ประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.-“นครินทร์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย “จิรนิติ” เผย 3 ทศวรรษศาลผ่านแรงเสียดทาน ยุบพรรคมามาก ช่วยไทยรอดวิกฤตทางการเมือง ห่วงยุค AI รุกล้ำสิทธิประชาชน

ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคม และจัดการบรรยายสาธารณะ หัวข้อ “The Courts and the Protection of Human Rights” โดยมีนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญและในฐานะประธานสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับวิทยากร ซึ่งการจัดการประชุมครั้งนี้มีประเทศสมาชิกเข้าร่วม ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐทูร์เคีย สาธารณรัฐอุซเบกิสถานและการประชุมรูปแบบออนไลน์จากประเทศสมาชิก อื่นๆ ที่ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 21 ประเทศ


นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายหัวข้อ “3 ทศวรรษของศาลรัฐธรรมนูญไทย และความท้าทายในทศวรรษหน้า” ว่าศาลรัฐธรรมนูญมาถึง 3 ทศวรรษแล้ว ในช่วงเริ่มต้นการก่อตั้งศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ปี 2541-2549 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 หน้าที่สำคัญคือการตรวจสอบว่ากฎหมายระดับพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบมีหลักสำคัญคือหลักนิติธรรม และหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในทศวรรษแรกก็จะมีคำถามว่ามีศาลรัฐธรรมนูญไปทำไม ดังนั้นในช่วงนั้นเราจึงตั้งคำถามนี้ ซึ่งก็จะเป็นการวางรากฐานคดีรัฐธรรมนูญว่าเป็นคดีประเภทไหน คดีอะไร จะเห็นว่าคำวินิจฉัยในยุคนั้นจะทำความเข้าใจว่าบทบาทหรืออำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญคืออะไร โดยจะวินิจฉัยเฉพาะพระราชบัญญัติที่มีปัญหาเรื่องขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่นกฎกระทรวง ข้อบังคับสภาเทศบาลตำบล หรือประกาศธนาคารพาณิชย์ พวกนี้จะไม่ใช่ปัญหากฎหมายที่จะมาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะเป็นปัญหาที่จะไปสู่ศาลปกครอง หรือแม้คำสั่งนายกรัฐมนตรีเราก็จะไม่รับวินิจฉัย ซึ่งในทศวรรษแรกยังไม่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีข้อกำหนดวิธีพิจารณาของตัวเองไปพลางก่อน

นายจิรนิต กล่าวว่า ต่อมายุคทศวรรษที่ 2 ตั้งแต่ปี 2550 – 2557 ยุคเผชิญวิกฤตการเมือง จะเห็นว่าตอนนั้นก็มีปัญหาทางการเมืองมากมาย ซึ่งเป็นยุคที่เราจะต้องมีส่วนในการพาประเทศฝ่าวิกฤตทางการเมือง เช่น คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช เนื่องจากมีรายได้ทางสื่อ หรือคำวินิจฉัยในคดีเสียบบัตรแทนกัน เพื่อโหวตผ่านกฎหมาย ซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้การได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยไม่ใช่วิธีทางรัฐธรรมนูญ หรือ ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเพราะโยกย้ายข้าราชการเพื่อให้ญาติของตนมาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งยุคนั้นก็มีปัญหาทางการเมืองมาก ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ฟันฝ่าอุปสรรค โดยเฉพาะสมัยนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีที่ตั้งอยู่ที่พาหุรัด ก็โดนระเบิด M79 ยิง


ต่อมายุคที่ 3 ยุคขยายบทบาทศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มีบทบาทสำคัญที่เข้ามาในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือการพิจารณาคดีร้องทุกข์ทางรัฐธรรมนูญ โดยจะพิจารณาเรื่องการกระทำของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ก็ยังมีปัญหาทางการเมืองมากอยู่เหมือนกัน ยุบพรรคการเมืองไปเยอะพอสมควร ความจริงก่อนหน้านี้ก็มีการยุบพรรคการเมืองแต่ส่วนมากก็เป็นเรื่องของการไม่ทำบัญชีรายชื่อสมาชิก ไม่ทำรายงานการดำเนินการหรือไม่ทำรายงานเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินส่ง กกต. ซึ่งในยุคปัจจุบันเรื่องคดีเกี่ยวกับทางการเมืองมีความเข้มข้นขึ้นเช่น คดียุบพรรคการเมืองจากการเสนอชื่อพระราชวงศ์ชั้นสูงมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญพระมหากษัตริย์จะอยู่เหนือการเมือง หรือการที่พรรคการเมืองไปกู้ยืมเงินหัวหน้าพรรค หรือ สมาชิกภาพของสส.สิ้นสุดลงเมื่อถือหุ้นสื่อ นอกจากนี้มีคดีที่สำคัญแต่คนไม่ค่อยพูดถึงคือประกาศคสช.ที่ให้ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลมารายงานตัว เมื่อสิ้นสุดสถานการณ์ความมั่นคงแล้วย่อมขัดหรือแย้งและรัฐธรรมนูญ

โดยสมัยก่อนไม่ว่าศาลไหนในไทยก็จะไม่แตะต้องคำสั่งของคณะรัฐประหาร แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าคำสั่งของคณะรัฐประหารใช้เฉพาะในเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะต้องรักษาความมั่นคง แต่เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติคำสั่งนี้ก็ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคำสั่งแรกที่ศาลในประเทศไทยวินิจฉัยเกี่ยวกับคำสั่งของรัฐประหาร

นายจิรนิติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นไม่ว่าจะเป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงทำประชามติเสียก่อน ซึ่งคำถามนี้ก็ยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย และคดีสำคัญกรณีการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่มีเหตุจูงใจล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการรณรงค์ดังกล่าวนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นคำที่คนพูดกันบ่อยๆนั่นคือ “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” นำไปสู่การล้มล้าง ก็ต้องให้เลิกกระทำการอย่างนั้นเสีย ซึ่งพอวินิจฉัยคดีนี้ไป ตนขับรถผ่านสามเหลี่ยมดินแดงทีไรก็คิดทุกทีว่าวินิจฉัยถูกแล้ว เพราะแต่ก่อนถนนเส้นนั้นในช่วงค่ำผ่านไม่ได้ เนื่องจากมีม็อบแล้วมีการขว้างระเบิดกัน หลังจากคำวินิจฉัยนั้นออกมาก็สงบเรียบร้อยดี จะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญช่วยแก้วิกฤติการเมืองให้กับประเทศไปเยอะทีเดียว


นายจิรนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะก้าวสู่ในทศวรรษที่ 4 ความท้าทายคือจะทำยังไงให้ได้รับความเชื่อมั่นต่อประชาชนและรักษาความเป็นกลางได้เพราะว่าในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีบทบาทโดยเฉพาะทางการเมือง ซึ่งทางการเมืองพยายามเข้ามาแทรกเข้ามาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ พยายามจะเปลี่ยนองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งเราคงจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคตรงนี้ และที่สำคัญเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งปัญหาที่จะเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญมันไม่ใช่เรื่อง AI เกี่ยวกับทางวิชาการ แต่ปัญหาคือถ้าเป็น AI ของหน่วยงานของรัฐ แล้วไปคิดเองเออเองเที่ยวละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าเกิดขึ้นเราจะตั้งรับมันอย่างไร ก็จะมีข้ออ้างว่า AI คิดเอง หน่วยงานของรัฐไม่ได้ทำ เหมือนกับคำวินิจฉัยในต่างประเทศที่ AI คิด วาดรูปโครงสร้าง หรือทำสูตรนั้นสูตรนี้ขึ้นมาแล้วศาลบางประเทศระบุว่า AI ไม่ใช่มนุษย์ เพราะฉะนั้นไม่มีลิขสิทธิ แต่ถ้าเป็นหน่วยงานรัฐแล้วไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แล้วเราจะปฏิเสธได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องที่ AI คิดเอง ทำเอง ไปแทรกแซงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใช้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องคิดกันต่อไป.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]