ภูมิใจไทย 16 มิ.ย.-“ไชยชนก” ตั้งกฎให้สัมภาษณ์ แต่ขอให้นำเสนอเรื่องมีประโยชน์กับประชาชนด้วย ไล่สนใจสิ่งแวดล้อมบ้าง ขอสื่ออย่าบิดเบือน รับเซ็นรับหมายเรียกคดีฮั้ว สว.แล้ว ให้ครูใหญ่ด้วย ยันแจงแน่ ชี้ข้อกล่าวหาเหมือนก๊อปปี้ตามกันมา
นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทยเพื่อเข้าประชุมสส. โดยผู้สื่อข่าวที่ปักหลักอยู่ที่พรรค พยายามสอบถามถึงประเด็นที่คณะอนุกรรมการสืบสวน และไต่สวนชุดที่ 26 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เรียกเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ในคดีฮั้วสว.
นายไชยชนก บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะไม่ถามเรื่องชายแดน เรื่องน้ำท่วมที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนไม่สนเลยหรอ ผู้สื่อขาวจึงสอบถามถามถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนที่นายไชยชนกจะกล่าวว่า ทุกคนกำลังทำเต็มที่ และประชาชนก็สนับสนุนเต็มที่ ในเรื่องฝ่ายบริหารที่ไปเจรจามา ไปในทิศทางที่ดี ตอนนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี และสำคัญกว่าเรื่องที่ผู้สื่อข่าวกำลังจะถาม
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะถามถึงการเข้าไปชี้แจงกับ กกต. นายไชยชนก กล่าวว่า ทุกคนก็รู้ว่าตนไม่ชอบให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ไม่ใช่ว่าตนกลัวผู้สื่อข่าว หรือสัมภาษณ์ไม่ได้ แต่เป็นเพราะผู้สื่อข่าวชอบบิดเบือน เพราะฉะนั้นขอให้ทำข้อตกลงกัน หากตนตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังจากนี้ขอให้ช่วยสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน 2 เรื่อง
เมื่อถามย้ำว่า จะไปชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ นายไชยชนก ระบุว่าตนได้รับหมายเรียกจาก กกต. แล้ว ซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อรับให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ครูใหญ่ด้วย ส่วนการชี้แจงนั้น ตนจะไปด้วยตัวเอง และขอให้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ส่วนข้อกล่าวหาที่มีการระบุในหนังสือนั้น ขอให้ฝ่ายกฎหมาย เป็นผู้ที่ชี้แจง แต่เท่าที่ตนดูทุกคนที่ถูกกล่าวหา เหมือนกับเป็นการก๊อปปี้กันมา ไม่ค่อยเจาะจงเป็นไปตาม คำกล่าวหาปกติของคดีสักเท่าไหร่ เจตนาค่อนข้างชัดเจน ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีเส้นเงินไปเชื่อมโยงถึง 400 ล้าน ตนชี้แจงบัญชีทรัพย์สินยังไม่ถึงเลย ขณะเดียวกันช่วงที่มีการเลือกตั้งสว. ตนก็ไม่ได้อยู่ในไทยด้วยซ้ำ ขณะนั้นเดินทางไปต่างประเทศกับคณะกรรมาธิการเพื่อดูงานเรื่องระบบเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นมีความไม่จริงเยอะ แต่ตนนั้นอยากให้เป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถูกเมื่อถามถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกกต.ออกหมายเรียกเข้าไปชี้แจงเช่นกัน นายไชยชนก กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องคุยเลย ตนไม่มีส่วนร่วมแน่ๆ ที่ส่งผลให้การเลือกตั้ง สว. ออกมาเป็นแบบนั้น พร้อมตั้งคำถามว่า เราอยู่ในสังคมแบบไหน ทุกวันนี้พวกผมทำเต็มที่สุดความสามารถ และมั่นใจในกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคได้ประกาศไปแล้วว่า อย่าให้มีใครมายุ่งกับการเลือกตั้ง สว. ซึ่งตนเองก็มีส่วนสำคัญในการทำประกาศฉบับดังกล่าวออกมา
นายไชยชนก ยืนยันด้วยว่า เป็นคนที่ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย ตนเคยใช้สิทธิพิเศษเพียงครั้งเดียว คือตอนไปเป็นทหาร ขอไปอยู่ชายแดน 6 เดือน และตอนที่ผมบวชเกือบจะไม่สึกเลย และวันนี้ตนก็ทำทุกอย่างที่ผมทำได้ ให้กับประชาชน แม้สถานการณ์ที่โดนบิดเบือน โดนโจมตี แม้สถานการณ์บ้านเราตอนนี้วิกฤต เศรษฐกิจก็จะแย่ลง เพราะสถานการณ์โลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติ สงครามทั่วโลก ประชาชนจะได้รับผลกระทบ วันนี้มีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า ที่เราทุกคนควรจะช่วยกัน นำเสนอ
“ผมขอพูดนะ ก่อนอื่นขอขอบคุณพี่ๆ แม้ที่ผ่านมาจะบิดเบือน งั้นขอพูดนะ อันนี้อย่าโกรธผมนะ ที่ผ่านมาถึงแม้จะบิดเบือนข้อมูลที่ผมสื่อสารเยอะ แต่ผมเห็นทุกสำนักข่าว ตั้งแต่ผมอภิปราย นำเสนอเรื่องของภัยธรรมชาติมากขึ้น สื่อสารเรื่องของสถานการณ์โลกมากขึ้น ทั้งเรื่องของสงครามและเรื่องอื่นๆ อันนั้นไม่ว่าจะรักผมเกลียดผม หรืออยากจะสร้างประเด็นอะไร แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ ทำให้เขาได้ตื่นตัว สิ่งหนึ่งที่ตนอยากจะฝากถึง พี่ๆนักข่าว ผมรู้สึกว่า ไม่รู้ว่าพวกพี่รู้ตัวหรือเปล่า ผมว่าสื่อมวลชน มีส่วนสำคัญ ในการกำหนดทิศทางของประเทศ สำคัญไม่น้อยกว่ารัฐบาล สิ่งที่พี่ๆสื่อสารไป ไม่ใช่แค่เพียงเยาวชน แต่คนในทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีสติปัญญา แต่เขาไม่มีเวลาที่จะต้องหาข้อมูลให้ครบรอบด้าน หากพี่สื่อสารในสิ่งที่ยุแยง สร้างความแตกแยก สังคมเราก็จะไปในทิศทางนั้น และวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องเผชิญ ต้องสามัคคีกัน ไม่งั้นหนัก อยากจะฝากแค่นี้แหละครับขอช่วยกันหน่อยนะจ๊ะ ผมจะทำให้เต็มที่” นายไชยชนกกล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย