“ภูมิธรรม” เชื่อพรรคร่วมฯ ไม่ปล่อยมือ มั่นใจอยู่ครบเทอม

ทำเนียบรัฐบาล 19 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” บอก กองทัพเข้าใจ นายกฯ ให้คำมั่นไม่มีรัฐประหาร เชื่อพรรคร่วมฯ ไม่ปล่อยมือ-เสียงพอไม่ต้องหาเพิ่ม มั่นใจอยู่ครบเทอม จากนี้เดินหน้าคุยโควตา รมต. เตรียมใช้กลไก “มหาดไทย” ดันนโยบายสู่การปฏิบัติได้จริง อัด “ภูมิใจไทย” ขยี้ปมกัมพูชาตอนนี้ไม่เหมาะ อ้างรู้กระบวนการตั้งแต่ต้น

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการทำงานร่วมกันระหว่างทหารกับรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมสามารถคุมทหารได้ใช่หรือไม่ ว่า ไม่ได้คุมอะไร แต่เราสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และผู้นำเหล่าทัพที่มาร่วมประชุมวันนี้ ในแง่ของการทำงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราพูดคุยกันอย่างชัดเจนว่ามองอย่างไร และมีสถานการณ์อย่างไร ขณะนี้มีเรื่องหลายอย่างเกี่ยวกับกัมพูชาที่เราต้องคำนึงถึงประชาชนทั้งสองประเทศ สิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้เราได้ตกลงกันแล้วว่าพร้อมทำตามขั้นตอน โดยเตรียมมาตรการไว้หมดแล้ว ซึ่งรัฐบาลประกาศชัดเจนจะสนับสนุนกองทัพเต็มที่ เพราะทหารไม่ได้ห่วงสถานการณ์ภายในประเทศ แต่ห่วงภัยความมั่นคงของชาติ ซึ่งเป็นภัยความมั่นคงภายนอก จึงต้องร่วมมือกันภายในประเทศให้แข็งแรงที่สุด ซึ่งเรื่องภายในประเทศเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองต้องพูดคุยกัน โดยทหารอยู่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯได้ให้ความมั่นใจว่าภัยคุกคามภายนอก หรือการรุกล้ำอธิปไตยของไทยเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ วันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มาเพื่อประณามซึ่งเป็นขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก


ทั้งนี้ เราจะยืนยันกับนานาชาติว่ายึดสันติวิธี เราไม่ได้เริ่มก่อน และพยายามประคองไปตามขั้นตอน หากมีอะไรเกิดขึ้นจะแสดงไปตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนหากมีภัยคุกคาม ยืนยันว่าทหารพร้อม และหากมีการรุกล้ำเราก็จะยอมไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีกระแสกดดันเรียกร้องให้นายกฯลาออก หลังมีคลิปเสียงพูดคุยกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องภายนอกที่มากดดันเพื่อต้องการเห็นเราอ่อนแอที่สุด และอยากเห็นความแตกแยกภายใน เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขบุกรุกเราในทางต่างประเทศ แต่วันนี้เข้าใจตรงกัน และคิดทางออกร่วมกัน ซึ่งกองทัพก็บอกว่านายกฯเดินหน้าไม่ต้องห่วง เพียงแต่ว่าเอาให้ถูกขั้นตอน เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องระยะสั้น แต่เป็นเรื่องระยะยาว จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร และที่พรรคร่วมรัฐบาลนัดประชุมพรรคของตัวเองถือเป็นเรื่องปกติ ที่เมื่อมีการปรับพรรคภูมิใจไทยออกไปเรียบร้อย เมื่อชัดเจนหลังจากนี้ก็ต้องคุยกันภายในอยู่แล้ว


นายภูมิธรรม ยืนยันด้วยว่า พรรคร่วมที่เหลืออยู่ยังเหนียวแน่นไม่มีปัญหา เพราะเข้าใจสถานการณ์กันดี แต่ตอนนี้มีบางสิ่งที่พยายามสร้างเงื่อนไขจากทั้งภายใน และภายนอก โดยภายในเป็นกลุ่มที่อยากจะล้มรัฐบาลก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา และความจริงแล้วการที่พรรคภูมิใจไทยออกมาพูดเรื่องสถานการณ์ตรงนี้ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะรู้กันอยู่ตั้งแต่แรกในกระบวนการต่างๆ ของการแก้ไขปัญหากัมพูชาตั้งแต่ต้น ดังนั้น ประเด็นนี้กองทัพยังเข้าใจเลย ทำไมพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าใจว่าไม่ใช่เป็นปัญหาของเรา แต่เป็นเรื่องของต่างประเทศที่ต้องการกระทบเรา ดังนั้น ต้องขอความกรุณาในฐานะเคยร่วมงานกันมา ก็อยากให้อย่าใช้ประเด็นอย่างนี้เอามาสร้างให้เกิดความไม่สบายใจ และเกิดความรู้สึกแตกแยก เพราะสิ่งนี้จะไปเข้าทางกัมพูชาที่อยากให้เราอ่อนแอภายในประเทศ จึงอยากให้เข้าใจประเด็นนี้ด้วย เพราะถ้าวันนี้เราเป็นไปตามที่เขาอยากเห็นมันก็จะอ่อนแอ และเป็นปัญหาได้ จึงควรคำนึงถึงเรื่องนี้อย่าให้ภัยคุกคามส่งผลถึงเรา

เมื่อถามว่าย้ำว่า มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าได้โดยพรรคร่วมที่เหลือไม่ปล่อยมือใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีพรรคร่วมที่ปล่อยมือไปพรรคเดียวคือพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นไม่มีปัญหา ซึ่งเขาได้มีการคุยกันและบอกเราว่าจะมีการประชุมพรรค เพราะสถานการณ์เช่นนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า การประชุมของหลายพรรคจะพูดเรื่องอธิปไตยของไทยด้วย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจร่วมกัน และเรื่องนี้เราก็ยืนยัน หลังจากนี้เมื่อเคลียร์เรื่องนี้ให้ทุกส่วนเข้าใจร่วมกันว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ จากนี้ก็จะต้องเดินหน้าคุยเนื่องปรับ ครม. ซึ่งความจริงก็คุยกันบ้างแล้วเพื่อความชัดเจน เพราะเราอยากเห็นนโยบายต่างๆ สามารถเอาไปปฏิบัติได้จริงส่งตรงนโยบายไปทำให้ประชาชน ที่ผ่านมามีการติดขัดก็ต้องเคลียร์


เมื่อถามว่า ผู้นำเหล่าทัพให้คำมั่นว่าจะไม่รัฐประหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้คำมั่นว่าเป็นทีมเดียวกันภายใต้การนำของรัฐบาล และให้คำมั่นว่าไม่มีแน่นอน ยุคสมัยนี้มันเลยไปแล้ว ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะมีเท่านี้หรือจะหาเพิ่มนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า พอ ไม่มีปัญหา พรรคร่วมที่มีอยู่ก็พอ

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะไปได้นานแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็ไปได้จนครบวาระ” พร้อมย้ำว่า ไม่มีอะไรที่ทำให้เป็นปัญหา จากนี้ไปจะได้ทำนโยบายให้เกิดขึ้นอย่างเป็นจริง ทำให้กลไกมหาดไทยสามารถเอานโยยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติได้

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนกระแสกดดันจากภายนอกนั้น คิดว่าอยู่ที่ความเข้าใจ ซึ่งนายกฯได้พยายามชี้แจงแล้ว และขอโทษประชาชนไปแล้วว่าเป็นสิ่งที่อาจจะเข้าใจกันคลาดเคลื่อน ซึ่งท่านก็ขอโทษและบอกว่าเป็นความปรารถนาจะทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัว และสิ่งที่สมเด็จฮุนเซน ทำก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในระหว่างประเทศ ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม

เมื่อถามว่า คำแถลงของ นายกฯ ที่บอกว่าต่อสู้กับภัยคุกคามนอประเทศ ถือว่าวันนี้เราประกาศศึกกับกัมพูชาแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราพูดความจริงให้ประชาชนฟัง ว่าขณะนี้มีภัยคุกคามจากภายนอก ซึ่งเราจะมองตรงนี้เป็นเรื่องหลักมากกว่าภายในประเทศ และต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ

เมื่อถามย้ำว่า ประชาชนจะมาลงถนนจะซ้ำรอยกับสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้กังวล มีแต่เรื่องต้องทำความเข้าใจ และความจริงอย่างกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ก็มาตลอดอยู่แล้ว โดยเย็นวันศุกร์ก็ออกมาพูดปราศรัยถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ออกมาใช้สิทธิในการแสดงออก ซึ่งได้กำชับตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการโดยละมุนละม่อม และให้ทำตามกฎหมาย รวมถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่จะมาลงถนนก็ถือเป็นสิทธิ

เมื่อถามย้ำว่า กระแสดกกันให้ นายกฯ ลาออก ปลุกขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปลุกขึ้นหรือไม่ ไม่ทราบ แต่เราได้ชี้แจงความตั้งใจ และส่วนราชการทั้งหมดเข้าใจแล้ว และกองทัพก็เข้าใจ จากนี้ก็เป็นเรืองที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน

เมื่อถามว่า หลังจากเหตุการณ์นี้ได้คุยกับนายทักษิณ บ้างหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเลย

เมื่อถามถึงท่าทีความสัมพันธ์ของตระกูลชินวัตร กับตระกูลฮุน หลังจากนี้เป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นที่เราจะเอามาใส่ใจมาพูดถึง วันนี้เราคิดเรื่องประเทศชาติ ประชาชน และเอกราชของประเทศ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย