“ภูมิธรรม” ย้ำใช้ข้อตกลง MOU43 ปรับกำลังพื้นที่ขัดแย้งช่องบก

ทำเนียบ 24 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” โต้ “สมชัย” ไม่มีลงนามยอมให้ทหารกัมพูชาอยู่บนปราสาทตาเมือนธม ย้ำใช้ข้อตกลง MOU43 ปรับกำลังพื้นที่ขัดแย้งช่องบก ชี้ เปิด-ปิดด่าน ต้องพร้อมกัน ขอแยกแยะมาตรการแก้ปัญหาสแกมเมอร์-ชายแดน เป็นคนละเรื่อง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า จริงหรือไม่ที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม ไปลงนามยินยอมให้ทหารกัมพูชามาประจำการที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า การที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ในปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่ความขัดแย้งเดิมอยู่แล้ว การที่กัมพูชานำเรื่องนี้ไปขึ้นศาลโลก เป็นเรื่องที่ถูกดำเนินการไว้อยู่แล้ว ก็สามารถแต่การที่มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาสามารถขึ้นมากราบไหว้ได้ และเดินทางกลับไป แต่เมื่อขึ้นมาแล้ว การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และแสดงความเป็นเจ้าของไทย ไทยก็ดำเนินการประท้วงและไม่อนุญาตให้เข้ามา ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการประท้วงด้วยลายลักษณ์อักษรทั้งหมด ทั้งกองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศได้รวบรวมเรื่องนี้ไว้หมดแล้ว ซึ่งเกิดการประท้วงนับ 600 ครั้ง พร้อมยืนยันว่า มีเอกสารและหลักฐานทั้งหมด และข้อตกลง MOU43 ตามหลักการจะมีการลาดตระเวนทั้งสองฝ่าย และต้องช่วยกันดู ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการตามกรอบที่ดำเนินการก่อนหน้านี้ แต่สิ่งไหนที่ล่วงละเมิดไทยก็ไม่ยอม ดังนั้น การที่นายสมชัย จะออกมาพูดอะไรต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ยืนยัน ไม่ได้มีการเซ็นยินยอมอะไร ทั้งหมดเป็นไปตามเป็นไปตามกรอบ MOU43 ที่ดำเนินการให้อยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า ไทยดำเนินการด้วยสันติวิธี และดำเนินการผ่านกลไกทวิภาคีเป็นหลัก เพื่อให้เกิดการพูดคุยในทุกระดับ และการพูดคุยในระดับคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ไทย – กัมพูชา ไม่เคยล้มเหลว ส่วนการประชุมชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC จะพูดคุยระดับแม่ทัพ ซึ่งเท่าที่ทราบกองทัพกำลังพูดคุยกันเพื่อเข้าสู่เวที RBC เส้นทางกัมพูชาต้องรอการอนุมัติจากสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ดังนั้น ไทยก็รอให้เกิดการเจรจาให้เกิดขึ้น ถือว่าไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอนและยื่นหนังสือไว้เป็นหลักฐาน ทุกอย่างจึงดำเนินการตามกลไกของ JBC และข้อตกลง MOU43 ในขณะที่ช่วงนั้นตนเองอยู่ไหนก็ไม่ทราบ


ส่วนข้อเสนอการเปิดด่านของกัมพูชา ที่ระบุว่า ให้ไทยเปิดก่อน แล้วกัมพูชาจะตามหลังเปิดตามหลังภายใน 5 ชั่วโมงนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ต้องการลดการเผชิญหน้าตลอดแนว โดยอยากให้มีการปรับกำลังทั้งหมด และไทยก็ต้องการเปิดด่านทั้งหมด ดังนั้น ไทยต้องการดำเนินการไปพร้อมกัน จึงได้พูดคุยกันในหลายส่วน แต่ทางกัมพูชาก็ต้องขึ้นอยู่กับสมเด็จฮุนเซน เพียงคนเดียว คุยกับสมบัติฮุนเซน ซึ่งได้เสนอเงื่อนไขนี้จริง โดยให้ไทยเปิดก่อน จากนั้นกัมพูชาจะเปิดภายในอีก 5 ชั่วโมง รัฐบาลมองแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ จึงรับมาเพื่อพูดคุยกับเหล่าทัพ ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่า ต้องเปิดพร้อมกัน แต่ขอให้ปรับกำลังพร้อมกันก่อน ซึ่งเป็นข้อเสนอของประเทศไทย จากนั้นการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับเหล่าทัพจึงเกิดขึ้น และได้หารือกัน โดยหลังจากนั้นการดำเนินการก็เป็นไปตามปกติ พร้อมกันนี้ส่วนตัวอยากให้ข้อมูลอยู่บนข้อเท็จจริง เพราะนี่เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ และมีนานาชาติติดตามสถานการณ์นี้อยู่ โดยที่ไทยเป็นประเทศใหญ่กว่า ต้องระมัดระวังว่า เมื่อเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าไปรุกรานใคร ดังนั้น จึงเป็นการยื่นข้อเสนอเหมือนเดิม ว่า ให้ปรับกำลัง โดยเฉพาะจุดที่เกิดปัญหาบริเวณช่องบก ที่มีการปรับกำลังไปแล้ว แต่ไทยก็ต้องการให้ปรับกำลังและและปลดอาวุธหนักทั้งหมด รวมถึงถอยกลับไปจุดเดิม พร้อมย้ำว่า การจะเปิดด่านต้องเปิดพร้อมกันทั้งสองประเทศ และในขณะนี้ปัญหาตามแนวชายแดนที่มีมาตรการ Seal Stop Safe แก้ปัญหาสแกมเมอร์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา ก็มีทีมไทยแลนด์ดูแลอยู่ ที่ยืนยันว่าจะรักษาสันติภาพ และอย่าใช้ความรุนแรง ขณะเดียวกัน ขอให้เกิดการเจรจา RBC และย้ำว่าการเปิด – ปิด ด่าน ตามแนวชายแดน ก็ขึ้นอยู่กับการพูด RBC ไม่ใช่แค่รัฐบาลต้องพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน เพียงคนเดียว

”อย่าใช้คำว่ากัมพูชาปิดประตูตาย ถือเป็นความคิดของสื่อมวลชนทราถามมา แต่ความคิดในการเจรจาต่อรอง ผลประโยชน์ในประเทศบนโลกนี้ อย่างอิสราเอลกับอาหรับ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาบอกว่าจะจบแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะได้ ว่าเป็นอย่างไร ปิดตายปิดชั่วคราวได้ พอเวลามีปัญหาที่เป็นประโยชน์ ก็ต้องมีเงื่อนไขต้องพูดคุย ซึ่งคิดว่าเปลี่ยนแปลงได้“ นายภูมิธรรม กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]