ครม.เห็นชอบเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด F1 วงเงิน 41,339 ล้าน ตลอด 5 ปี

ทำเนียบ 17 มิ.ย.-“สรวงศ์” เผย ครม.เห็นชอบเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด F1 วงเงิน 41,339 ล้านบาท ตลอด 5 ปี ตั้งแต่ 2571-2575 โดยจะมีการแข่ง 3 วัน คือ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ของเดือน มี.ค. หรือ ก.ย. พร้อมตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียด สำนักเลขานายกฯ ติงเป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูง และอาจส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของประเทศในอนาคต ขณะที่รายได้ที่หามาไม่คุ้มเงินที่ลงทุน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนโยบายการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Fomula หรือ F1 แล้ว และหลังจากนี้ ซึ่งตามข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2571 กรอบวงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท จะใช้งบเป็นรายปี และต้องเสนอเข้ามาให้ ครม.พิจารณาทุกปี ดังนั้น วันนี้ที่ประชุมจึงได้พิจารณากรอบการดำเนินโครงการเพื่อไปศึกษาโดยละเอียดต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะทำงานประมูลสิทธิ์ และมีองค์ประกอบเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และอธิบดีที่เกี่ยวข้องในกระทรวงคมนาคม และอื่นๆ พร้อมยืนยันว่า ระยะเวลาในการศึกษาโครงการที่มีจนถึงปี 2571 เพียงพอ เพราะขณะนี้ได้มีการออกแบบไว้คร่าวๆ แล้ว และเบื้องต้นมีแบบออกมาบ้างแล้ว โดยทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ของ สปน. รวมถึงบริษัท F1 แล้ว


ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP ในประเทศไทย ประจำปี 2571-2575 รวม 5 ปี ภายในกรอบวงเงิน 41,339.67 ล้านบาท รวมถึงงบประมาณที่จำเป็นเร่งด่วนในส่วนของค่าออกแบบ 218.07 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะขอรับจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป และจะมีการขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ แต่หากไม่เพียงพอ สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและมีเงินคงเหลือ ให้นำส่งและคืนเงินตามกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขัน จะช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการเป็นศูนย์กลางในการแข่งขันกีฬาชั้นนำของโลก และ World Class Event Hub ตลอดจนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเสริมสร้างประสบการณ์ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกีฬายานยนต์ โดยระยะเวลาการแข่งขันจะใช้เวลา 3 วันต่อปี ตรงกับวันศุกร์-อาทิตย์ ของเดือนมีนาคม หรือเดือนกันยายน ของปี 2571-2575


สำหรับพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดการแข่งขัน คือ บริเวณจตุจักร ประกอบด้วย 8 พื้นที่หลัก เนื่องจากมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีพื้นที่สำหรับแฟนกีฬาไม่ได้เป็นญาติที่พักอาศัยหลัก ทำให้มีผลกระทบต่อชุมชนและการจราจรน้อย ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีขนาดพื้นที่ 838 ไร่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีขนาดพื้นที่ 109 ไร่ ตลาดนัดสวนจตุจักร 241 ไร่ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 207 ไร่ สวนจตุจักร 163 ไร่ สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ 418 ไร่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 45 ไร่ และการรถไฟแห่งประเทศไทย 146 ไร่ โดยจะมีพื้นที่ Grandstand เป็นที่นั่งบนอัฒจันทร์ที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ชมทั่วไปชมการแข่งขันกระจายตามจุดต่างๆ ของจำนวน 93,500 ที่นั่ง และพื้นที่ Paddock Club เป็นพื้นที่ VIP ตั้งอยู่บน Pit Lane 4,000 ที่นั่ง และพื้นที่ VIP Hospitality เป็นพื้นที่โซนวีไอพี โดยเป็นที่นั่งบนอัฒจันทร์ Grandstand ในตำแหน่งพิเศษ

“เส้นทางสนามที่เสนอให้มีการแข่งขัน มีระยะทาง 5.732 กิโลเมตร โดยมีจำนวนโค้งทั้งหมด 18 จุด และช่องทางตรงที่ยาวที่สุดถึง 1.2 กิโลเมตร อัฒจันทร์ที่กระจายตัวตามจุดต่างๆ รอบสนาม รองรับผู้ชมได้สูงสุดถึง 108,200 คน”

ขณะที่ผลการศึกษาได้ประมาณการรายได้จากการเป็นเจ้าภาพ ทั้งจากการจำหน่ายตั๋ว จากผู้สนับสนุน จากการขายของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม รายได้จากการจัดคอนเสิร์ต จากค่าเช่าพื้นที่ และค่าคอมมิชชั่นจากโรงแรมที่พัก รวม 5 ปี อยู่ที่ 27,276.77 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณปีละกว่า 5,000 ล้านบาท


สำหรับผลคาดการณ์จำนวนผู้ร่วมงานฟอร์มูล่าวันในประเทศไทย ในกรณีมีการจัดงานในปี 2571 พิจารณาสัดส่วนจากผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและท่องเที่ยวต่างประเทศของ 21 ประเทศเจ้าภาพ พบว่ามีความเป็นไปได้ในระดับสูงที่จะมีผู้เข้าร่วมงานในไทยที่ค่าเฉลี่ยจำนวน 407,132 คน 81,918 คน และสูงสุด 314,508 คน และเป็นผู้ร่วมงานจากต่างประเทศ 92,622 คน

ด้านผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในช่วงปี 2571-2575 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร บริการขนส่ง ทำให้เงินสะพัดทางเศรษฐกิจระหว่างการจัดการแข่งขันอยู่ที่ 16,000 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 14,000 ล้านบาทต่อปี ช่วยสร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีของภาครัฐ 1,400 ล้านบาทต่อปี เกิดการลงทุนใหม่ประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี และสร้างงานใหม่ให้ประเทศไทย 8,000 ตำแหน่งต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะแสดงความเห็นถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน Formula 1 ในไทย ภายในกรอบวงเงิน 41,779.67 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูงและอาจส่งผลผลกระทบต่อสถานะการเงินของประเทศในอนาคตได้ โดยเฉพาะในบริบทที่ภาครัฐมีงบจำกัด และมีภาระทางการคลังจากภารกิจจำเป็นอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป แม้ผลการศึกษาความเหมาะสมจะแสดงให้เห็นว่า การลงทุนโดยภาครัฐทั้งหมดมีข้อดีบางประการ แต่ก็มีข้อเสียที่สำคัญ โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการขาดทุนที่ตกอยู่กับภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว หากการเป็นเจ้าภาพดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ผลการศึกษาเห็นว่า ไม่สามารถสร้างรายได้จากการจัดงานรวมมากกว่างบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดงานและการลงทุน จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะแนวทางในการเพิ่มรายได้และลดภาระงบประมาณภาครัฐ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]