รัฐสภา 20 มิ.ย.- “จุลพันธ์” หวัง พิจารณางบฯ ปี 69 เสร็จทันตามกรอบ 105 วัน มั่นใจ รัฐบาลยังคุมเสียงข้างมากได้ หลังภูมิใจไทยถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะส่งผลต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ต่อจากนี้หรือไม่ ว่า จริงๆ ในขั้นตอน กมธ.ฯ เราจะทิ้งความเป็นพรรคออกไป เพราะการเป็นกมธ.ฯ คือการเป็นตัวแทนที่สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งมา แม้จะมีสัดส่วนของพรรคก็ตาม แต่เมื่อมาทำงานในชั้น กมธ.ชุดใหญ่หรืออนุ กมธ.ฯ ที่มีหน้าที่ในการปรับลดงบประมาณแล้ว ซึ่งเมื่อหากไปดูก็จะเห็นว่า สส.ที่เป็นกมธ.ไม่ว่าจะจากพรรคใดก็ตาม เราทำงานกันหนักและปรับลดงบประมาณกันอย่างจริงจัง อะไรที่ไม่จำเป็น ไม่เร่งด่วน และต้องรีดไขมัน ทุกคนจริงจังกับการตัดอยู่แล้ว ฉะนั้น ตรงนี้เราไม่ค่อยห่วง เพราะหน้างานของแต่ละคนคงไม่ต่างกัน
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการลงมตินั้น ตนยังไม่รู้แนวทางของพรรค ภท. ว่าเขาจะตัดสินใจสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อยู่หรือไม่ เพราะเขาเพิ่งขยับออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่โดยปกติแล้ว สส.ทุกคนรู้อยู่แล้วว่างบประมาณแผ่นดินเป็นสิ่งจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นเรื่องจำเป็นในการเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน
“ไม่บ่อยนักที่จะลงมติไม่เห็นชอบ เพิ่งจะมีมาช่วงหลัง ในอดีตที่ผ่านมาหากเป็นรัฐสภาชุดก่อนๆ อย่างมากก็งดออกเสียง ถือเป็นลักษณะปกติ แต่แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรคเขา แต่หากจะมีมติอื่นใดที่ไม่ตรงกับรัฐบาลก็ไม่มีผลอยู่ดีในชั้นกรรมาธิการ เพราะในชั้นกมธ.หากบวกลบเสียงแล้วนั้น ทางรัฐบาลก็ยังมีเสียงข้างมากอยู่ เราไม่ได้ห่วงอะไร เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนในสภาฯ ใหญ่ หากเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องรวบรวมเสียงข้างมาก ถ้ามีเสียงข้างมากต้องไม่มีปัญหาอะไร” นายจุลพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อพรรคภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วเสียงที่รัฐบาลมีจะสุ่มเสี่ยงทำให้ร่างกฎหมายไม่ผ่านจนทำให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า หากไม่ผ่านก็ต้องเป็นไปตามนั้นโดยปกติ แต่เรายังมีความเชื่อมั่นอยู่ ถ้าเรายังเดินหน้าในการเป็นรัฐบาลต่อ ก็ต้องมั่นใจนิดหนึ่ง ตอนนี้ยังมีความมั่นใจอยู่
เมื่อถามว่า การพิจารณางบประมาณปี 2569 จะเป็นไปตามกรอบเวลาหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โดยปกติแล้วตามกรอบคือ 105 วัน ซึ่งไม่เคยมีปัญหา มีบางปีที่ตึงๆ แน่นๆ หน่อย แต่ปีนี้เราเข้ามาค่อนข้างเร็ว จึงยังมีเวลาเหลือเพียงพอในการพิจารณา หลังจากนี้เมื่อมีความชัดเจนในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เราก็จะเดินหน้าในการตั้งอนุกมธ.ฯ ซึ่งเมื่อตั้งอยุกมธ.ฯ เสร็จ งานก็จะเร็วขึ้น เชื่อว่าจะเสร็จตามกรอบ อย่างไรก็ตาม กลไกรัฐธรรมนูญก็รองรับทุกอย่าง ทันไม่ทันดำเนินการได้หมด หากไม่ทันกฎหมายก็บอกว่าให้ใช้ร่างเดิม ก็กลับไปใช้ร่างเดิม ส่วนกลไกที่จะไปปรับเปลี่ยนก็จะเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร สำนักงบประมาณที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาวะการณ์เศรษฐกิจ สังคมในแต่ละช่วง แต่ทั้งนี้เราตั้งความหวังว่าทำเสร็จทันอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงแรกของการประชุมกมธ.งบประมาณฯ หลังเปิดประชุมไปได้ 1 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีกรรมาธิการสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด.-315 -สำนักข่าวไทย