“รวมพลังแผ่นดิน” ดูทำเลก่อนนัดชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย. นี้

22 มิ.ย.- คณะรวมพลังแผ่นดิน ดูทำเลก่อนนัดใหญ่ 28 มิ.ย. นี้ “จตุพร” ลั่น! ไม่ใช่แค่ชุมนุม แต่คือการแสดงพลังอธิปไตย การปกป้องชาติ ไม่ใช่เรื่องของคนรุ่นเก่า แต่คือหน้าที่ของคนทั้งแผ่นดิน


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้นัดหมายมาดูจุดการชุมนุม บริเวณเกาะกลางของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในการนัดชุมนุมใหญ่ วันที่ 28 มิถุนายนนี้ และพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับตำรวจนครบาล

โดยนายจตุพร ได้กล่าวว่าในประวัติศาสตร์ที่กลุ่มนักศึกษาไปเรียกร้องอธิปไตย สมัยยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ตอนนั้นมีกฎหมายห้ามการชุมนุม การรวมตัวเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลขณะนั้นรู้ว่านี่เป็นการแสดงพลังในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ยินยอมยกเว้นแถมได้กล่าวขอบคุณนักศึกษาและประชาชนในตอนนั้น แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่เหมือนตอนนั้น เพราะการสั่งการของตำรวจโดยรัฐบาล ได้พยายามงัดข้อกฎหมายทุกชนิดมาเล่นงานการชุมนุม แต่ประเทศของเรานั้นมีปัญหาที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ที่นายกรัฐมนตรีของไทยไปเจรจากับประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงของกัมพูชา ได้แสดงให้เห็นว่าเราไม่อาจไว้วางใจให้เขาทำหน้าที่ได้ต่อไป และที่มีการตั้งคำถามว่าคนจะออกมาร่วมชุมนุมหรือไม่ในยุคโซเชียลมีเดีย ตนขอเรียนว่าคนกัมพูชาเขาก็อยู่ในโซเชียล แต่เรื่องความรักชาติบ้านเมือง ที่เขามีประชาชน 17 ล้านคนทั้งประเทศ แต่กลับออกมาร่วมชุมนุมแสดงความรักขาติ ถึง 1.5 แสนคน ฉะนั้นประเทศเราที่เป็นชาติเอกราชชาติเดียวในภูมิภาคนี้ ต้องออกมาสำแดงพลังอย่าให้อาย


นายจตุพร ยืนยันว่าการมาปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร แต่ที่มีการปั่นไม่ให้ออกมานั้น บอกว่าเป็นพวกหน้าเก่าหน้าเดิม ต้องบอกว่าการปกป้องอธิปไตย ในครั้งนั้นคือคนรุ่นใหม่ ที่มาทำหน้าที่ แต่รัฐบาลไทยเวลานี้นอกจากไม่สนับสนุนแต่ยังขัดขวาง พยายามใส่ร้าย บอกพวกที่ชุมนุมคือพวกหน้าเดิม ขอบอกเลยว่า ประเทศนี้ก็ประเทศเดิม ปัญหาก็ปัญหาของชาติ ทักษิณก็หน้าเดิม ถ้าไม่ปกป้องชาติ รุ่นไหนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ตนจึงขอเชิญชวนประชาชนทั้งแผ่นดินมาร่วมชุมนุมที่นี่ เวทีจะเริ่มต้น 4 โมงเย็น ปิด 21.00 น. แต่ถ้ามาก่อนในช่วงบ่ายโมงจะมีศิลปินมาจัดกิจกรรมบรรเลงเพลง จากนั้น 16.00 น. เวทีจะเริ่ม ซึ่งหวังว่าจะไม่มีรัฐบาลขายชาติมาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานอื่นใดมาขัดขวาง

นายจตุพร ตอบคำถามถึงกรณีกังวลเรื่องมือที่สามหรือความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ ว่า ในวันพรุ่งนี้จะไปหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการตั้งจุดตรวจสอบร่วมกัน สำหรับบุคคลที่จะเข้ามาพื้นที่เพื่อร่วมกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อป้องกันมือที่3 และเท้าที่4 ก็คงไม่รอด ส่วนเรื่องเงินในบัญชีที่จะเปิดรับบริจาค จะเปิดแค่วันที่ 28 มิ.ย.แล้วปิดบัญชีเลย ถ้าเงินเหลือก็จะนำไปบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2


ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า วันนี้ทางกลุ่มได้เดินทางมาดูสถานที่เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยว่ามีการจัดเวทีในที่สาธารณะ ซึ่งสาเหตุที่เลือกตำแหน่งนี้เนื่องจากต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสร้างขึ้นเพื่อเป็นการประกาศว่าประเทศไทยมีเอกราชสามารถทวงคืนแผ่นดินได้จากข้อพิพาทระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันนายปานเทพ ยังอ้างว่าขณะนี้มีขบวนการเตะตัดขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ข้อกฎหมายด้านต่าง ๆ มาดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ แต่ยืนยันว่าการชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชุมนุม ส่วนเงินที่ได้มาใช้ในการจัดการชุมนุมนั้น ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มของตัวเองและหลังจากนี้จะมีการเปิดบัญชีเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลัง สำหรับกิจกรรมวันที่ 28 มิถุนายนนี้ จะเริ่มช่วงเวลาตั้งแต่ 14.00 น. ก่อนที่เวลา 16.00 น. จะเริ่มอย่างเป็นทางการไปจนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งในวันดังกล่าวก็จะมีการปราศรัยสลับกับเล่นดนตรี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ บอกด้วยว่า จุดจัดกิจกรรมจะมีทางเดินสำหรับรถเมล์ และรถพยาบาลแน่นอน และมีวงนอกสำหรับรถที่จำเป็น พร้อมขออภัยประชาชนที่ทำให้ไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องทำ ขออภัยในความเดือดร้อนจริงๆ และขอให้พี่น้องเข้าใจเพราะนี่เป็นปัญหาของประเทศชาติ ไม่รู้นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อหรือไม่ แต่วางใจไม่ได้ ไม่รู้ฮุนเซนกุมความลับแล้วโทรต่อรองอะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นงานนี้ไม่ใช่แค่งานไล่นายกฯ แต่เป็นงานปกป้องอธิปไตย ถ้าไว้วางใจไม่ได้ก็ต้องลาออก ยืนยันจะไม่ได้ยึดโน้นยึดนี่แน่นอน

ส่วนเมื่อวานที่มีการสั่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยืนยันว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจะเป็นผู้เปิดบัญชีรับบริจาค และคงต้องใช้เงินพอสมควรเพราะจะมีจอหลายจุด และมีความโปร่งใสแน่นอน

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ระบุด้วยว่า ในขั้นตอนกระบวนทางกฎหมาย ของคณะรวมพลังแผ่นดิน ในพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. คณะรวมพลังแผ่นดินจะเดินทางไปพูดคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายและร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจรและการใช้ชีวิตกับประชาชน จึงขอเรียนไปทางรัฐบาลด้วยว่า เรื่องนี้ดูเหมือนจะคล้ายการชุมนุมแต่ไม่ใช่ เพราะเป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ พ.ร.บ.การชุมนุม เพราะ พ.ร.บ.การชุมนุม เป็นการยื่นข้อเรียกร้อง แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขออะไรจากรัฐบาล แต่เป็นการมาแสดงพลัง ดังนั้นตำรวจจึงไม่มีสิทธิว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ชุมนุม แต่ต้องอำนวยความสะดวกว่าจะให้ปฏิบัติตรงไหนอย่างไร และทางกลุ่มฯ จึงขอแจ้งประชาชนที่จะมาร่วมกิจกรรมว่าสามารถดำเนินการได้ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]