กต.เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง

18 มิ.ย. – กต.แถลงเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง เร่งจัดบุคลากรเพิ่มเติมจากส่วนกลางไปสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือคนไทยทั้งในอิหร่านและอิสราเอล


กระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 จึงได้เปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) เพื่อร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กองทัพอากาศ กระทรวงแรงงาน รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อประเมินสถานการณ์ ติดตามพัฒนาการและเตรียมการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ โดยทุกหน่วยได้เตรียมแผนช่วยเหลือทุกด้านไว้พร้อมแล้วกรณีจำเป็น อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ ยังไม่มีรายงานว่า มีคนไทยได้รับบาดเจ็บทั้งในอิหร่านและอิสราเอล

สำหรับอิหร่าน มีคนไทยประมาณ 350 คน ซึ่งขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ร่วมกับประธานชุมชนไทยจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เมือง Amol อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร สามารถรองรับคนไทยในเวลาเดียวกันได้ไม่น้อยกว่า 200 คน และขณะนี้มีคนไทยเดินทางไปพำนักอยู่ที่ศูนย์ฯ ดังกล่าวแล้วจำนวน 35 คน ที่อยู่ของศูนย์ คือ Chamestan Ali Abad Noor 4th Bosstan No. 38, Amol, Mazandaran ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศขอให้คนไทยเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเตหะรานในโอกาสแรก โดยสามารถเดินทางไปอยูที่ศูนย์ฯ ดังกล่าวหรือเดินทางไปพักกับญาติพี่น้องนอกกรุงเตหะรานก่อนเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ในอิหร่านมีนักศึกษาไทยประมาณ 100 คน ที่เมือง Qom อยู่ทางใต้ของกรุงเตหะรานไปประมาณ 150 กิโลเมตร ซึ่งยังปลอดภัยดี และสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อประสานงานกับผู้แทนนักศึกษาอยู่ตลอดเวลา


โดยที่สถานการณ์ในกรุงเตหะรานมีความสุ่มเสี่ยงสูงเพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศย้ายที่ทำการชั่วคราวไปยัง No.6, Soheiliyeh Road, Kordan ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร ทั้งนี้ คนไทยในอิหร่านที่ต้องการรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามหมายเลขโทรศัพท์ +98 912 159 8699 นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ประสานกับคนไทยในอิหร่านอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อสอบถามความประสงค์ของคนไทยที่ต้องการเดินทางออกจากอิหร่าน ขณะนี้ มีคนไทยแสดงความประสงค์จะเดินทางกลับไทย 5 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างประสานงานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังแสดงความประสงค์ที่จะอยู่ในประเทศ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมแผนการเดินทางทางบกผ่านไปยังประเทศใกล้เคียงไว้พร้อมแล้ว

สำหรับอิสราเอล มีคนไทยอาศัยอยู่ประมาณ 40,000 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เปิดหมายเลขช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลเพื่อให้คนไทยสามารถโทรศัพท์สอบถามเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศแล้วเช่นกัน ขณะนี้ มีคนไทยแสดงความประสงค์จะเดินทางกลับไทย 3 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิสราเอล ในกรณีฉุกเฉิน คนไทยในอิสราเอลสามารถติดต่อสถานเอกอัคราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +972 5406368150 โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมแผนการเดินทางทางบกผ่านไปยังประเทศใกล้เคียงไว้พร้อมแล้วเช่นกัน

กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการจัดบุคลากรเพิ่มเติมจากส่วนกลางไปสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือคนไทยทั้งในอิหร่านและอิสราเอลของทั้งสองสถานเอกอัครราชทูต เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์ อีกทั้งกรมการกงสุลยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Thai Consular เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร และเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้คนไทยในแต่ละประเทศสามารถติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตในพื้นที่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถ download แอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทันที รวมถึงกรมการกงสุลยังได้เปิดหมายเลขฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือหรือให้ญาติสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 572 8442 (Call Center กรมการกงสุล)


กระทรวงการต่างประเทศจะมีการประชุมร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตที่เกี่ยวข้องทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในทุกพื้นที่ ในมิติต่าง ๆ ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยขอย้ำให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็นยิ่งยวด และหากมีเที่ยวบินให้บริการ หรือคนไทยสามารถเดินทางออกได้ด้วยตนเอง โดยสะดวกและปลอดภัย ขอให้คนไทยพิจารณาเดินทางออกจากพื้นที่โดยทันที ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้คนไทยย้ายออกจากพื้นที่เป็นกรณีชั่วคราวไปยังพื้นที่ปลอดภัย ยังไม่ใช่การอพยพคนไทยออกจากอิหร่านหรืออิสราเอล . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]