กระทรวงพลังงาน 18 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ย้ำ ก.ดีอี – ส่วนราชการ ดูแลและนำเสนอข้อมูลความจริงให้ประชาชนรีเช็ก หลังมีการปั่นข่าวปลอมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มอบโจทย์ ก.พลังงาน 3 ข้อ ราคาไฟฟ้าเป็นธรรม ไม่สร้างภาระประชาชน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/ 2568 ที่กระทรวงพลังงาน โดยก่อนเริ่มการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกันกับปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธ นิทรรศการ ของ ปตท. โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ และรับฟังบรรยายแผนพัฒนาธุรกิจไฮโดรเจน และเตรียมความพร้อมโรงสร้างพื้นฐานสำหรับประเทศไทย รวมถึงโครงการดักจับและกักเก็บ CO2 ในอ่าวไทยที่แหล่งอาทิตย์ และ Eastern Thailand CCS Hub จาก ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมว่า เมื่อสักครู่ตนเองได้ปรึกษา กระทรวงปลัดกระทรวงว่าประชุมมากี่กระทรวงแล้ว ซึ่งตอนนี้ผ่านมา 5 กระทรวงแล้วเหลืออีกเยอะเลย ตนเองยังอยากไปให้ครบ และหลังเสร็จการประชุมก็จะได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ปัจจุบันคงทราบดีอยู่แล้วว่าทั้งในประเทศและนอกประเทศเรื่องของข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และมีผลกับการกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ทุกวันนี้เฟกนิวส์เยอะมาก อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้น เกิดเฟกนิวส์นิวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น AI ที่ทำรูปเหมือนจริง ตนเองเห็นรูปก็สับสนว่าจริงหรือไม่จริง ซึ่งถ้าเป็นรูปตนเองก็รู้อยู่แล้วว่าไม่จริง แต่ถ้าเป็นรูปคนอื่นก็ต้อง เอ๊ะ ว่าจริงหรือไม่ จึงต้องการให้ทุกภาคส่วนพยายามนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงเสมอ เพื่อให้ประชาชนกลับมาตรวจสอบได้ว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง จึงขอมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม สังคมดูแลเรื่องเฟกนิวส์
นายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า ทุกครั้งที่มาประชุมก็จะพูดถึงการผลักดันงบลงทุนค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้เหลือเวลาอีก 4 เดือน ก็จะหมดงบประมาณ ปี 68 ขอความร่วมมือทุกกระทรวงเร่งเบิกจ่ายงบค้างท่อจากปี 67 ให้เสร็จสิ้น ซึ่งเหลือประมาณ 80,000 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
วันนี้กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม รัฐบาลมีมาตรการระยะสั้นในการช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าไฟในรอบ เดือน พฤษภาคมถึงสิงหาคม และในระยะยาวจึงมอบโจทย์เพิ่มให้กระทรวงพลังงานปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ไฟฟ้า 3 เรื่อง คือ ให้ประชาชนมีไฟฟ้าที่มั่นคงเพียงพอ มีราคาไฟฟ้าที่เป็นธรรมสะท้อนกับต้นทุนจริง และ การผลิตไฟฟ้าที่ยั่งยืนมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าที่สะอาด
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า สุดท้ายนี้ท่ามกลางกระแสของเศรษฐกิจโลกและความผันผวนมากมาย รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลพยายามจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยยึดหลักสันติวิธี พยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงและพยายามพูดคุยเจรจาให้ได้มากที่สุด อยากจะให้ประชาชนกลับไปทำงาน ประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองไ ด้ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีต่อไป ขอให้กระทรวงและผู้บริหารระดับสูงทุกคนเร่งดูแลพี่น้องประชาชนในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ ให้เกิดความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน ย้ำว่าทุกทีมต้องทำงานอย่างบูรณาการเพื่อให้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้มีการเจอกับทางกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีการบูรณาการบิ๊กดาต้า กันทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ก็มีการบูรณาการร่วมกันซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ที่ดีมาก ๆ ซึ่งการรวมดาต้าเบต ของประชาชน ได้ ก็จะทำให้เรามีข้อมูลของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ลักษณะคล้ายกับแชต GPT หากเรามีข้อมูลรวมกันได้จะทำให้ดาต้าของเราใหญ่ขึ้น และช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุด ตรงกลุ่มและคุ้มค่ากับเม็ดเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ
ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไม่ได้มาต้อนรับ และมอบหมายให้พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงานมารอต้อนรับแทน .-316 -สำนักข่าวไทย