“ภูมิธรรม” พรรคร่วมยังอยู่ครบ ไร้สัญญาณเปลี่ยนตัวนายกฯ

ขส.ทบ. 20 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ชี้แค่ปรับ ครม. พรรคร่วมรัฐบาลยังอยู่ครบ ไร้สัญญาณ รทสช. เปลี่ยนตัวนายกฯ ระบุชุมนุมไล่นายกฯ เป็นสิทธิ ขอทำตามกฎหมาย เชื่อแค่ตีความต่างกัน – ปลุก รับมือภัยคุกคามนอกประเทศ


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ล่าสุดว่าได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ถึงการให้ความมั่นใจกับนายกรัฐมนตรี ว่า ท่านเป็นหัวหน้าพรรค เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ประสานและพูดคุย เพราะท่านเป็นหัวหน้าพรรค สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ลาออก ยังไม่ได้พ้นสภาพ เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะมาถามว่าตั้งใครขึ้นมาใหม่นั้นยังไม่ใช่ ตอนนี้เป็นแค่เพียงการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะปรับหรือไม่ปรับก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี รัฐบาลยังอยู่เหมือนเดิมและพรรคภูมิใจไทยได้ออกไป พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังดำเนินการอยู่ ก็เป็นการปรับกำลังให้เหมาะสมเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติใดขอให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเป็นนายชัยเกษม นิติศิริ นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินอย่างนี้ ตนคิดว่ามันจบแล้ว


เมื่อถามต่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติได้ส่งสัญญาณมาที่พรรคเพื่อไทย หรือนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี แต่เท่าที่ตนได้รับทราบมา ไม่มีอะไรแล้ว

เมื่อถามว่าทุกสัญญาณที่นายภูมิธรรม ได้รับมา พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังอยู่ร่วมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นอย่างนั้น

ส่วนวันนี้ยังมั่นใจพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือหรือไม่นั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า มั่นใจ


เมื่อถามต่อว่าจะมีใครเข้ามาเติมเสียงให้กับรัฐบาลอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เดี๋ยวไปดูตามกระบวนการ

ส่วนจะมองว่าท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นการต่อรองหรือไม่ เพราะตามรายงานข่าวเหมือนเสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นั่นเป็นข่าว การประชุมของแต่ละพรรคก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะพิจารณา เรื่องการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคของทุกพรรคไม่ใช่เรื่องแปลก ในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องเรียกคุยกัน และเป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะพิจารณาอะไรก็ได้ ก็เป็นปกติทางการเมือง เมื่อมีอะไรปรับเปลี่ยนก็ต้องคุยกัน

เมื่อถามว่าแม้รัฐบาลจะสามารถเดินต่อไปได้ แต่การที่ยังมีเสียงเรียกร้องให้ลาออก เรื่องนี้จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนได้ฟังคลิปร่วมกันหมดแล้ว ก็รู้ว่าไม่มีปัญหา เป็นเพียงการต่อรองทางการทูต และหากดูจากเทปจริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่เข้าข่ายข้อหาหรือเป็นปัญหา เป็นเพียงการพูดคุย และสุดท้ายได้มีการพูดคุยว่าจะชี้แจงกองทัพว่าอย่างไร ที่บ้านพิษณุโลกได้มีการประชุมและเล่าให้ฟังทั้งหมด การที่บอกว่าไม่มีความพอใจตรงนั้นตรงนี้เป็นเรื่องที่ว่ากันไปเอง และนายกฯ ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ท่านเข้าใจในหน้าที่ สิ่งที่นายกฯ รัฐบาล กองทัพ เข้าใจตรงกันคือรักษาซึ่งอำนาจอธิปไตยของประเทศ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ได้คุยกันเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีการนัดชุมนุมใหญ่จากผู้ที่ไม่พอใจในเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไรการแสดงออก ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่าได้ประเมินสถานการณ์ว่าการชุมนุมจะบานปลาย หรือจุดติดหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประเมินกันว่ารัฐบาลยังทำหน้าที่ต่อได้ และเพื่อความมั่นคงของประเทศ ทุกคนประเมินว่าขณะนี้ เป็นภัยจากความมั่นคงคุกคามจากนอกประเทศ ซึ่งต้องให้ความสำคัญตรงนี้ และต้องพิจารณาข้อมูลทุกวัน ความไม่พอใจในประเทศก็น่าจะมีโอกาสลดลงได้ ถ้ามาดูกันจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีการพูดกัน นายกรัฐมนตรีมีคำไหนข้อไหนที่จะไปฟ้องได้ไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะรองนายกรัฐมนตรีดูแลฝ่ายความมั่นคง คิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ของนายกรัฐมนตรีจากประชาชน ให้กลับคืนมาได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลาที่ผ่านไปและสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจทำงาน และสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากการตีความที่แตกต่างกันออกไป หรือเข้าใจผิด ก็เป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่หากตั้งสติดีๆ แล้วจะเห็นว่าเวลานี้เป็นเรื่องจากภายนอกที่พยายามจะให้ภายในของเราอ่อนแอ รัฐบาลไม่มั่นคง ก็จะมีผลเสียหายต่อประโยชน์ของประเทศ ถ้าเข้าใจตรงนี้จะรู้ว่าเรื่องในประเทศเป็นเรื่องตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องนอกประเทศสำคัญกว่า

เมื่อถามว่ารัฐบาลไทยควรขึ้นบัญชีดำสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาว่าควรจะคบอีกต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก ซึ่งเรายึดมั่นในหลักการสากล หลักการของการต่างประเทศตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]