‘นันทนา’ คิกออฟแคมเปญ “โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่”

รัฐสภา 18 มิ.ย.- ‘นันทนา’ ถือฤกษ์คิกออฟแคมเปญ “โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่” หลังครบรอบ 180 วัน ‘พ.ร.บ.ประชามติ’ ถูกดอง วอน ‘สภา’ เร่งโหวตตั้งแต่เปิดสมัยประชุม บอก ลองวัดใจกันดู หากเอา ‘เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ’ เข้าก่อน จะเอาฆ้องไปตีให้ได้ยิน ชี้ ถ้าดึงดันไม่แก้ ‘รัฐบาล’ จะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญเอง


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา แถลงคิกออฟแคมเปญ ‘โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่’ ซึ่งมีการตีฆ้องก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในเริ่มต้น

นางสาวนันทนา กล่าวว่า วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติ เพื่อที่จะไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กรณีเสียงข้างมากสองชั้นที่วุฒิสภาเสนอมา จึงต้องยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติไว้เป็นเวลา 180 วัน เพื่อที่จะนำกลับมาลงมติใหม่


หากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ก็จะกลับไปเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว ซึ่งสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้เลย ฤกษ์งามยามดี วันที่ 18 มิถุนายนนี้ เป็นวันครบรอบ 180 วัน ของการยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จึงถือว่าเป็นวันปลดปล่อยกฎหมายประชามติ ซึ่งมีประชาชนมากมาย ถามว่า แล้วจะแก้รัฐธรรมนูญกี่โมง จึงคือโมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ วันนี้ที่รอคอย โดยเราจะทำเป็นแคมเปญ และแบ่งเป็นซีรีส์

นางสาวนันทนา กล่าวว่สาเหตุที่ต้องเร่งให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีจุดบกพร่องมากมาย ไม่ได้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงอย่างที่โอ้อวดกันไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มา 8 ปี แต่ดัชนีคอร์รัปชั่นประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยลด

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนเรือที่มีรูรั่วมากมาย ในที่สุดเรือลำนี้จะจม และจะพาเราทั้งหมดจมไปด้วย นั่นคือความเสี่ยงที่จะนำไปสู่รัฐล้มเหลวในที่สุด” นางสาวนันทนา กล่าว


ส่วนมาตราที่เป็นปัญหาชัดเจนที่สุด คือที่มาของ สว.ซึ่งระบุในรัฐธรรมนูญ ให้มาจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม จ่ายเงิน 2,500 บาท มาเลือกกันเอง ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่อำนาจล้นฟ้า สามารถเห็นชอบองค์กรอิสระทั้งหมดได้ ยับยั้งการแก้รัฐธรรมนูญได้ ด้วยช่องโหว่ของกฎหมาย กติกาเช่นนี้ เราจึงได้เห็นกระบวนการฮั้วพากันเข้ามากลุ่มใหญ่ถึง 140 คน เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้กระบวนการนิติบัญญัติบิดเบี้ยวไป หากเราไม่รีบแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างกติกาใหม่ในการเลือก สว.

อย่างที่สอง กรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มนั้น คืออนุสรณ์สถานแห่งการทุจริตที่รัฐธรรมนูญป้องกันไม่ได้เลย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีมาตราไหน ให้ประชาชนเช้าชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องใช้วิธีการแจ้งความ ดำเนินคดีกันเอง

ขณะที่อำนาจองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขอบเขตอำนาจไว้กว้างขวาง จากคำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กร แต่ไม่มีการเชื่อมโยงกับประชาชน การที่ประชาชนไม่ได้มีอำนาจเลือกองค์กรอิสระ ก็ทำให้คนที่เลือกเข้ามากำหนด สิ่งที่เรียกว่า ต่างตอบแทนได้ ซึ่งตรงนี้ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเลย ถ้าเราไม่อยากให้เกิดนิติสงคราม จากองค์กรอิสระ ก็ต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญ

ดังนั้น ตรงนี้คือตัวอย่างในรัฐธรรมนูญที่เราต้องเร่งสร้างเรือกันใหม่ คงอุดรูรั่วกันไม่ทัน คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จึงจะจัดทำเป็นซีรีส์การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ พร้อมแนวทางการแก้ไข ให้สอดคล้องกับสังคมไทย จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ให้เข้ามาร่วมแคมเปญการแก้รัฐธรรมนูญกับเรา ด้วยการเสนอความคิดเห็นของท่านเข้ามา เรายินดีที่จะรับฟัง และต้องการให้ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในกระบวนการที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเริ่มต้น ณ บัดนี้

ส่วนรายละเอียดแคมเปญนั้น คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จะเริ่มการประชุมนัดแรกในวันนี้ เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัย ในจุดบกพร่องรัฐธรรมนูญ และอธิบายให้ประชาชนทราบทีละข้อ รวมถึงที่มา สว.ที่ไม่ปกติ วิปริต ทำให้สามารถแฮ็กระบบเข้ามา มีการกำหนดจากภายนอกเข้ามาได้

ส่วนที่มีคนบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม ในเมื่อปัญหาปากท้องยังคงอยู่ แต่ปากท้องคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจจะดีได้ การเมืองต้องดีด้วย จึงจะนำไปสู่การที่มีผู้บริหารหรือรัฐบาลที่ดี เมื่อเรามีรัฐบาลที่ดี เศรษฐกิจจะดี เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน เราจึงเสนอแนวทาง ในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ที่กว่าจะมีการประกาศใช้ จะยังทันสภาสมัยนี้หรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องเร่งพอสมควร เพราะอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 กรกฎาคม จะมีการเปิดสมัยประชุมสามัญแล้ว หากสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาบรรจุระเบียบวาระ พ.ร.บ.ประชามติ เข้าทันทีตั้งแต่ครั้งแรกในการประชุมสภา และมีการลงมติเสียงข้างมากเลย หลังจากนั้น จะสามารถประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อใช้ได้เลย และขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องการจัดทำระเบียบกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกับการทำประชามตินั้น

ส่วนเรื่องที่จะต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น นางสาวนันทนา ระบุว่า เราสามารถเริ่มกระบวนการได้เลย ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า ให้ทำ 2 ครั้ง แต่หากศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำ 3 ครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็ทำเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ทำได้เลย และต้องเร็ว เพราะดูเหมือนจะมีการยุบสภาในต้นปีหน้า หากเป็นเช่นนั้นอาจจะไม่ทันกับการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ถ้ากระบวนการเริ่มขึ้นแล้ว ก็เดินต่อได้ เว้นแต่จะมีการทำรัฐประหาร ซึ่งเชื่อว่าทหารไม่ทำ และขอร้องว่าอย่าทำ เพราะนั่นคือการทำร้ายประเทศชาติและเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่า อยากฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจไม่เห็นด้วยหรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองบอกว่า ไม่เร่งรีบไม่จำเป็น แต่อย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วว่า จะต้องเริ่มต้นจากกติกาที่ดี เราจึงต้องได้ผู้บริหารที่ดี รัฐบาลที่ดี และจะมีเศรษฐกิจที่ดี เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะค้านหรือรัฐบาล ก็ต้องมาร่วมกันในการปลดล็อกจุดแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการร่วมลงมติ พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งจะสามารถปลดล็อกสอง ล็อกสาม ต่อไปได้ ย้ำว่า ต้องจับมือกันผ่าน พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อเริ่มต้นการแก้รัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงการแย่งเก้าอี้คณะรัฐมนตรี ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย จะส่งผลต่อการลงมติหรือไม่ นางสาวนันทนา ระบุว่า อาจเป็นเกมการเมือง ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคเปลี่ยนสถานะจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็มีการเคลื่อนขยับ อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนสติบรรดานักการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคว่า อยากให้ท่าน เห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตน หรือส่วนพรรคของท่าน เพราะประชาชนรออยู่ และรอกติกาที่ดี เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้นที่ท่านจะแสดงให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า ท่านทำเพื่อประชาชน คือต้องมาช่วยกันลงมติเห็นชอบ และเดินหน้ากันต่อ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีที่รัฐบาล จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจริง (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) สู่สภาเป็นวาระแรก หลังเปิดสมัยประชุมสภา นางสาวนันทนา กล่าวว่า ก็วัดใจกันดูว่า เขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด ตนจะขอเอาฆ้องไปตีให้เขาได้ยินว่า ตอนนี้เป็นโมงยามแห่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลน่าจะเห็นพิษของรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วว่า ร้ายกาจมาก หากดึงดันที่จะไม่แก้ รัฐบาลจะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญ.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]