‘นันทนา’ คิกออฟแคมเปญ “โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่”

รัฐสภา 18 มิ.ย.- ‘นันทนา’ ถือฤกษ์คิกออฟแคมเปญ “โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่” หลังครบรอบ 180 วัน ‘พ.ร.บ.ประชามติ’ ถูกดอง วอน ‘สภา’ เร่งโหวตตั้งแต่เปิดสมัยประชุม บอก ลองวัดใจกันดู หากเอา ‘เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ’ เข้าก่อน จะเอาฆ้องไปตีให้ได้ยิน ชี้ ถ้าดึงดันไม่แก้ ‘รัฐบาล’ จะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญเอง


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา แถลงคิกออฟแคมเปญ ‘โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่’ ซึ่งมีการตีฆ้องก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในเริ่มต้น

นางสาวนันทนา กล่าวว่า วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติ เพื่อที่จะไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กรณีเสียงข้างมากสองชั้นที่วุฒิสภาเสนอมา จึงต้องยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติไว้เป็นเวลา 180 วัน เพื่อที่จะนำกลับมาลงมติใหม่


หากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ก็จะกลับไปเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว ซึ่งสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้เลย ฤกษ์งามยามดี วันที่ 18 มิถุนายนนี้ เป็นวันครบรอบ 180 วัน ของการยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จึงถือว่าเป็นวันปลดปล่อยกฎหมายประชามติ ซึ่งมีประชาชนมากมาย ถามว่า แล้วจะแก้รัฐธรรมนูญกี่โมง จึงคือโมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ วันนี้ที่รอคอย โดยเราจะทำเป็นแคมเปญ และแบ่งเป็นซีรีส์

นางสาวนันทนา กล่าวว่สาเหตุที่ต้องเร่งให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีจุดบกพร่องมากมาย ไม่ได้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงอย่างที่โอ้อวดกันไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มา 8 ปี แต่ดัชนีคอร์รัปชั่นประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยลด

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนเรือที่มีรูรั่วมากมาย ในที่สุดเรือลำนี้จะจม และจะพาเราทั้งหมดจมไปด้วย นั่นคือความเสี่ยงที่จะนำไปสู่รัฐล้มเหลวในที่สุด” นางสาวนันทนา กล่าว


ส่วนมาตราที่เป็นปัญหาชัดเจนที่สุด คือที่มาของ สว.ซึ่งระบุในรัฐธรรมนูญ ให้มาจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม จ่ายเงิน 2,500 บาท มาเลือกกันเอง ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่อำนาจล้นฟ้า สามารถเห็นชอบองค์กรอิสระทั้งหมดได้ ยับยั้งการแก้รัฐธรรมนูญได้ ด้วยช่องโหว่ของกฎหมาย กติกาเช่นนี้ เราจึงได้เห็นกระบวนการฮั้วพากันเข้ามากลุ่มใหญ่ถึง 140 คน เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้กระบวนการนิติบัญญัติบิดเบี้ยวไป หากเราไม่รีบแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างกติกาใหม่ในการเลือก สว.

อย่างที่สอง กรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มนั้น คืออนุสรณ์สถานแห่งการทุจริตที่รัฐธรรมนูญป้องกันไม่ได้เลย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีมาตราไหน ให้ประชาชนเช้าชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องใช้วิธีการแจ้งความ ดำเนินคดีกันเอง

ขณะที่อำนาจองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขอบเขตอำนาจไว้กว้างขวาง จากคำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กร แต่ไม่มีการเชื่อมโยงกับประชาชน การที่ประชาชนไม่ได้มีอำนาจเลือกองค์กรอิสระ ก็ทำให้คนที่เลือกเข้ามากำหนด สิ่งที่เรียกว่า ต่างตอบแทนได้ ซึ่งตรงนี้ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเลย ถ้าเราไม่อยากให้เกิดนิติสงคราม จากองค์กรอิสระ ก็ต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญ

ดังนั้น ตรงนี้คือตัวอย่างในรัฐธรรมนูญที่เราต้องเร่งสร้างเรือกันใหม่ คงอุดรูรั่วกันไม่ทัน คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จึงจะจัดทำเป็นซีรีส์การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ พร้อมแนวทางการแก้ไข ให้สอดคล้องกับสังคมไทย จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ให้เข้ามาร่วมแคมเปญการแก้รัฐธรรมนูญกับเรา ด้วยการเสนอความคิดเห็นของท่านเข้ามา เรายินดีที่จะรับฟัง และต้องการให้ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในกระบวนการที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเริ่มต้น ณ บัดนี้

ส่วนรายละเอียดแคมเปญนั้น คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จะเริ่มการประชุมนัดแรกในวันนี้ เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัย ในจุดบกพร่องรัฐธรรมนูญ และอธิบายให้ประชาชนทราบทีละข้อ รวมถึงที่มา สว.ที่ไม่ปกติ วิปริต ทำให้สามารถแฮ็กระบบเข้ามา มีการกำหนดจากภายนอกเข้ามาได้

ส่วนที่มีคนบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม ในเมื่อปัญหาปากท้องยังคงอยู่ แต่ปากท้องคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจจะดีได้ การเมืองต้องดีด้วย จึงจะนำไปสู่การที่มีผู้บริหารหรือรัฐบาลที่ดี เมื่อเรามีรัฐบาลที่ดี เศรษฐกิจจะดี เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน เราจึงเสนอแนวทาง ในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ที่กว่าจะมีการประกาศใช้ จะยังทันสภาสมัยนี้หรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องเร่งพอสมควร เพราะอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 กรกฎาคม จะมีการเปิดสมัยประชุมสามัญแล้ว หากสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาบรรจุระเบียบวาระ พ.ร.บ.ประชามติ เข้าทันทีตั้งแต่ครั้งแรกในการประชุมสภา และมีการลงมติเสียงข้างมากเลย หลังจากนั้น จะสามารถประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อใช้ได้เลย และขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องการจัดทำระเบียบกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกับการทำประชามตินั้น

ส่วนเรื่องที่จะต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น นางสาวนันทนา ระบุว่า เราสามารถเริ่มกระบวนการได้เลย ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า ให้ทำ 2 ครั้ง แต่หากศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำ 3 ครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็ทำเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ทำได้เลย และต้องเร็ว เพราะดูเหมือนจะมีการยุบสภาในต้นปีหน้า หากเป็นเช่นนั้นอาจจะไม่ทันกับการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ถ้ากระบวนการเริ่มขึ้นแล้ว ก็เดินต่อได้ เว้นแต่จะมีการทำรัฐประหาร ซึ่งเชื่อว่าทหารไม่ทำ และขอร้องว่าอย่าทำ เพราะนั่นคือการทำร้ายประเทศชาติและเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่า อยากฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจไม่เห็นด้วยหรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองบอกว่า ไม่เร่งรีบไม่จำเป็น แต่อย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วว่า จะต้องเริ่มต้นจากกติกาที่ดี เราจึงต้องได้ผู้บริหารที่ดี รัฐบาลที่ดี และจะมีเศรษฐกิจที่ดี เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะค้านหรือรัฐบาล ก็ต้องมาร่วมกันในการปลดล็อกจุดแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการร่วมลงมติ พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งจะสามารถปลดล็อกสอง ล็อกสาม ต่อไปได้ ย้ำว่า ต้องจับมือกันผ่าน พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อเริ่มต้นการแก้รัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงการแย่งเก้าอี้คณะรัฐมนตรี ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย จะส่งผลต่อการลงมติหรือไม่ นางสาวนันทนา ระบุว่า อาจเป็นเกมการเมือง ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคเปลี่ยนสถานะจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็มีการเคลื่อนขยับ อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนสติบรรดานักการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคว่า อยากให้ท่าน เห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตน หรือส่วนพรรคของท่าน เพราะประชาชนรออยู่ และรอกติกาที่ดี เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้นที่ท่านจะแสดงให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า ท่านทำเพื่อประชาชน คือต้องมาช่วยกันลงมติเห็นชอบ และเดินหน้ากันต่อ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีที่รัฐบาล จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจริง (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) สู่สภาเป็นวาระแรก หลังเปิดสมัยประชุมสภา นางสาวนันทนา กล่าวว่า ก็วัดใจกันดูว่า เขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด ตนจะขอเอาฆ้องไปตีให้เขาได้ยินว่า ตอนนี้เป็นโมงยามแห่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลน่าจะเห็นพิษของรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วว่า ร้ายกาจมาก หากดึงดันที่จะไม่แก้ รัฐบาลจะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญ.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]