คปท. จ่อเคลื่อนมวลชนไป รทสช. 25 มิ.ย. กดดันให้ถอนตัวพรรคร่วม

กทม. 21 มิ.ย.-คปท.เตรียมชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย.นี้ เชื่อ นายกฯ ไม่ลาออกแน่ เตรียมเคลื่อนมวลชนไปพรรครวมไทยสร้างชาติ 25 มิ.ย. กดดันให้ถอนตัวจากพรรคร่วม มอง นายกฯ ไปหาแม่ทัพภาคที่2 แค่กลบกระแสความขัดแย้ง

การชุมนุมของกลุ่ม คปท. และกองทัพธรรม บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก โดยตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา แกนนำและแนวร่วมสลับกันขึ้นปราศรัย ถึงข้อเรียกร้องในการให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกและให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ซึ่งมีมวลชนทยอยกันมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้พื้นที่การชุมนุมบริเวณบนทางเท้าและหนึ่งช่องการจราจรบนถนนพิษณุโลก


ไฮไลท์ของกิจกรรมวันนี้ มีการนำผ้าสีขาวมาเขียนข้อความระบายความในใจถึงนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ก่อนจะนำไปทำกิจกรรมในวันที่ 24 มิ.ย. รวมถึงมีการล่ารายชื่อมวลชนที่ต้องการให้นางสาวแพทองธารลาออกจากตำแหน่งด้วย และในวันนี้ ทางแกนนำกลุ่มย่อย จากการรวมตัวกันกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีต ภายใต้ชื่อ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ได้มีการหารือกันช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถึงแนวทางการทำกิจกรรมชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 28 มิ.ย. ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกันไปเมื่อวานนี้

โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. บอกถึงไฮไลท์ของกิจกรรมว่า วันนี้มีการหารือกันกับกลุ่มคณะโดยใช้ชื่อกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน โดยไม่ได้มีแกนนำ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมกัน โดยผลการประชุมของวันนี้มีมติว่า จะทำการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายน โดยใช้เวลาทั้งหมด 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึง 21.00 น. โดยมีเนื้อหาที่สำคัญบางประการที่ต้องเปิดเผยในวันดังกล่าว เป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่ยืนยันได้ว่านายกฯ กระทำผิดขั้นตอนและเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศกัมพูชา


ส่วนกิจกรรมก่อนวันที่ 28 มิถุนายน ทางกลุ่มได้มีการหารือกันในการชักชวนประชาชนทั้งประเทศ ให้แสดงสัญลักษณ์ ว่าเป็นฝ่ายประเทศไทย ด้วยการติดธงชาติที่รถยนต์รถจักรยานยนต์รถจักรยานหรือการแต่งกาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และร่วมกันรณรงค์ผ่านโซเชียลโดยการ ติดแฮชแทค #28มิถุนาเรามาแน่ ซึ่งเป็นการรณรงค์ร่วมกันเพื่อให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

กิจกรรมในสัปดาห์หน้าจะมีการทำกิจกรรมรณรงค์ในกรุงเทพมหานคร เพื่อเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมกันให้มากที่สุด โดยในวันที่ 24 มิถุนายนจะทำกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล นำแผ่นผ้าที่ร่วมกันเขียนไปร้องทำเนียบรัฐบาล และนำรายชื่อไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่, 25 มิถุนายน จะรณรงค์รอบกรุงเทพมหานครและจะเดินทางไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากทางพรรคยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่, 26 มิถุนายน จะรณรงค์ทำกิจกรรมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ที่ศาลากลาง ในการร่วมกันร้องเพลงชาติเวลา 18.00 น. เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าเป็นฝ่ายประเทศไทย, 27 มิถุนายน จะเป็นวันที่มวลชนเดินทางมาสมทบกันที่เวทีการชุมนุม และ 28 มิถุนายน ชุมนุมใหญ่

ส่วนเนื้อหาการยกระดับการชุมนุม จะขอประกาศวันที่ 28 มิถุนายน เพราะทางกลุ่มประเมินแล้วเชื่อว่า นายกฯ คงไม่ลาออกในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงต้องทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะยกระดับในรูปแบบใดจะขอประกาศในวันดังกล่าวทีเดียว ทั้งนี้คาดหวังว่าอยากให้มีมวลชนเดินมาร่วมชุมนุมกันมากที่สุด เพราะตอนนี้เริ่มมีการติดต่อมาจากพี่น้องหลายจังหวัดแล้ว


ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่านายกฯ จะไม่ลาออกนั้น นายพิชิต ยืนยันว่า ไม่กังวล เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยอดีตนายกทักษิณ และนายกยิ่งลักษณ์ เขาก็ต้องการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลอยู่แล้ว และมองว่าการลาออกจะเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ และจะส่งผลต่อการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย และจะไม่สามารถกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นการดื้อดึงอยู่ไปไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยและไม่เป็นผลดีต่อนางสาวแพทองธาร ดังนั้นการดื้อดึงเกมต่อไปมีผลเสียต่อพรรคเพื่อไทยมากกว่า ส่วนกระแสข่าวที่นายกฯ จะลาออกหลังผ่านงบประมาณ ปี 69 นั้น นายพิชิต มองว่า เป็นเพียงกระแสข่าว เพื่อลดกระแสความเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชน แต่ที่ผ่านมาเขายอมแพ้

สำหรับกรณีที่ “ฮุนเซน” ออกมาโพสต์ถึงนายกฯ อยู่เรื่อยๆ จะยิ่งเป็นแผลที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องตัดสินใจหรือไม่ นายพิชิต ตอบว่า ตั้งแต่แผลแรกแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องตัดสินใจ ดังนั้นต้องตั้งคำถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลคำนึงถึงเสถียรภาพเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรีมากกว่าประเทศไทยหรือไม่ ไม่ต้องมีคลิปหรือภาพหลุดหลังจากนี้แล้ว ใบเสร็จที่ฮุนเซนปล่อยออกมาในคลิปเสียง เป็นการบั่นทอนอธิปไตยของชาติ และหากพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันจะรักษาอธิปไตยต่อประเทศชาติ ถึงเวลาที่จะยืนฝั่งประเทศไทยด้วยการลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนที่นายกฯ เดินทางไปพบแม่ทัพภาคที่สอง และเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายพิชิต มองว่า เป็นแค่การกลบกระแสข่าวความขัดแย้ง เพราะวันนี้มีความขัดแย้งอย่างชัดเจนระหว่างกับกองทัพกับรัฐบาล ซึ่งทางกลุ่มมีหลักฐานที่จะใช้เปิดในวันที่ 28 มิ.ย. “แก้วที่มันร้าวแล้วกลับมาคืนดีไม่ได้” ฝ่ายกองทัพเข้าใจเรื่องนี้และอึดอัดกับเรื่องนี้ เพียงแค่ไม่เปิดเผยความขัดแย้งออกสู่สาธารณะ

ส่วนการตอบโต้ทางเศรษฐกิจของไทยชัดเจนพอหรือยังที่ดำเนินการกับกัมพูชา นั้น นายพิชิต ระบุว่า ฝ่ายกองทัพก็เสนอเรื่องการตอบโต้ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ตนเองคิดว่าเพื่อเป็นการรบอย่างไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย การตอบโต้ทางเศรษฐกิจเป็นการกดดันอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะความเสียหายจากการสูญเสียชีวิตมันเรียกคืนไม่ได้ แต่การสูญเสียทางเศรษฐกิจสามารถสร้างได้ใหม่ จึงมองว่ามาตรการทางเศรษฐกิจเป็นมาตรการหนึ่งที่กดดันกัมพูชาได้.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]