‘นันทนา’ คิกออฟแคมเปญ “โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่”

รัฐสภา 18 มิ.ย.- ‘นันทนา’ ถือฤกษ์คิกออฟแคมเปญ “โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่” หลังครบรอบ 180 วัน ‘พ.ร.บ.ประชามติ’ ถูกดอง วอน ‘สภา’ เร่งโหวตตั้งแต่เปิดสมัยประชุม บอก ลองวัดใจกันดู หากเอา ‘เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ’ เข้าก่อน จะเอาฆ้องไปตีให้ได้ยิน ชี้ ถ้าดึงดันไม่แก้ ‘รัฐบาล’ จะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญเอง


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา แถลงคิกออฟแคมเปญ ‘โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่’ ซึ่งมีการตีฆ้องก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในเริ่มต้น

นางสาวนันทนา กล่าวว่า วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติ เพื่อที่จะไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กรณีเสียงข้างมากสองชั้นที่วุฒิสภาเสนอมา จึงต้องยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติไว้เป็นเวลา 180 วัน เพื่อที่จะนำกลับมาลงมติใหม่


หากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ก็จะกลับไปเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว ซึ่งสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้เลย ฤกษ์งามยามดี วันที่ 18 มิถุนายนนี้ เป็นวันครบรอบ 180 วัน ของการยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จึงถือว่าเป็นวันปลดปล่อยกฎหมายประชามติ ซึ่งมีประชาชนมากมาย ถามว่า แล้วจะแก้รัฐธรรมนูญกี่โมง จึงคือโมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ วันนี้ที่รอคอย โดยเราจะทำเป็นแคมเปญ และแบ่งเป็นซีรีส์

นางสาวนันทนา กล่าวว่สาเหตุที่ต้องเร่งให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีจุดบกพร่องมากมาย ไม่ได้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงอย่างที่โอ้อวดกันไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มา 8 ปี แต่ดัชนีคอร์รัปชั่นประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยลด

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนเรือที่มีรูรั่วมากมาย ในที่สุดเรือลำนี้จะจม และจะพาเราทั้งหมดจมไปด้วย นั่นคือความเสี่ยงที่จะนำไปสู่รัฐล้มเหลวในที่สุด” นางสาวนันทนา กล่าว


ส่วนมาตราที่เป็นปัญหาชัดเจนที่สุด คือที่มาของ สว.ซึ่งระบุในรัฐธรรมนูญ ให้มาจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม จ่ายเงิน 2,500 บาท มาเลือกกันเอง ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่อำนาจล้นฟ้า สามารถเห็นชอบองค์กรอิสระทั้งหมดได้ ยับยั้งการแก้รัฐธรรมนูญได้ ด้วยช่องโหว่ของกฎหมาย กติกาเช่นนี้ เราจึงได้เห็นกระบวนการฮั้วพากันเข้ามากลุ่มใหญ่ถึง 140 คน เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้กระบวนการนิติบัญญัติบิดเบี้ยวไป หากเราไม่รีบแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างกติกาใหม่ในการเลือก สว.

อย่างที่สอง กรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มนั้น คืออนุสรณ์สถานแห่งการทุจริตที่รัฐธรรมนูญป้องกันไม่ได้เลย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีมาตราไหน ให้ประชาชนเช้าชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องใช้วิธีการแจ้งความ ดำเนินคดีกันเอง

ขณะที่อำนาจองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขอบเขตอำนาจไว้กว้างขวาง จากคำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กร แต่ไม่มีการเชื่อมโยงกับประชาชน การที่ประชาชนไม่ได้มีอำนาจเลือกองค์กรอิสระ ก็ทำให้คนที่เลือกเข้ามากำหนด สิ่งที่เรียกว่า ต่างตอบแทนได้ ซึ่งตรงนี้ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเลย ถ้าเราไม่อยากให้เกิดนิติสงคราม จากองค์กรอิสระ ก็ต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญ

ดังนั้น ตรงนี้คือตัวอย่างในรัฐธรรมนูญที่เราต้องเร่งสร้างเรือกันใหม่ คงอุดรูรั่วกันไม่ทัน คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จึงจะจัดทำเป็นซีรีส์การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ พร้อมแนวทางการแก้ไข ให้สอดคล้องกับสังคมไทย จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ให้เข้ามาร่วมแคมเปญการแก้รัฐธรรมนูญกับเรา ด้วยการเสนอความคิดเห็นของท่านเข้ามา เรายินดีที่จะรับฟัง และต้องการให้ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในกระบวนการที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเริ่มต้น ณ บัดนี้

ส่วนรายละเอียดแคมเปญนั้น คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จะเริ่มการประชุมนัดแรกในวันนี้ เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัย ในจุดบกพร่องรัฐธรรมนูญ และอธิบายให้ประชาชนทราบทีละข้อ รวมถึงที่มา สว.ที่ไม่ปกติ วิปริต ทำให้สามารถแฮ็กระบบเข้ามา มีการกำหนดจากภายนอกเข้ามาได้

ส่วนที่มีคนบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม ในเมื่อปัญหาปากท้องยังคงอยู่ แต่ปากท้องคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจจะดีได้ การเมืองต้องดีด้วย จึงจะนำไปสู่การที่มีผู้บริหารหรือรัฐบาลที่ดี เมื่อเรามีรัฐบาลที่ดี เศรษฐกิจจะดี เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน เราจึงเสนอแนวทาง ในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ที่กว่าจะมีการประกาศใช้ จะยังทันสภาสมัยนี้หรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องเร่งพอสมควร เพราะอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 กรกฎาคม จะมีการเปิดสมัยประชุมสามัญแล้ว หากสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาบรรจุระเบียบวาระ พ.ร.บ.ประชามติ เข้าทันทีตั้งแต่ครั้งแรกในการประชุมสภา และมีการลงมติเสียงข้างมากเลย หลังจากนั้น จะสามารถประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อใช้ได้เลย และขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องการจัดทำระเบียบกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกับการทำประชามตินั้น

ส่วนเรื่องที่จะต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น นางสาวนันทนา ระบุว่า เราสามารถเริ่มกระบวนการได้เลย ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า ให้ทำ 2 ครั้ง แต่หากศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำ 3 ครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็ทำเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ทำได้เลย และต้องเร็ว เพราะดูเหมือนจะมีการยุบสภาในต้นปีหน้า หากเป็นเช่นนั้นอาจจะไม่ทันกับการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ถ้ากระบวนการเริ่มขึ้นแล้ว ก็เดินต่อได้ เว้นแต่จะมีการทำรัฐประหาร ซึ่งเชื่อว่าทหารไม่ทำ และขอร้องว่าอย่าทำ เพราะนั่นคือการทำร้ายประเทศชาติและเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่า อยากฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจไม่เห็นด้วยหรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองบอกว่า ไม่เร่งรีบไม่จำเป็น แต่อย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วว่า จะต้องเริ่มต้นจากกติกาที่ดี เราจึงต้องได้ผู้บริหารที่ดี รัฐบาลที่ดี และจะมีเศรษฐกิจที่ดี เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะค้านหรือรัฐบาล ก็ต้องมาร่วมกันในการปลดล็อกจุดแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการร่วมลงมติ พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งจะสามารถปลดล็อกสอง ล็อกสาม ต่อไปได้ ย้ำว่า ต้องจับมือกันผ่าน พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อเริ่มต้นการแก้รัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงการแย่งเก้าอี้คณะรัฐมนตรี ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย จะส่งผลต่อการลงมติหรือไม่ นางสาวนันทนา ระบุว่า อาจเป็นเกมการเมือง ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคเปลี่ยนสถานะจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็มีการเคลื่อนขยับ อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนสติบรรดานักการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคว่า อยากให้ท่าน เห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตน หรือส่วนพรรคของท่าน เพราะประชาชนรออยู่ และรอกติกาที่ดี เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้นที่ท่านจะแสดงให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า ท่านทำเพื่อประชาชน คือต้องมาช่วยกันลงมติเห็นชอบ และเดินหน้ากันต่อ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีที่รัฐบาล จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจริง (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) สู่สภาเป็นวาระแรก หลังเปิดสมัยประชุมสภา นางสาวนันทนา กล่าวว่า ก็วัดใจกันดูว่า เขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด ตนจะขอเอาฆ้องไปตีให้เขาได้ยินว่า ตอนนี้เป็นโมงยามแห่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลน่าจะเห็นพิษของรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วว่า ร้ายกาจมาก หากดึงดันที่จะไม่แก้ รัฐบาลจะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญ.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

กัมพูชาห้ามผัก-ผลไม้ไทยผ่านช่องจอมวันแรก

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ กัมพูชาตรวจเข้มไม่ให้ผัก-ผลไม้ไทยเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนอย่างหนัก วอนทางการไทยตอบโต้สินค้าจากกัมพูชาที่เข้ามาโกยเงินคนไทยบ้าง เวลา 08.00 น. ได้เวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในฝั่งไทย ในห้วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดที่ลดเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ชาวกัมพูชาต่างเข้าแถวรอข้ามแดน พร้อมกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปรอรับส่งชาวกัมพูชาเที่ยวละ 20 บาท ที่เห็นต่อแถวยาวเหยียด เข้าคิวรอตั้งแต่เมื่อวานคือ รถบรรทุกที่จะเข้าไปซื้อมันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา คนกัมพูชาที่กลับประเทศวันนี้มีทั้งกลุ่มคนที่เข้าๆ ออกๆ ไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย และกลุ่มที่กลับไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึงเห็นสัมภาระจำพวกเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและจำพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่ห้ามนำออกราชอาณาจักรไทย แม้แต่ไฟโซลาร์เซลล์ก็ถูกยึดไว้ เมื่อผ่านจุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดนของกองกำลังสุรนารีได้แล้ว อีกจุดคือด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เวลา 09.00 น. ประตูฝั่งกัมพูชาจึงจะเปิด ซึ่งพบว่ามีการตรวจเข้มตามนโยบายกดดันทางการไทย โดยประกาศชัดว่าจะไม่ให้นำผักผลไม้เข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียว กรรมกรชาวกัมพูชาคนนี้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แวะซื้อเงาะและลองกองที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไม่ทราบว่าทางการกัมพูชาจะเข้มงวดถึงขั้นห้ามนำไปกินในครอบครัว วันนี้ (18 […]