กต.เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง

18 มิ.ย. – กต.แถลงเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง เร่งจัดบุคลากรเพิ่มเติมจากส่วนกลางไปสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือคนไทยทั้งในอิหร่านและอิสราเอล


กระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 จึงได้เปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) เพื่อร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กองทัพอากาศ กระทรวงแรงงาน รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อประเมินสถานการณ์ ติดตามพัฒนาการและเตรียมการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ โดยทุกหน่วยได้เตรียมแผนช่วยเหลือทุกด้านไว้พร้อมแล้วกรณีจำเป็น อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ ยังไม่มีรายงานว่า มีคนไทยได้รับบาดเจ็บทั้งในอิหร่านและอิสราเอล

สำหรับอิหร่าน มีคนไทยประมาณ 350 คน ซึ่งขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ร่วมกับประธานชุมชนไทยจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เมือง Amol อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร สามารถรองรับคนไทยในเวลาเดียวกันได้ไม่น้อยกว่า 200 คน และขณะนี้มีคนไทยเดินทางไปพำนักอยู่ที่ศูนย์ฯ ดังกล่าวแล้วจำนวน 35 คน ที่อยู่ของศูนย์ คือ Chamestan Ali Abad Noor 4th Bosstan No. 38, Amol, Mazandaran ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศขอให้คนไทยเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเตหะรานในโอกาสแรก โดยสามารถเดินทางไปอยูที่ศูนย์ฯ ดังกล่าวหรือเดินทางไปพักกับญาติพี่น้องนอกกรุงเตหะรานก่อนเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ในอิหร่านมีนักศึกษาไทยประมาณ 100 คน ที่เมือง Qom อยู่ทางใต้ของกรุงเตหะรานไปประมาณ 150 กิโลเมตร ซึ่งยังปลอดภัยดี และสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อประสานงานกับผู้แทนนักศึกษาอยู่ตลอดเวลา


โดยที่สถานการณ์ในกรุงเตหะรานมีความสุ่มเสี่ยงสูงเพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศย้ายที่ทำการชั่วคราวไปยัง No.6, Soheiliyeh Road, Kordan ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร ทั้งนี้ คนไทยในอิหร่านที่ต้องการรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามหมายเลขโทรศัพท์ +98 912 159 8699 นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ประสานกับคนไทยในอิหร่านอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อสอบถามความประสงค์ของคนไทยที่ต้องการเดินทางออกจากอิหร่าน ขณะนี้ มีคนไทยแสดงความประสงค์จะเดินทางกลับไทย 5 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างประสานงานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังแสดงความประสงค์ที่จะอยู่ในประเทศ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมแผนการเดินทางทางบกผ่านไปยังประเทศใกล้เคียงไว้พร้อมแล้ว

สำหรับอิสราเอล มีคนไทยอาศัยอยู่ประมาณ 40,000 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เปิดหมายเลขช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลเพื่อให้คนไทยสามารถโทรศัพท์สอบถามเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศแล้วเช่นกัน ขณะนี้ มีคนไทยแสดงความประสงค์จะเดินทางกลับไทย 3 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิสราเอล ในกรณีฉุกเฉิน คนไทยในอิสราเอลสามารถติดต่อสถานเอกอัคราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +972 5406368150 โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมแผนการเดินทางทางบกผ่านไปยังประเทศใกล้เคียงไว้พร้อมแล้วเช่นกัน

กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการจัดบุคลากรเพิ่มเติมจากส่วนกลางไปสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือคนไทยทั้งในอิหร่านและอิสราเอลของทั้งสองสถานเอกอัครราชทูต เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์ อีกทั้งกรมการกงสุลยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Thai Consular เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร และเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้คนไทยในแต่ละประเทศสามารถติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตในพื้นที่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถ download แอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทันที รวมถึงกรมการกงสุลยังได้เปิดหมายเลขฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือหรือให้ญาติสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 572 8442 (Call Center กรมการกงสุล)


กระทรวงการต่างประเทศจะมีการประชุมร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตที่เกี่ยวข้องทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในทุกพื้นที่ ในมิติต่าง ๆ ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยขอย้ำให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็นยิ่งยวด และหากมีเที่ยวบินให้บริการ หรือคนไทยสามารถเดินทางออกได้ด้วยตนเอง โดยสะดวกและปลอดภัย ขอให้คนไทยพิจารณาเดินทางออกจากพื้นที่โดยทันที ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้คนไทยย้ายออกจากพื้นที่เป็นกรณีชั่วคราวไปยังพื้นที่ปลอดภัย ยังไม่ใช่การอพยพคนไทยออกจากอิหร่านหรืออิสราเอล . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย

“สุชาติ” ย้ำวัดห้ามถือครองเงินเกิน 1 แสน เร่งแก้ กม.เอาผิดเสพเมถุน

ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ค.- “สุชาติ” ขอคุยรัฐบาลเร่งแก้ กม.เอาผิดเสพเมถุนในวัด โทษคุก 7 ปี ปรับ 2.4 แสน – รอชงสภาฯ ถก 3 วาระรวด ย้ำวัดห้ามถือครองเงินเกิน 1 แสนบาท ส่วนเกินต้องเข้าบัญชีให้ตรวจสอบ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสงฆ์ โดยการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 206 เพื่อให้สามารถเอาผิดพระสงฆ์กรณีเสพเมถุนได้ว่า ควรแก้ไขกฎหมายดีกว่า เพราะเป็นเรื่องของสถานที่ไม่ใช่ตัวบุคคล โดยรัฐบาลจะเร่งเจรจากับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาเร่งด่วน 3 วาระรวดในคราวเดียว โดยระบุความผิดฐานการเสพเมถุน ทั้งพระ สามเณร หรือสามัญชน ทั้งที่ผิดวินัย และสมัครใจ ก็จะผิดกฎหมาย จะมีโทษทั้งจำคุก 1-7 ปี และปรับสูงสุด 240,000 บาท ซึ่งเบื้องต้น มีร่างแก้ไขกฎหมายเสนอมาแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่พอใจ จึงให้กลับไปแก้ไขก่อน ส่วนกรอบเวลาการแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จนั้น นายสุชาติ ระบุว่า […]