“อนุทิน” ย้ำหากโดนยึด “มหาดไทย” พร้อมเป็นฝ่ายค้าน

ทำเนียบ 17 มิ.ย.-“อนุทิน” ยันไม่คืนเก้าอี้ “มหาดไทย” แน่ ย้ำข้อตกลงเดิมที่จัดตั้งรัฐบาล แต่หากโดนยึด พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ตั้งคำถาม นายกฯ หรือใครต้องการมหาดไทยกันแน่ บอกภูมิใจไทย หนุนนายกฯ-รัฐบาล ออกนอกหน้า ยืนเคียงข้างทุกสถานการณ์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพูดคุยกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี โดนย้อนถามว่า เมื่อกี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือ


เมื่อถามว่า ข้อสรุป 2 กระทรวง แลก 1 กระทรวงนั้นจริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนายกฯ บอกว่า ไม่มี แล้วใครจะบอกว่ามี

ส่วนที่่นายกรัฐมนตรี บอกว่า รัฐมนตรีต้องพร้อมทำงานทุกกระทรวง มีนัยอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีก็ต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา ถูกต้องแล้ว


ส่วนเรื่องสัญญาใจ จะต้องยึดตามโควตาที่เคยตกลงกันไว้หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างพวกเราไม่ต้องมีเอ็มโอยู สมัยก่อนที่จะมารวมกันในขั้วนี้ ก็ใช้เวลาเดือนกว่า กว่าจะทำเอ็มโอยูกับพรรคก้าวไกล ซึ่งมันเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ของพวกเราเป็นคนคุ้นเคย

“ตอนที่ที่ท่านเชิญไปที่พรรคเพื่อไทยที่ไปกินช็อกโกแลตมินต์ เรื่องเอ็มโอยูไม่จำเป็น ความเข้าใจความเชื่อมั่นนั้นสำคัญกว่า ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลงอีกหน่อยตั้งรัฐบาลก็ลำบาก เพราะต้องมานั่งเขียนสัญญากัน ยุ่งตายเลยเลือกตั้งเสร็จ แทนที่จะเร่งตั้งรัฐบาลจะต้องมานั่งดู อีกหน่อยต้องมานั่งเขียนว่าจะอยู่กันอย่างไร ต้องสนับสนุนกันอย่างไร มีการเปลี่ยนได้หรือไม่ เราไม่น่าจะทำอย่างนั้นนะ” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ การปรับครั้งนี้ไม่ได้ทำตามข้อตกลงเดิม จะยุ่งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ของตนไม่ยุ่งแน่นอน ก็ตนบอกไปแล้ว


เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ถ้าไม่ได้กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ใช่ครับ

เมื่อถามว่า ต้องรักษาเก้าอี้มหาดไทยไว้ให้ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ครับ เป็นไปตามข้อตกลงของการจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ อยู่ในการเมืองมานาน อ่านเกมออกหรือไม่ว่า ตอนนี้เพื่อไทยเขาไม่ให้กระทรวงมหาดไทยแน่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีเกมอะไร ภูมิใจไทยไม่ให้แน่ อยู่กับตน จะไม่ให้ได้อย่างไร ข้อตกลง มันยังเป็นข้อตกลงอยู่ และตนให้ความเคารพนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า สองผู้นำจิตวิญญาณ นายเนวิน ชิดชอบ และนายทักษิณ ชินวัตร ว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงไหน จะไปไหน อยู่ที่ตน พร้อมย้ำถึงเหตุผลที่อยากให้มหาดไทยอยู่กับภูมิใจไทยว่า เป็นไปตามข้อตกลง ข้อตกลงแปลว่าอะไร คือให้ดูแลกำกับกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ และยังไม่ได้มีการกระทำใดๆ ที่เสียหาย ต้องไปดูผลโพลของมหิดล ก็มีความชัดเจนว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้เป็นกระทรวงที่ทำความเสียหายใดๆ และตัวตนก็ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับรัฐบาล

”ตรงกันข้าม ตนสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างออกนอกหน้ามาโดยตลอด ให้กำลังใจเชียร์ท่าน และพร้อมยืนเคียงข้างท่านในทุกสถานการณ์ ตนได้ทำงานตามครรลองของคนที่ทำงานด้วยกันพึงจะกระทำ“ นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงความพรรคเพื่อไทยและนายกฯ ไม่ได้แจ้งหัวแจ้งก้อยในเรื่องของกระทรวงมหาดไทยว่าจะอย่างไรต่อ นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้แจ้งหัวแจ้งก้อย

ส่วนได้มีการประเมินว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่อยู่ แล้วเสียงของรัฐบาลจะเพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คิดถึงเรื่องนััน เราคิดถึงเรื่องข้อตกลง เรื่องความสัมพันธ์ที่ดีและการร่วมงานที่ดี ตนเห็นนายกฯ ชมตนตลอดเวลาในการทำงาน มีบางเรื่องที่ล่าช้าไป นายกฯ ก็โทรมาขอให้เร่งรัด ซึ่งตนก็เร่งรัด ตรงไหนที่ติดข้อกฎหมายจริงๆ ก็เรียนให้ทราบ นายกฯ ก็รับฟัง ท่านน่ารักจะตาย

ทั้งนี้ หากพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน คิดว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนี้ต้องให้ผู้สื่อข่าวคิดมากกว่า ตนว่าอยู่ด้วยกัน ข้อตกลง อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ

“ผมไม่รู้ว่า จริงๆแล้ว นายกฯ ต้องการกระทรวงมหาดไทยหรือใครต้องการ เพราะว่า ผมคุยกับนายกฯ เมื่อวาน มีหมอพรหมมินทร์ มีกันอยู่ 3 คน และไม่ได้มีเรื่องที่ออกมาเป็นข่าวเลย และผมก็เดินลงมา ผู้สื่อข่าวก็ถาม ผมก็บอกไม่มี พอเขาออกไปว่าไม่มีปุ๊บ มันก็เหมือนมีคนเขียนข่าวว่าต้องมี ก็คนๆนั้น มันไม่ได้อยู่ในที่ๆหารือ หารือมีอยู่สามคน ถ้าคุณหมอพรหมมินทร์ไม่ได้พูด ผมเชื่อว่าคุณหมอไม่ได้พูด ท่านนายกไม่พูดแน่นอน ผมก็ได้มาพูดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าได้คุยอะไรในข้อสรุป มันก็มีอยู่แค่นี้“ นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า แล้วใครต้องการในเรื่องนี้นายอนุทิน กล่าวว่า ”ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ต้องมีความต้องการอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ว่า เอ๊ะ ทำไมมาลงที่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงนี้มันสำคัญอะไรขนาดนั้น“ นายอนุทิน กล่าว

ส่วนจะเกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.พนันออนไลน์ หรือร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ได้ง่ายหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนจะโล่งอก ถ้าไม่ต้องไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตนเองได้บอกกับนายกฯ ไปแล้วว่า เรื่องการพนันออนไลน์ คณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่าไม่สามารถแก้กฎกระทรวงได้ แต่ไม่รู้มีใครไปรายงานว่า แค่กระทรวงมหาดไทยแก้กฎกระทรวงก็เรียบร้อยแล้ว แต่มันไม่แก้ไม่ได้ กฤษฎีกายืนยัน ตรงนี้ก็ตกไป

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองให้คำยืนยันกับนายกฯ เกี่ยวกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ขวาง พรรคยืนยันสนับสนุนนโยบายนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาล โดยที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและศีลธรรมอันดี ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นชอบ พรรคภูมิใจไทยก็จะเห็นชอบด้วย แต่ที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคไม่เห็นชอบ อย่างพรรคประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นชอบ เนื่องจากติดหลักทางศาสนา จึงไม่ใช่เจตนารมณ์ จริงๆ ศาสนาพุทธไม่ใช่ว่าจะเอาด้วยเกี่ยวกับเรื่องของการพนัน จึงอยากให้ชัดเจนก่อน เอาเรื่องศาสนาออก และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ถ้าพรรคร่วมเห็นด้วยกันหมด พรรคภูมิใจไทยก็ไม่มีทางเลือกอื่น ก็ต้องเห็นด้วย แม้ในใจจะคิดอะไรก็แล้วแต่ ก็ได้บอกจุดยืนของพรรคให้นายกฯทราบแล้ว

นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่าในที่ประชุมของพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.68) ตนเองได้สื่อสารไปยังลูกพรรค ว่า ตอนนี้มีกระแสข่าว ที่มีความพยายามดึงกระทรวงมหาดไทยแลกกับกระทรวงอื่นๆ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าจะแลกกับกระทรวงอะไร ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง ต้องขออนุญาต ให้ได้ฉันทานุมัติจากสมาชิกพรรค ว่าขอให้ไว้วางใจในการตัดสินใจของตนเอง ที่จะดำเนินการให้เป็นประโยชน์ที่สุดต่อพี่น้องประชาชน

“ซึ่งลูกพรรคก็บอกว่า จุดนี้เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนก็กลายเป็นว่าพรรคภูมิใจไทยโดนอยู่พรรคเดียว ทั้งที่เป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างสุดซอย ทุกๆเรื่อง ไม่เคยมีเพี้ยนหรือมีข้อยกเว้น ไม่เคยมีลา ยกตัวอย่างการโหวตไว้วางใจนายกฯ ถ้ายกสองมือได้ก็ยกแล้ว แต่เรื่องงบประมาณ พรรคภูมิใจไทยมาครบหมด ยังมีหลายพรรคที่ลาไปประกอบพิธีทางศาสนา บางพรรคก็ขาด ก็ป่วย ผมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างชัดเจนที่สุด ตัวผมเองยืนอยู่เคียงข้างท่านนายกฯ ในทุกสถานการณ์ เวลาแถลงข่าวมีใครยืนล่ะ มีผมยืนอยู่ตลอด แต่วันนี้ท่านบอกว่าจากนี้ไป จะให้เป็นหน้าที่ของโฆษกรัฐบาล ก็เลยไม่ได้ลงมา“ นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน ย้ำเงื่อนไขว่าอย่างไรจะต้องได้กระทรวงมหาดไทย ยกเว้นมีเงื่อนไขว่าจะต้องปรับใหม่หมด คุยกัน โดยที่ไม่แยกคุย รัฐบาลชุดนี้จะเอาอย่างไรก็มีเหตุมีผล เพราะตนเองก็ไม่ใช่คนดื้ออะไร นายกฯ ก็มีเหตุมีผลอยู่แล้ว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย