศึกษาวิจัยด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้วย สถาบันดังกล่าวจะเป็นเหมือนสติปัญญาที่สำคัญในการศึกษาค้นคว้าเรื่องการพัฒนาการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทางสังคมและทางเนื้อหาของสิทธิและในเชิงกระบวนการเพื่อให้เกิดมาตรการหรือกลไกในการคุ้มครองสิทธิที่มีประสิทธิภาพและสามารถคาดการณ์ทิศทางและบริบทให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยประสานส่งเสริมและเรียนรู้องค์กรต่าง ๆ ให้ผู้ที่มีความสนใจเพื่อส่งเสริมให้การคุ้มครองสิทธิสิทธิและเข้าร่วม และองค์กรหรือภาคีอื่น ๆ จะมีโอกาสร่วมงานเสริมสร้างการทำงานของรัฐธรรมนูญให้มั่นคงอยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญให้ศาลธรรมนูญเป็นผู้พิทักษ์ศาลรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]