แนะ 4 แนวทางพัฒนาศาลรธน. อำนวยความยุติธรรมสังคม

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.- “อุดม” ชี้สิทธิมนุษยชนทุกวันนี้ซับซ้อนกว่าอดีต แนะ 4 แนวทางพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญอำนวยความยุติธรรมให้สังคม จัดตั้งสถาบันกฎหมาย เสมือนสติปัญญาช่วยหาแนวทางแก้ไขในอนาคต


นายอุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายในการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) ในหัวข้อ การพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรับรองการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ว่า การพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพัฒนารองรับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายต่อศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันศาลที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับทุกประเทศ จากหลักการที่เห็นร่วมกันในนานาประเทศที่ถูกบัญญัติไว้ในปริญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 สนธิสัญญาต่าง ๆ ในรูปของสัญลักษณ์ระหว่างประเทศ ปฏิญญาระหว่างประเทศ ข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน นานาประเทศได้นำหลักการไปตราเป็นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีผลบังคับในประเทศของตนและส่งผลโดยตรงให้องค์กรใช้อำนาจรัฐ โดยต้องให้ความคุ้มครองและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในประเด็นสิทธิมนุษยชนดังกล่าว และเพื่อให้เคารพต่อหลักนิติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญจึงจัดให้มีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจทั้งการตรากฏหมายหรือการใช้อำนาจในการทำใด ๆ ในองค์กรของรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลอื่นเพื่อตรวจสอบกรณีที่มีการฟ้องว่ามีการใช้อำนาจไปในทางขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี การขยายขอบเขตของสิทธิมนุษยชนในมุมมองใหม่อันเนื่องมาจากการพัฒนาองค์ความรู้วิทยาการด้านต่าง ๆ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในเชิงสังคม ค่านิยม วิถีชีวิตของคนในตามสมัย ทำให้การวินิจฉัยคดีรัฐธรรมนูญจะต้องตอบปัญหาในเชิงเนื้อหาสิทธิและเสรีภาพใหม่ ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากอดีตอย่างมีนัยยะสำคัญ

นายอุดม กล่าวว่า ปัญหาสิทธิมนุษยชนในยุคสมัยปัจจุบันแตกต่างจากอดีต โดยอดีตนั้นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนมีความซับซ้อนไม่มาก เป็นปัญหาด้านการใช้อำนาจของรัฐที่มากเกินกว่าเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่รับรู้ในประเทศต่าง ๆ และมักจะมีมุมมองที่ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา หรือสิทธิความเสมอภาคระหว่างหญิงกับชาย สถานะของบุคคลที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม หรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือสิทธิของบุคคลในความเป็นอยู่ส่วนตัวในหลายประการ แต่ปัจจุบันวิธีคิดค่านิยม วิถีชีวิตของผู้คนในโลกปัจจุบัน ได้ขยายขอบเขตสิทธิมนุษยชนในมิติใหม่ ๆ ด้วยความรู้ในวิทยาการที่เปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาและคุณค่า โดยเฉพาะเรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในหลากหลายมิติ ทำให้พื้นที่ในการอภิปรายด้านสิทธิมนุษยชนเปิดกว้างมากขึ้น ปัญหาที่ศาลรัฐธรรมนูญไทยได้เจอ ไม่ว่าจะเป็นการวางกฏหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2562 ในการกำหนดกฎหมายกำหนดความผิดบุคคลที่ไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือกรณีขัดคำสั่งของคณะรัฐประหารที่ไม่ไปรายงานตัวในคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 เป็นตัวอย่างประกันของการสร้างแนวทางในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


นอกจากนี้ แนวโน้มของโลกต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลอย่างกว้างขวางเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการดำเนินชีวิต ตลอดจนผลกระทบที่ตามมาต่อความเป็นส่วนตัวของบุคคล ปัญหาเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นเรื่องสำคัญระดับต้น ๆ เช่น เมื่อปี 2560 มีการวินิจฉัยการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่โลกปัญหาภัยพิบัติ คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไต้หวัน กรณีการออกคำสั่งกำหนดเงื่อนไขระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547 ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ก็เป็นปัญหาทางศาลรัฐธรรมนูญ หรือในคดีห้ามคนรักร่วมเพศบริจาคโลหิต ในศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2557 ก็ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าคดีศาลรัฐธรรมนูญมีความน่าสนใจ เช่นเดียวกันกับปัญหาของการเปลี่ยนแปลงของการมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น ปัญหาความเปราะบางของบุคคลในสังคมก็กลายเป็นปัญหาที่สำคัญทางรัฐธรรมนูญ บุคคลเปราะบางในบางส่วนได้ร้องเรียนต่อศาล โดยเฉพาะการปฏิเสธสถานะของคนต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายแก่บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ จึงปัญหาในศาลสิทธิมนุษยชนในยุโรปในปี 2563 ช่วงเดียวกับปัญหารัฐธรรมนูญของไทยกรณีที่ให้อำนาจรัฐในการถอนสัญชาติบุคคลที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดเพราะว่าบิดาไทยไม่ได้มีสัญชาติไทย ในปี 2567

นายอุดม ยกตัวอย่าง ปัญหาของสตรีที่ทั่วโลกเผชิญ คือ การยุติการตั้งครรภ์ ในศาลรัฐธรรมนูญไทย เมื่อปี 2563 เป็นปีเดียวที่ศาลรัฐธรรมนูญเบลเยียมได้วินิจฉัย เรื่องการทำแท้งของหญิงเช่นเดียวกัน ปัญหาการคุ้มครองสถานะทางเพศของบุคคลและกลุ่มคนข้ามเพศ ในกรณีเพศที่สามหรือกลุ่มคนข้ามเพศในศาลสูงสุดของอินเดีย เมื่อปี 2557 รวมถึงเรื่องของการกำหนดการเปลี่ยนแปลงสถานะทางเพศในสูติบัตร ซึ่งเกิดขึ้นในศาลรัฐธรรมนูญอิตาลี เมื่อปี 2017 ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เห็นว่าปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเรื่องสถานะของบุคคล ก็กลายเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องเอามาวินิจฉัยและเป็นปัญหาที่สำคัญในสิทธิมนุษยชน ด้วยเหตุดังกล่าว สิทธิมนุษยชนกลายเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ซึ่งรัฐธรรมนูญให้การรับรองและเป็นหน้าที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่เป็นผู้คุ้มครองรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญต้องมีกลไกทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองเช่นนี้ จึงมีข้อแนะนำเกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมในสังคมสถานการณ์ปัจจุบัน 4 ประการ คือ

  1. การที่คัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องผ่านกระบวนการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการเข้าดำรงตำแหน่ง ในเบื้องต้น
  2. กลไกสนับสนุนการปฎิบัติงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นการรับคดี การแสวงหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไปจนถึงการทำคำวินิจฉัย ที่ไม่ใช่เพียงการกลั่นกรองข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่หมายถึงการศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าวว่าควรดำเนินไปในทิศทางใด เพื่อให้ธรรมนูญเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่รัฐธรรมนูญจะต้องสามารถบูรณากระบวนการทั้งหลายให้เหมาะสมกับประโยชน์ของสังคม เพื่ออำนวยความยุติธรรมผ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ การพัฒนาคุณภาพประสิทธิภาพกลไกที่เป็น Back Office ของศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถทำให้บทบาทของศาลธรรมนูญอำนวยความยุติธรรมในเรื่องสิทธิมนุษยชนได้อย่างแท้จริง
  3. การส่งเสริมคุณภาพของรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ที่ยกระดับความสามารถในการช่วยเหลือสังคม และต้องเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง ยึดมั่นในวิสัยทัศน์และพันธกิจเป็นที่มีลักษณะเฉพาะตัว ชี้ความเป็นไปของบ้านเมืองเพื่อให้ศาลรัฐรัฐธรรมนูญดำรงความน่าเชื่อถือในสายตาของสาธารณะชน โดยเฉพาะปัญหาสิทธิมนุษยชนที่มักเกิดแง่มุมที่ต้องอภิปรายถกเถียงในพื้นที่ในสิทธิเสรีภาพในมุมมองใหม่ ๆ โครงสร้างของการตัดสินการมีกลไกที่ผลักดันโดยศาลรัฐธรรมนูญต้องการรักษาความเป็นอิสระและไม่ถูกครอบงำโดยอำนาจใด ๆ ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรศาลกฏหมายมหาชน มีหลักประกันความเป็นอิสระและความเป็นกลางในการทำหน้าที่
  4. การจัดตั้งสถาบันกฏหมายรัฐธรรมนูญ แม้เราจะมีสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่า แล้ว การจัดตั้งสถาบันกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ละประเทศจะเป็นสิ่งที่สำคัญในการที่จะศึกษาวิจัยด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้วย สถาบันดังกล่าวจะเป็นเหมือนสติปัญญาที่สำคัญในการศึกษาค้นคว้าเรื่องการพัฒนาการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทางสังคมและทางเนื้อหาของสิทธิและในเชิงกระบวนการเพื่อให้เกิดมาตรการหรือกลไกในการคุ้มครองสิทธิที่มีประสิทธิภาพและสามารถคาดการณ์ทิศทางและบริบทให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยประสานส่งเสริมและเรียนรู้องค์กรต่าง ๆ ให้ผู้ที่มีความสนใจเพื่อส่งเสริมให้การคุ้มครองสิทธิสิทธิและเข้าร่วม และองค์กรหรือภาคีอื่น ๆ จะมีโอกาสร่วมงานเสริมสร้างการทำงานของรัฐธรรมนูญให้มั่นคงอยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญให้ศาลธรรมนูญเป็นผู้พิทักษ์ศาลรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม. เคาะ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เปิดให้ปชช.ลงทะเบียนคืนนี้

ทำเนียบ 24 มิ.ย.-“สรวงศ์” เผย ครม. อนุมัติ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” แล้ว เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนคืนนี้ ก่อนเที่ยวจริง 1 ก.ค. 68 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา ซึ่งโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งก็อยู่ในงบประมาณดังกล่าว โดยมีการตั้งงบประมาณไว้ในวงเงิน 1,750 ล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราจึงได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการล่วงหน้า ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยกับทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนได้ภายในคืนนี้ และจะเริ่มใช้สิทธิ์เที่ยวได้จริงในวันที่ 1 กรกฎาคม.-(315) -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาประท้วงไทยกรณีแจ้งดำเนินคดี ‘ฮุน เซน’

พนมเปญ, 23 มิ.ย. – กัมพูชายื่นเรื่องร้องเรียนทางการไทย หลังไทยแจ้งดำเนินคดีกับนายฮุน เซน นอกจากนี้ยังมีคำเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทยด้วย กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งบันทึกทางการทูตที่มีถ้อยคำแข็งกร้าวถึงสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญเพื่อประท้วงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เอาผิดกับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยคลิปเสียงสนทนากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าการปล่อยคลิปเสียงเป็นภัยต่อความมั่นคง และสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า ต้องการเน้นย้ำว่าบันทึกการสนทนาระหว่างผู้นำประเทศถือเป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันด้านความถูกต้องแม่นยำและโปร่งใส และว่าการแจ้งดำเนินคดีของนายสมคิดเป็นการกระทำที่มีแรงจูงใจทางการเมืองซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างไทยกับกัมพูชา และยังทำลายหลักการความเสมอภาคของอธิปไตย ตลอดจนความเคารพซึ่งกันและกันตามที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมกันนี้กัมพูชาขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยใช้มาตรที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขและป้องกันการกระทำใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ฉันมิตรอันยาวนานระหว่างไทยกับกัมพูชา อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ออกคำเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และขอให้ชาวกัมพูชาที่อยู่ในไทยติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด และให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตราย เช่น พื้นที่ทีการชุมนุมทุกชนิดเพื่อความปลอดภัย ส่วนกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชาก็ออกมายืนยันว่า กัมพูชามีขีดความสามารถในการจัดหาเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศอย่างแน่นอน หลังจากที่นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรี ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทยทั้งหมด ซึ่งมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา.-816.-สำนักข่าวไทย

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.ภูมิใจไทย ยังอยู่ครบ หลังถูกแรงดูด

ภูมิใจไทย 24 มิ.ย. – ‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.พรรคภูมิใจไทยยังอยู่ครบ หลังถูก ‘แรงดูด’ ยังอุบเป็นพรรคไหน เผยหลังเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ชาวบ้านชมตัดสินใจถูกต้อง อัดกลับไม่ควรใช้วิธีสกปรก หลังเจอใส่ความ ‘น.หนู’ เบื้องหลังจัดม็อบ-ปล่อยคลิปเสียงหลุด ขอเคลียร์ไม่เคยชวนใครตามออกมา ย้อนถามกลับ ‘พรรคอนุรักษ์นิยม’ คืออะไร นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีสส.ของพรรคถูกดูด หลังออกมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า สส.ของพรรคยังอยู่ครบทั้ง 69 คน แต่ที่ทราบมาก็มีแรงดูด แต่ก็ดูดไม่ได้ โดยสส.ที่ได้รับการติดต่อมาก็เล่าให้ฟัง ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน และไม่เชื่อถือในระบบการเมืองที่มีการดูดสส.กัน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคยึดถือการเมืองรุ่นใหม่ เมื่อถามว่า เขาดูดด้วยอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีเงื่อนไขอะไรต่างๆหลายอย่าง เมื่อถามว่า เป็นพรรคแกนนำ หรือพรรคร่วมรัฐบาลที่มาดูด นายอนุทิน กล่าวว่า อย่ามาพูดตรงนี้เลย ถ้ามาพูดตรงนี้เดี๋ยวคราวหลังเขาไม่เล่าให้ฟัง เมื่อถามว่าหลังกรณีเกิดคลิปเสียงหลุดระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ชาวบ้านสะท้อนอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย […]

รวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท กลางห้างดังหาดใหญ่

สงขลา 24 มิ.ย. – ตำรวจรวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท ร้านทองในห้างดังกลางเมืองหาดใหญ่ อ้างเดือดร้อนเรื่องเงิน ครอบครัวมีหนี้สิน ตำรวจสายตรวจ สภ.หาดใหญ่ ออกตรวจพื้นที่ สามารถจับกุมชายวัย 35 ปีไว้ได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 5 เส้น มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท หลังบุกเดี่ยวชิงทองภายในห้างกลางเมืองหาดใหญ่ และวิ่งข้ามถนนหนีเข้าไปในซอยใกล้เคียง ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายสวมเสื้อฮู้ดคลุมศีรษะเข้ามาก่อเหตุ และไม่ได้ทำร้ายพนักงานร้านทอง เจ้าตัวอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน และครอบครัวมีหนี้สิน วันนี้ต้องหาเงินให้ได้ จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ รับ ครม.ใหม่ลงตัวแล้ว ยันไม่ควบเก้าอี้ กห.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- นายกฯ ยอมรับคณะรัฐมนตรีใหม่ลงตัวแล้ว ส่งรายชื่อรัฐมนตรีบางส่วนตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่ควบเก้าอี้กลาโหมแน่นอน มองต้องเป็นคนเหมาะสมดูแลเรื่องชายแดนได้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีความลงตัว โดยได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนแล้ว หลังจากนี้จะส่งรายชื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งบางรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยันปัญหาของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นจบแล้ว ส่วนกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กดดันให้ตนเองลาออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติ รวมถึงได้พูดคุยกันที่โรงแรมโรสวูด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ยืนยันทุกพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุน และให้กำลังใจ ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนหลังจากนี้จะมีเสียงใครมาเติมให้รัฐบาลหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังแข็งแรงอยู่ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะมีปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ ไว้ได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้วจะบอกอีกครั้ง พร้อมยืนยันตนเองจะไม่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแน่นอน สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ยึดหลักการอะไรในการวางบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกกระทรวงต้องรับมือให้พร้อม เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ต้องช่วยกันอย่างบูรณาการ จึงต้องเป็นคนที่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้ ซึ่งทุกวันนี้มีนายภูมิธรรม เวชยชัย […]

ปิดด่านคลองลึกวันแรกเงียบเหงา ชาวกัมพูชารอข้ามแดน

สระแก้ว 24 มิ.ย.-บรรยากาศการปิดด่านพรมแดนคลองลึก จ.สระแก้ว วันแรก เงียบเหงา มีนักเรียนข้ามแดนบางตา ขณะที่ชาวกัมพูชามานั่งรอเพื่อข้ามแดนกลับประเทศ สถานการณ์ที่ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังกองทัพมีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา เช้าวันนี้มีชาวกัมพูชาประมาณ 40 คนที่พากันมานั่งรอ เพราะคาดหวังว่าจะได้ข้ามกลับไปกัมพูชา ส่วนนักเรียนข้ามแดนค่อนข้างบางตา แม้ว่าทางการอนุญาตให้นักเรียนสามารถเดินทางข้ามแดนไป-กลับเพื่อศึกษาเล่าเรียนได้ในช่วงเวลา 06.00 น. และ 17.00 น. ของแต่ละวัน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จว.สระแก้ว ก็ได้นำกำลัง ตร.ควบคุมฝูงชน 170 นาย เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย และคอยช่วย จนท.ตม.ทำความเข้าใจกับชาวกัมพูชา ที่มารอข้ามแดน ซึ่งหลังจากที่มีคนเริ่มมารอมากขึ้น จึงได้มีการประกาศให้ทราบว่า ในวันนี้ช่วงเวลา 17.00-20.00 น. จึงจะเปิดด่าน ให้ชาวกัมพูชาสามารถข้ามกลับไปยังประเทศของตนได้ เนื่องจากคนที่มารอมีทั้งคนที่ไม่ทราบข่าวว่ามีการปิดด่าน และคนที่ทราบ ก็มาโดยที่คาดว่าอาจจะไม่เข้มงวดขนาดนั้น แต่ที่สุดก็ต้องนั่งรอเพื่อข้ามแดนพร้อมกับคนอื่นๆ ในช่วงเย็นวันนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจดีถึงสถานการณ์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากชาวกัมพูชา ก็มีชาวไทยและชาวต่างชาติอีกประปราย ที่เดินทางมาขอข้ามแดนเพื่อไปทำงานหรือทำธุระ แต่ภาพรวมขณะนี้ยังถือมีความเรียบร้อยดี.-สำนักข่าวไทย