สว.สำรอง ยื่น 5 ไม่ ให้ กกต. ในคดีฮั้วเลือก สว.

กกต. 17 มิ.ย.-สว.สำรอง ยื่น 5 ไม่ ให้ กกต. ในคดีฮั้วเลือก สว. มองมีชื่อแกนนำ-กก.บห.พรรคดัง ชี้ชัดเอี่ยวฮั้ว พร้อมแนะฟ้องกลับหลังศาลยกคำร้อง

กลุ่ม สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว. นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อติดตามการทำงานของ กกต. ที่มีต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ในคดีฮั้วเลือก สว. โดยพล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการของคณะสืบสวนไต่สวนคณะที่ 26 ได้ดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการออกหนังสือเรียกผู้เกี่ยวข้องมาแก้ข้อกล่าวหาได้ถึง 162 คนและคาดว่าจะครบจำนวนในเร็ววันนี้ การดำเนินการตามกระบวนการต่อจากนี้จะเป็นการนำเสนอไปยังฝ่ายกฎหมายคณะอนุวินิจฉัย คณะ กกต. และจากการดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันทราบว่ามีความพยายามของกลุ่มคนบางกลุ่มที่ทำให้การทำงานของคณะสืบสวนไต่สวนฯ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย มีการใช้กลวิธีต่างๆเพื่อที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม


ฉะนั้นกลุ่ม สว.สำรอง และภาคประชาชนที่เกี่ยวข้อง จึงมาวันนี้เพื่อเรียกร้องต่อ กกต. ให้ยืนยันและปฏิบัติตาม 5 ไม่ คือ1. ไม่ฟังเสียงสั่งการ หรือข้อขอร้องใดๆ จากผู้หนึ่งผู้ใดที่อาจจะแอบอ้างสั่งการ หรือแอบอ้างชื่อเพื่อให้การกระทำที่นอกเหนือไปจากข้อเท็จจริง หรือความจริงที่เกิดขึ้น ขอให้ยึดมั่น ตัดสินอย่างตรงไปตรงมา 2.ไม่รับคำร้องขอหรือรับสิ่งตอบแทนใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมจากผู้ใด เพื่อกระทำการหรืองดเว้นการกระทำการนอกเหนือไปจากหน้าที่รับผิดชอบในการที่จะรักษาไว้ซึ่งความสุจริตและเที่ยงธรรม เพื่อให้การตรวจสอบการทุจริตเกี่ยวกับการเลือก สว.ครั้งนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างเที่ยงธรรมจนเสร็จสิ้นกระบวนการ

3.ไม่กระทำการสิ่งใดที่นอกเหนือจากหน้าที่รับผิดชอบตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะมีแรงร้องขออ้อนวอน หรือแรงกดดันใดๆ โดยตระหนักอยู่เสมอในจิตมโนสำนึกในการรักษาไว้ ซึ่งความสุจริตและเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมายตามคำขวัญของสำนักงาน กกต. 4.ไม่ลาออกก่อนกำหนดไม่ว่าด้วยเหตุผล หรือกรณีใดใดเพื่อคงไว้ซึ่งการดำเนินการตามภารกิจที่รับผิดชอบในการตรวจสอบการทุจริตในการเลือก สว. ให้เสร็จสิ้นโดยต้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของตนและครอบครัวตลอดจนองค์กรคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ท่านเป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรและเป็นแบบอย่างให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งปวง


และ 5.ไม่ละทิ้งหน้าที่และประชาชนโดยต้องควบคุมสอดส่องการปฎิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ ในการตรวจสอบการทุจริตการเลือก สว.ครั้งนี้ให้สามารถดำเนินไปได้โดยปราศจากอุปสรรคใดๆ และสนับสนุนอนุเคราะห์การดำเนินการผู้รับผิดชอบตลอดจนปกป้องและขัดขวางจากผู้ไม่หวังดีต่อกรณีกล่าวหาหรือร้องเรียนต่างๆ

เมื่อถามว่าการที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องรวมถึงพรรคการเมืองเข้ารับทราบข้อหาเป็นเครื่องบ่งชี้ได้หรือไม่ว่าเกี่ยวข้องกับกระบวนการฮั๊วเลือก สว. พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า จากปรากฏการณ์ที่คณะสืบสวนฯทำหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ก็เป็นเครื่องบ่งชี้อย่างหนึ่งว่าบุคคลทั้ง 162 คน ตั้งแต่ล็อต 1 – 7 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือก สว. ที่ผ่านมา ไม่อย่างไรก็อย่างหนึ่งแน่นอน คงจะเป็นลักษณะ 2 ส่วนส่วนแรกคือบุคคลที่ได้เป็น สว.ได้มาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ส่วนบุคคลที่ไม่ได้เป็น สว. คงจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกระทำผิดตามที่ระบุไว้ตามมาตรา 77 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. กรณีบุคคลสั่งให้กระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมถึงมาตรา 76 ที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองโดยใช้สถานะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ส่วนจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องของพยานหลักฐานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน

เมื่อถามว่ามองว่าการที่พรรคการเมืองดังกล่าวฟ้องกลับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 จะทำให้การตรวจสอบเกิดข้อสะดุดหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า การฟ้องกลับควรฟ้องกลับก็ต่อเมื่อการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาไปถึงศาล แล้วศาลยกว่าที่ฟ้องมาไม่ผิด จึงจะมีความเหมาะสมถ้าจะฟ้องกลับ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้แก้ข้อกล่าวหาว่าถูกผิดอย่างไร แล้วใช้วิธีฟ้องกลับตนคิดว่าอาจจะฟังได้ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่คงต้องไปตรวจสอบกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น


“หากท่านอดทนรออีกสักนิดนึง รอให้ท่านไปแก้ข้อกล่าวหา แก้ได้ ไม่ได้ หากไปถึงชั้นศาลแล้ว ศาลฟังท่านแล้วยกคำร้องของคณะกรรมการสืบสวนฯ ก็แปลว่าท่านชนะ ท่านก็อาจใช้ประเด็นนั้นฟ้องกลับ ผมว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด” พล.ต.ท.คำรบกล่าว

เมื่อถามว่าที่ปรากฏรายชื่อแกนนำและผู้บริหารพรรคการเมืองร่วมอยู่ด้วยหมายความว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับพรรคแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าน่าจะที่สุดแล้วจากที่เห็นรายชื่อที่ปรากฏออกมา ซึ่งดูแล้วอาจจะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง คาดว่าน่าจะเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญที่สุดของพรรค

เมื่อถามว่าข้อมูลของกลุ่ม สว.สำรอง ที่มียังมีรายชื่อบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นอกเหนือจากรายชื่อที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 แจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า มีข้อมูลอื่น แต่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องของ สว.โดยตรง ซึ่งในส่วนการดำเนินการทั้งหมดยังเกี่ยวข้องไปตั้งแต่ผู้สนับสนุนการเลือก การเลือกไขว้ มีการว่าจ้างตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ซึ่งยังมีอีกหลายส่วนเช่นกัน แต่ตนเข้าใจว่าในขั้นแรกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนอาจจะมุ่งไปถึงคณะ สว.ตัวจริงที่อยู่ในสภาที่มีที่มาที่ไป อาจจะไม่สุจริตเที่ยงธรรมก่อน เพราะเป็นเรื่องของเกี่ยวกับการเลือก สว. และหลังจากนี้ยังมีข้อหาอั้งยี่ ฟอกเงิน รวมถึงอาจจะมีข้อหา มาตรา 116 ข้อหาให้ประชาชนกระทำความผิด ซึ่งในส่วนนี้ยังมีคณะกรรมการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มีอธิบดีดีเอสไอเป็นประธาน เข้าใจว่าหลังจากเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว.เมื่อได้ข้อสรุปเห็นภาพชัดเจน คณะทำงานร่วมกับกกต.ก็จะไปสวมหมวกเป็นคณะกรรมการในชุดที่มี 41 คน จะไปดำเนินการในเรื่องของเรื่องอั้งยี่ซ่องโจรต่อไป

ด้านนายพิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร ได้ร้องเพลงเนื้อหาว่า “สู้ติดแน่ แพ้ติดนาน สารภาพติดพอประมาณ หรือว่ากันตัวไว้เป็นพยาน เอายังไงดี ออยู่ดีๆ ก็สะดวกดำเนินคดีเสียอย่างนั้น อยู่ดีๆ ก็จะเข้าไปกินข้าวแดงซะงั้น อออก็ไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นอย่างนี้ ก็ไม่คิดว่าจะมีใครจับได้ไล่ทัน อิอก็คิดว่าแบ็ค ใหญ่แบ็คดีแต่ตอนนี้แบตก็ยังจะแย่”.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]