คปท. จ่อเคลื่อนมวลชนไป รทสช. 25 มิ.ย. กดดันให้ถอนตัวพรรคร่วม

กทม. 21 มิ.ย.-คปท.เตรียมชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย.นี้ เชื่อ นายกฯ ไม่ลาออกแน่ เตรียมเคลื่อนมวลชนไปพรรครวมไทยสร้างชาติ 25 มิ.ย. กดดันให้ถอนตัวจากพรรคร่วม มอง นายกฯ ไปหาแม่ทัพภาคที่2 แค่กลบกระแสความขัดแย้ง

การชุมนุมของกลุ่ม คปท. และกองทัพธรรม บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก โดยตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา แกนนำและแนวร่วมสลับกันขึ้นปราศรัย ถึงข้อเรียกร้องในการให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกและให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ซึ่งมีมวลชนทยอยกันมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้พื้นที่การชุมนุมบริเวณบนทางเท้าและหนึ่งช่องการจราจรบนถนนพิษณุโลก


ไฮไลท์ของกิจกรรมวันนี้ มีการนำผ้าสีขาวมาเขียนข้อความระบายความในใจถึงนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ก่อนจะนำไปทำกิจกรรมในวันที่ 24 มิ.ย. รวมถึงมีการล่ารายชื่อมวลชนที่ต้องการให้นางสาวแพทองธารลาออกจากตำแหน่งด้วย และในวันนี้ ทางแกนนำกลุ่มย่อย จากการรวมตัวกันกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีต ภายใต้ชื่อ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ได้มีการหารือกันช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถึงแนวทางการทำกิจกรรมชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 28 มิ.ย. ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกันไปเมื่อวานนี้

โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. บอกถึงไฮไลท์ของกิจกรรมว่า วันนี้มีการหารือกันกับกลุ่มคณะโดยใช้ชื่อกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน โดยไม่ได้มีแกนนำ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมกัน โดยผลการประชุมของวันนี้มีมติว่า จะทำการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายน โดยใช้เวลาทั้งหมด 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึง 21.00 น. โดยมีเนื้อหาที่สำคัญบางประการที่ต้องเปิดเผยในวันดังกล่าว เป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่ยืนยันได้ว่านายกฯ กระทำผิดขั้นตอนและเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศกัมพูชา


ส่วนกิจกรรมก่อนวันที่ 28 มิถุนายน ทางกลุ่มได้มีการหารือกันในการชักชวนประชาชนทั้งประเทศ ให้แสดงสัญลักษณ์ ว่าเป็นฝ่ายประเทศไทย ด้วยการติดธงชาติที่รถยนต์รถจักรยานยนต์รถจักรยานหรือการแต่งกาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และร่วมกันรณรงค์ผ่านโซเชียลโดยการ ติดแฮชแทค #28มิถุนาเรามาแน่ ซึ่งเป็นการรณรงค์ร่วมกันเพื่อให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

กิจกรรมในสัปดาห์หน้าจะมีการทำกิจกรรมรณรงค์ในกรุงเทพมหานคร เพื่อเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมกันให้มากที่สุด โดยในวันที่ 24 มิถุนายนจะทำกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล นำแผ่นผ้าที่ร่วมกันเขียนไปร้องทำเนียบรัฐบาล และนำรายชื่อไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่, 25 มิถุนายน จะรณรงค์รอบกรุงเทพมหานครและจะเดินทางไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากทางพรรคยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่, 26 มิถุนายน จะรณรงค์ทำกิจกรรมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ที่ศาลากลาง ในการร่วมกันร้องเพลงชาติเวลา 18.00 น. เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าเป็นฝ่ายประเทศไทย, 27 มิถุนายน จะเป็นวันที่มวลชนเดินทางมาสมทบกันที่เวทีการชุมนุม และ 28 มิถุนายน ชุมนุมใหญ่

ส่วนเนื้อหาการยกระดับการชุมนุม จะขอประกาศวันที่ 28 มิถุนายน เพราะทางกลุ่มประเมินแล้วเชื่อว่า นายกฯ คงไม่ลาออกในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงต้องทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะยกระดับในรูปแบบใดจะขอประกาศในวันดังกล่าวทีเดียว ทั้งนี้คาดหวังว่าอยากให้มีมวลชนเดินมาร่วมชุมนุมกันมากที่สุด เพราะตอนนี้เริ่มมีการติดต่อมาจากพี่น้องหลายจังหวัดแล้ว


ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่านายกฯ จะไม่ลาออกนั้น นายพิชิต ยืนยันว่า ไม่กังวล เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยอดีตนายกทักษิณ และนายกยิ่งลักษณ์ เขาก็ต้องการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลอยู่แล้ว และมองว่าการลาออกจะเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ และจะส่งผลต่อการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย และจะไม่สามารถกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นการดื้อดึงอยู่ไปไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยและไม่เป็นผลดีต่อนางสาวแพทองธาร ดังนั้นการดื้อดึงเกมต่อไปมีผลเสียต่อพรรคเพื่อไทยมากกว่า ส่วนกระแสข่าวที่นายกฯ จะลาออกหลังผ่านงบประมาณ ปี 69 นั้น นายพิชิต มองว่า เป็นเพียงกระแสข่าว เพื่อลดกระแสความเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชน แต่ที่ผ่านมาเขายอมแพ้

สำหรับกรณีที่ “ฮุนเซน” ออกมาโพสต์ถึงนายกฯ อยู่เรื่อยๆ จะยิ่งเป็นแผลที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องตัดสินใจหรือไม่ นายพิชิต ตอบว่า ตั้งแต่แผลแรกแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องตัดสินใจ ดังนั้นต้องตั้งคำถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลคำนึงถึงเสถียรภาพเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรีมากกว่าประเทศไทยหรือไม่ ไม่ต้องมีคลิปหรือภาพหลุดหลังจากนี้แล้ว ใบเสร็จที่ฮุนเซนปล่อยออกมาในคลิปเสียง เป็นการบั่นทอนอธิปไตยของชาติ และหากพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันจะรักษาอธิปไตยต่อประเทศชาติ ถึงเวลาที่จะยืนฝั่งประเทศไทยด้วยการลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนที่นายกฯ เดินทางไปพบแม่ทัพภาคที่สอง และเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายพิชิต มองว่า เป็นแค่การกลบกระแสข่าวความขัดแย้ง เพราะวันนี้มีความขัดแย้งอย่างชัดเจนระหว่างกับกองทัพกับรัฐบาล ซึ่งทางกลุ่มมีหลักฐานที่จะใช้เปิดในวันที่ 28 มิ.ย. “แก้วที่มันร้าวแล้วกลับมาคืนดีไม่ได้” ฝ่ายกองทัพเข้าใจเรื่องนี้และอึดอัดกับเรื่องนี้ เพียงแค่ไม่เปิดเผยความขัดแย้งออกสู่สาธารณะ

ส่วนการตอบโต้ทางเศรษฐกิจของไทยชัดเจนพอหรือยังที่ดำเนินการกับกัมพูชา นั้น นายพิชิต ระบุว่า ฝ่ายกองทัพก็เสนอเรื่องการตอบโต้ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ตนเองคิดว่าเพื่อเป็นการรบอย่างไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย การตอบโต้ทางเศรษฐกิจเป็นการกดดันอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะความเสียหายจากการสูญเสียชีวิตมันเรียกคืนไม่ได้ แต่การสูญเสียทางเศรษฐกิจสามารถสร้างได้ใหม่ จึงมองว่ามาตรการทางเศรษฐกิจเป็นมาตรการหนึ่งที่กดดันกัมพูชาได้.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]