ศบ.ทก.​แถลงยันไทย​ไม่เคยละเมิด MOU43 มองปลุกม็อบรักชาติไม่กระทบไทย

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- ศบ.ทก.​ แถลงผลการประชุมทีมไทยแลนด์​วันแรก โต้โซเชียล​ ยันขุดคูเลตในพื้นที่อธิปไตยไทย​ ไม่เคยละเมิด MOU 43 ขอรอกัมพูชา​เคาะวันหารือ​ RBC เชื่อไม่ล่ม​ มอง​ปลุกม็อบรักชาติไม่กระทบไทย

พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ครั้งที่ 1 โดย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า วันนี้เป็นงานประชุมอย่างเป็นทางการนัดแรกของทีมไทยแลนด์ หรือ ศบ.ทก. ซึ่งเรากำหนดไว้ว่าจะมีการประชุมทุกวันทำการ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 09.30 น. เว้นวันอังคารประชุม 13.30 น. โดยภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น จะมีการแถลงข่าวในเวลา 12.00 น.


นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่บริเวณชายแดนได้มีการติดตามในที่ประชุม ขอย้ำอีกครั้งว่าไทยไม่เคยปิดด่าน ไม่เคยใช้มาตรการปิดด่านใดๆ โดยมาตรการที่ดำเนินอยู่คือควบคุมคนเข้า-ออก และปรับเวลาเปิดปิดด่านเท่านั้น ทั้งนี้เป็นไปเพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน สืบเนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่และจะพิจารณาปรับเปลี่ยนมาตรการตามสถานการณ์และตามความจำเป็นต่อไป

ในขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ทางฝ่ายกัมพูชาได้ประกาศให้ด่านชายแดนทุกด่านของกัมพูชา ระงับการนำเข้าผักและผลไม้ทุกชนิดจากไทย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกันอย่างใกล้ชิดในเบื้องต้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าประสานงานในพื้นที่เพื่อนำผลผลิตไปกระจายให้กับผู้ซื้อต่างๆ ในประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนและผลกระทบของประชาชนในพื้นที่


นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ความชัดเจนเกี่ยวกับข้อสงสัยที่ปรากฏในสื่อของไทยในขณะนี้โดยเฉพาะในเรื่องของการขุดคูเลตของฝั่งไทย ซึ่งเป็นการขุดในพื้นที่อธิปไตยของไทย ดังนั้นไทยจึงปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าไทยละเมิด MOU 2543 ซึ่งไทยยังคงยึดมั่น MOU ฉบับดังกล่าวที่เป็นสนธิสัญญาและเป็นกติกาที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันและมีพันธะกรณีที่ต้องยึดถือและปฏิบัติตามร่วมกัน

“ขอย้ำอีกครั้งว่า ไทยยึดมั่นการใช้กลไกทวิภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนปรับสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาอย่างจริงใจ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ซึ่งก็เป็นไปตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติสากล ตามที่ตนได้เคยแถลงไปแล้ว” นายนิกรเดช กล่าว

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ล่าสุดมีผลออกมาเป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ในรายละเอียดต่างๆ เพื่อร่วมกันสำรวจพื้นที่และทำหลักเขตแดนซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการดำเนินการต่อร่วมกันทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่ากลไกทวิภาคียังคงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลอย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมเจบีซี สมัยพิเศษในเดือนกันยายน 2568 โดยทางฝ่ายกัมพูชาได้ตอบรับแล้ว สำหรับการประชุมชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ที่ทาง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประสานกัมพูชาให้จัดประชุมโดยเร็วนั้น ซึ่งเราได้ยื่นข้อเสนอไปแล้ว ซึ่งฝ่ายไทยและกัมพูชากำลังหาวันที่เหมาะสม สำหรับทั้งสองฝ่าย


นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนระมัดระวังการเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่ได้รับการตรวจสอบหรือยืนยันหลีกเลี่ยงการขยายข่าวที่อาจเป็นการปลุกระดม หรือกล่าวหาอีกฝ่ายโดยยังไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และเสี่ยงทำให้เป็นประเด็นขัดแย้งเพิ่มเติม

ขณะที่พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ในเรื่องของฝ่ายทหารของกองทัพไทย ขอยืนยันในเรื่องของการยึดมั่นการดำเนินการทางทหารตามหลักสากล และยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติตาม MOU 2543 ที่เป็นข้อตกลงทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามด้วยกันโดยในประเด็นของการปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ และการปฏิบัติการของกองกำลังในพื้นที่ก็เป็นการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติของทหารที่ต้องมีการดำเนินการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งความมั่นคงของพื้นที่โดยยืนยันว่าเป็นการดำเนินการในพื้นที่อธิปไตยของไทยทั้งสิ้น

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการดำเนินการผ่านต่างๆ ก็เป็นการดำเนินการที่ดำรงตามมาตรการของไทยอย่างต่อเนื่องตามแนวชายแดนหลักๆ คือสองมาตรการตามที่เคยแถลงข่าวไปแล้ว คือ การจำกัดคนและประเภทของคนผ่านแดน การจำกัดเวลาในเรื่องของการเปิดปิดด่านโดยคำนึงถึงหลักอนุธรรมต่อบุคคลที่มีความจำเป็นในการข้ามแดนอย่างเช่นนักศึกษาและผู้ป่วย ในเรื่องของการไม่อนุญาตให้นำเข้าสินค้า เช่น พืช ผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นการดำเนินการฝ่ายเดียวของกัมพูชา โดยเฉพาะ พืช ผลไม้ สินค้าทางการเกษตรนั้นทางรัฐบาลไทยได้ประสานผ่านกระทรวงพาณิชย์ในการหามาตรการเยียวยาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโดยกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานกับภาคเอกชนเช่นกลุ่มบริษัทซีพีรวมทั้งห้างสรรพยาท้องถิ่นในการรับผลิตผลของไทย แล้วจำหน่ายให้กับผู้บริโภคตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายใน ที่ผ่านได้จัดงานสินค้า เพื่อกระจายสินค้าต่าง ๆ ในอนาคต ขอเชิญชวนประชาชนช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้ใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าของประเทศไทยด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่กัมพูชามีการรณรงค์ให้ประชาชนในกัมพูชาออกมารักชาติ ในสถานการณ์ที่มีข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ รัฐบาลไทยมีข้อห่วงใยถึงเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในกัมพูชาและหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชามีการจัดกิจกรรมโดยสหพันธ์เยาวชนกัมพูชามักจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในโอกาสต่างๆ เป็นประจำ และแต่ละครั้งก็มีธีมที่แตกต่างกันออกไป ครั้งนี้คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ตรงกับช่วงที่เรามีประเด็นระหว่างไทย-กัมพูชาอยู่เล็กน้อย ซึ่งนโยบายของเราเรียกร้องให้เรื่องนี้เป็นเรื่องระดับรัฐบาลกับรัฐบาล อย่าได้ดึงออกมาเป็นระดับประชาชน ส่วนจะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของความปลอดภัยหรือหรือไม่นั้น ทางเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญได้มีการติดต่อประสานงานกับคนไทยที่อยู่ในกรุงพนมเปญอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่มีความกังวลใดๆ

พล.อ.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแง่ของรัฐบาลจะเห็นได้ว่ารอบคอบรอบด้านใช้สติสร้างสติ หากฝ่ายกัมพูชาทำอะไร เราตอบโต้ทุกเรื่อง ก็แสดงว่าเราไม่ได้ใช้สติในการพิจารณา ฉะนั้นในกรณีนี้หลังจากที่ประชุมพิจารณาได้ว่าไม่มีผลกระทบอะไรต่อประเทศไทย เราจึงทำได้เพียงรับทราบ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]