“รวมพลังแผ่นดิน” ดูทำเลก่อนนัดชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย. นี้

22 มิ.ย.- คณะรวมพลังแผ่นดิน ดูทำเลก่อนนัดใหญ่ 28 มิ.ย. นี้ “จตุพร” ลั่น! ไม่ใช่แค่ชุมนุม แต่คือการแสดงพลังอธิปไตย การปกป้องชาติ ไม่ใช่เรื่องของคนรุ่นเก่า แต่คือหน้าที่ของคนทั้งแผ่นดิน


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้นัดหมายมาดูจุดการชุมนุม บริเวณเกาะกลางของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในการนัดชุมนุมใหญ่ วันที่ 28 มิถุนายนนี้ และพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับตำรวจนครบาล

โดยนายจตุพร ได้กล่าวว่าในประวัติศาสตร์ที่กลุ่มนักศึกษาไปเรียกร้องอธิปไตย สมัยยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ตอนนั้นมีกฎหมายห้ามการชุมนุม การรวมตัวเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลขณะนั้นรู้ว่านี่เป็นการแสดงพลังในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ยินยอมยกเว้นแถมได้กล่าวขอบคุณนักศึกษาและประชาชนในตอนนั้น แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่เหมือนตอนนั้น เพราะการสั่งการของตำรวจโดยรัฐบาล ได้พยายามงัดข้อกฎหมายทุกชนิดมาเล่นงานการชุมนุม แต่ประเทศของเรานั้นมีปัญหาที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ที่นายกรัฐมนตรีของไทยไปเจรจากับประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงของกัมพูชา ได้แสดงให้เห็นว่าเราไม่อาจไว้วางใจให้เขาทำหน้าที่ได้ต่อไป และที่มีการตั้งคำถามว่าคนจะออกมาร่วมชุมนุมหรือไม่ในยุคโซเชียลมีเดีย ตนขอเรียนว่าคนกัมพูชาเขาก็อยู่ในโซเชียล แต่เรื่องความรักชาติบ้านเมือง ที่เขามีประชาชน 17 ล้านคนทั้งประเทศ แต่กลับออกมาร่วมชุมนุมแสดงความรักขาติ ถึง 1.5 แสนคน ฉะนั้นประเทศเราที่เป็นชาติเอกราชชาติเดียวในภูมิภาคนี้ ต้องออกมาสำแดงพลังอย่าให้อาย


นายจตุพร ยืนยันว่าการมาปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร แต่ที่มีการปั่นไม่ให้ออกมานั้น บอกว่าเป็นพวกหน้าเก่าหน้าเดิม ต้องบอกว่าการปกป้องอธิปไตย ในครั้งนั้นคือคนรุ่นใหม่ ที่มาทำหน้าที่ แต่รัฐบาลไทยเวลานี้นอกจากไม่สนับสนุนแต่ยังขัดขวาง พยายามใส่ร้าย บอกพวกที่ชุมนุมคือพวกหน้าเดิม ขอบอกเลยว่า ประเทศนี้ก็ประเทศเดิม ปัญหาก็ปัญหาของชาติ ทักษิณก็หน้าเดิม ถ้าไม่ปกป้องชาติ รุ่นไหนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ตนจึงขอเชิญชวนประชาชนทั้งแผ่นดินมาร่วมชุมนุมที่นี่ เวทีจะเริ่มต้น 4 โมงเย็น ปิด 21.00 น. แต่ถ้ามาก่อนในช่วงบ่ายโมงจะมีศิลปินมาจัดกิจกรรมบรรเลงเพลง จากนั้น 16.00 น. เวทีจะเริ่ม ซึ่งหวังว่าจะไม่มีรัฐบาลขายชาติมาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานอื่นใดมาขัดขวาง

นายจตุพร ตอบคำถามถึงกรณีกังวลเรื่องมือที่สามหรือความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ ว่า ในวันพรุ่งนี้จะไปหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการตั้งจุดตรวจสอบร่วมกัน สำหรับบุคคลที่จะเข้ามาพื้นที่เพื่อร่วมกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อป้องกันมือที่3 และเท้าที่4 ก็คงไม่รอด ส่วนเรื่องเงินในบัญชีที่จะเปิดรับบริจาค จะเปิดแค่วันที่ 28 มิ.ย.แล้วปิดบัญชีเลย ถ้าเงินเหลือก็จะนำไปบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2


ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า วันนี้ทางกลุ่มได้เดินทางมาดูสถานที่เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยว่ามีการจัดเวทีในที่สาธารณะ ซึ่งสาเหตุที่เลือกตำแหน่งนี้เนื่องจากต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสร้างขึ้นเพื่อเป็นการประกาศว่าประเทศไทยมีเอกราชสามารถทวงคืนแผ่นดินได้จากข้อพิพาทระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันนายปานเทพ ยังอ้างว่าขณะนี้มีขบวนการเตะตัดขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ข้อกฎหมายด้านต่าง ๆ มาดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ แต่ยืนยันว่าการชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชุมนุม ส่วนเงินที่ได้มาใช้ในการจัดการชุมนุมนั้น ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มของตัวเองและหลังจากนี้จะมีการเปิดบัญชีเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลัง สำหรับกิจกรรมวันที่ 28 มิถุนายนนี้ จะเริ่มช่วงเวลาตั้งแต่ 14.00 น. ก่อนที่เวลา 16.00 น. จะเริ่มอย่างเป็นทางการไปจนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งในวันดังกล่าวก็จะมีการปราศรัยสลับกับเล่นดนตรี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ บอกด้วยว่า จุดจัดกิจกรรมจะมีทางเดินสำหรับรถเมล์ และรถพยาบาลแน่นอน และมีวงนอกสำหรับรถที่จำเป็น พร้อมขออภัยประชาชนที่ทำให้ไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องทำ ขออภัยในความเดือดร้อนจริงๆ และขอให้พี่น้องเข้าใจเพราะนี่เป็นปัญหาของประเทศชาติ ไม่รู้นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อหรือไม่ แต่วางใจไม่ได้ ไม่รู้ฮุนเซนกุมความลับแล้วโทรต่อรองอะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นงานนี้ไม่ใช่แค่งานไล่นายกฯ แต่เป็นงานปกป้องอธิปไตย ถ้าไว้วางใจไม่ได้ก็ต้องลาออก ยืนยันจะไม่ได้ยึดโน้นยึดนี่แน่นอน

ส่วนเมื่อวานที่มีการสั่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยืนยันว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจะเป็นผู้เปิดบัญชีรับบริจาค และคงต้องใช้เงินพอสมควรเพราะจะมีจอหลายจุด และมีความโปร่งใสแน่นอน

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ระบุด้วยว่า ในขั้นตอนกระบวนทางกฎหมาย ของคณะรวมพลังแผ่นดิน ในพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. คณะรวมพลังแผ่นดินจะเดินทางไปพูดคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายและร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจรและการใช้ชีวิตกับประชาชน จึงขอเรียนไปทางรัฐบาลด้วยว่า เรื่องนี้ดูเหมือนจะคล้ายการชุมนุมแต่ไม่ใช่ เพราะเป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ พ.ร.บ.การชุมนุม เพราะ พ.ร.บ.การชุมนุม เป็นการยื่นข้อเรียกร้อง แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขออะไรจากรัฐบาล แต่เป็นการมาแสดงพลัง ดังนั้นตำรวจจึงไม่มีสิทธิว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ชุมนุม แต่ต้องอำนวยความสะดวกว่าจะให้ปฏิบัติตรงไหนอย่างไร และทางกลุ่มฯ จึงขอแจ้งประชาชนที่จะมาร่วมกิจกรรมว่าสามารถดำเนินการได้ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]