ประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.-“นครินทร์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย “จิรนิติ” เผย 3 ทศวรรษศาลผ่านแรงเสียดทาน ยุบพรรคมามาก ช่วยไทยรอดวิกฤตทางการเมือง ห่วงยุค AI รุกล้ำสิทธิประชาชน

ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคม และจัดการบรรยายสาธารณะ หัวข้อ “The Courts and the Protection of Human Rights” โดยมีนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญและในฐานะประธานสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับวิทยากร ซึ่งการจัดการประชุมครั้งนี้มีประเทศสมาชิกเข้าร่วม ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐทูร์เคีย สาธารณรัฐอุซเบกิสถานและการประชุมรูปแบบออนไลน์จากประเทศสมาชิก อื่นๆ ที่ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 21 ประเทศ


นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายหัวข้อ “3 ทศวรรษของศาลรัฐธรรมนูญไทย และความท้าทายในทศวรรษหน้า” ว่าศาลรัฐธรรมนูญมาถึง 3 ทศวรรษแล้ว ในช่วงเริ่มต้นการก่อตั้งศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ปี 2541-2549 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 หน้าที่สำคัญคือการตรวจสอบว่ากฎหมายระดับพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบมีหลักสำคัญคือหลักนิติธรรม และหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในทศวรรษแรกก็จะมีคำถามว่ามีศาลรัฐธรรมนูญไปทำไม ดังนั้นในช่วงนั้นเราจึงตั้งคำถามนี้ ซึ่งก็จะเป็นการวางรากฐานคดีรัฐธรรมนูญว่าเป็นคดีประเภทไหน คดีอะไร จะเห็นว่าคำวินิจฉัยในยุคนั้นจะทำความเข้าใจว่าบทบาทหรืออำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญคืออะไร โดยจะวินิจฉัยเฉพาะพระราชบัญญัติที่มีปัญหาเรื่องขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่นกฎกระทรวง ข้อบังคับสภาเทศบาลตำบล หรือประกาศธนาคารพาณิชย์ พวกนี้จะไม่ใช่ปัญหากฎหมายที่จะมาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะเป็นปัญหาที่จะไปสู่ศาลปกครอง หรือแม้คำสั่งนายกรัฐมนตรีเราก็จะไม่รับวินิจฉัย ซึ่งในทศวรรษแรกยังไม่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีข้อกำหนดวิธีพิจารณาของตัวเองไปพลางก่อน

นายจิรนิต กล่าวว่า ต่อมายุคทศวรรษที่ 2 ตั้งแต่ปี 2550 – 2557 ยุคเผชิญวิกฤตการเมือง จะเห็นว่าตอนนั้นก็มีปัญหาทางการเมืองมากมาย ซึ่งเป็นยุคที่เราจะต้องมีส่วนในการพาประเทศฝ่าวิกฤตทางการเมือง เช่น คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช เนื่องจากมีรายได้ทางสื่อ หรือคำวินิจฉัยในคดีเสียบบัตรแทนกัน เพื่อโหวตผ่านกฎหมาย ซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้การได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยไม่ใช่วิธีทางรัฐธรรมนูญ หรือ ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเพราะโยกย้ายข้าราชการเพื่อให้ญาติของตนมาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งยุคนั้นก็มีปัญหาทางการเมืองมาก ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ฟันฝ่าอุปสรรค โดยเฉพาะสมัยนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีที่ตั้งอยู่ที่พาหุรัด ก็โดนระเบิด M79 ยิง


ต่อมายุคที่ 3 ยุคขยายบทบาทศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มีบทบาทสำคัญที่เข้ามาในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือการพิจารณาคดีร้องทุกข์ทางรัฐธรรมนูญ โดยจะพิจารณาเรื่องการกระทำของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ก็ยังมีปัญหาทางการเมืองมากอยู่เหมือนกัน ยุบพรรคการเมืองไปเยอะพอสมควร ความจริงก่อนหน้านี้ก็มีการยุบพรรคการเมืองแต่ส่วนมากก็เป็นเรื่องของการไม่ทำบัญชีรายชื่อสมาชิก ไม่ทำรายงานการดำเนินการหรือไม่ทำรายงานเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินส่ง กกต. ซึ่งในยุคปัจจุบันเรื่องคดีเกี่ยวกับทางการเมืองมีความเข้มข้นขึ้นเช่น คดียุบพรรคการเมืองจากการเสนอชื่อพระราชวงศ์ชั้นสูงมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญพระมหากษัตริย์จะอยู่เหนือการเมือง หรือการที่พรรคการเมืองไปกู้ยืมเงินหัวหน้าพรรค หรือ สมาชิกภาพของสส.สิ้นสุดลงเมื่อถือหุ้นสื่อ นอกจากนี้มีคดีที่สำคัญแต่คนไม่ค่อยพูดถึงคือประกาศคสช.ที่ให้ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลมารายงานตัว เมื่อสิ้นสุดสถานการณ์ความมั่นคงแล้วย่อมขัดหรือแย้งและรัฐธรรมนูญ

โดยสมัยก่อนไม่ว่าศาลไหนในไทยก็จะไม่แตะต้องคำสั่งของคณะรัฐประหาร แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าคำสั่งของคณะรัฐประหารใช้เฉพาะในเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะต้องรักษาความมั่นคง แต่เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติคำสั่งนี้ก็ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคำสั่งแรกที่ศาลในประเทศไทยวินิจฉัยเกี่ยวกับคำสั่งของรัฐประหาร

นายจิรนิติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นไม่ว่าจะเป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงทำประชามติเสียก่อน ซึ่งคำถามนี้ก็ยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย และคดีสำคัญกรณีการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่มีเหตุจูงใจล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการรณรงค์ดังกล่าวนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นคำที่คนพูดกันบ่อยๆนั่นคือ “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” นำไปสู่การล้มล้าง ก็ต้องให้เลิกกระทำการอย่างนั้นเสีย ซึ่งพอวินิจฉัยคดีนี้ไป ตนขับรถผ่านสามเหลี่ยมดินแดงทีไรก็คิดทุกทีว่าวินิจฉัยถูกแล้ว เพราะแต่ก่อนถนนเส้นนั้นในช่วงค่ำผ่านไม่ได้ เนื่องจากมีม็อบแล้วมีการขว้างระเบิดกัน หลังจากคำวินิจฉัยนั้นออกมาก็สงบเรียบร้อยดี จะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญช่วยแก้วิกฤติการเมืองให้กับประเทศไปเยอะทีเดียว


นายจิรนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะก้าวสู่ในทศวรรษที่ 4 ความท้าทายคือจะทำยังไงให้ได้รับความเชื่อมั่นต่อประชาชนและรักษาความเป็นกลางได้เพราะว่าในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีบทบาทโดยเฉพาะทางการเมือง ซึ่งทางการเมืองพยายามเข้ามาแทรกเข้ามาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ พยายามจะเปลี่ยนองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งเราคงจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคตรงนี้ และที่สำคัญเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งปัญหาที่จะเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญมันไม่ใช่เรื่อง AI เกี่ยวกับทางวิชาการ แต่ปัญหาคือถ้าเป็น AI ของหน่วยงานของรัฐ แล้วไปคิดเองเออเองเที่ยวละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าเกิดขึ้นเราจะตั้งรับมันอย่างไร ก็จะมีข้ออ้างว่า AI คิดเอง หน่วยงานของรัฐไม่ได้ทำ เหมือนกับคำวินิจฉัยในต่างประเทศที่ AI คิด วาดรูปโครงสร้าง หรือทำสูตรนั้นสูตรนี้ขึ้นมาแล้วศาลบางประเทศระบุว่า AI ไม่ใช่มนุษย์ เพราะฉะนั้นไม่มีลิขสิทธิ แต่ถ้าเป็นหน่วยงานรัฐแล้วไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แล้วเราจะปฏิเสธได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องที่ AI คิดเอง ทำเอง ไปแทรกแซงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใช้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องคิดกันต่อไป.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]