“อนุทิน” มั่นใจพูดได้เต็มปาก “มหาดไทย” ยังอยู่ในมือ

ทำเนียบ 16 มิ.ย.-“อนุทิน” รับคิดเต็มหัว ก่อนพบ นายกฯ บนตึกไทย จะคุยปรับ ครม. เผยแค่สั่งงานข้ามปี มั่นใจพูดได้เต็มปาก “มหาดไทย” ยังอยู่ในมือ เชื่อคดีฮั้ว สว. ไม่ทำให้สะดุด เหตุไม่ได้ทำ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า นานกว่า 1 ชั่วโมง ว่า เป็นการพูดคุยเรื่องงาน โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการแก้ปัญหายาเสพติด ให้มีความเข้มข้นมากกว่านี้ ตนจึงได้เรียนไปว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องมุ่งเน้นไปที่หมู่บ้านสีขาว จากนี้ไปกระทรวงมหาดไทยจะมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เพราะถือเป็นบัญชานายกรัฐมนตรี


ผู้สื่อข่าวถามว่าการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทิน รีบตอบทันทีว่า ไม่มีเลย

เมื่อถามต่อ เป็นสัญญาณว่าจะได้ดูกระทรวงมหาดไทยต่อใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะเป็นเช่นนั้น ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี


เมื่อถามว่าส่วนตัวมีความกังวลเรื่องเก้าอี้มหาดไทยอยู่หรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับว่า ตนเคยเคยแสดงความกังวลด้วยหรือ

เมื่อถามต่อว่าได้ย้ำกับนายกรัฐมนตรีไปหรือไม่ว่าเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยต้องเป็นของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่าไม่ได้ย้ำเพราะไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับ ครม. คุยแต่เรื่องงาน นายกฯ น่าจะให้สัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้

ส่วนคดีฮั้วเลือก สว. ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าได้เรียนนายกฯ ว่า เรื่องนี้คงมีความพยายามจากผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการให้มีแผลแต่ก็ไม่เป็นไรทุกคนก็ต้องไปแก้ คนที่ไม่ได้ทำผิดหรือทำสิ่งผิดกฎหมาย ก็ต้องแก้ตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่


เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีว่าอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯส่ายหัว ซึ่งตนได้เล่าให้นายกรัฐมนตรีฟังถึงที่มาที่ไปเป็นอย่างไร

เมื่อถามย้ำถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้แจ้งความชัดเจนใช่หรือไม่ รวมถึงกรณีกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะขอกระทรวงมหาดไทยคืน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้พูด และนายทักษิณ ก็ออกตัวแล้วว่าพูดในฐานะอะไร ซึ่งนายทักษิณ พูดในสถานะส่วนตัวและนักวิเคราะห์ข่าว แต่คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบรัฐบาลคือนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้มั่นใจว่าจะยังได้ดูกระทรวงมหาดไทยต่อ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่าทีการสนทนา และวันนี้คิดว่านายกฯ จะพูดเรื่องนี้แต่สุดท้ายนายกฯ ก็ไม่ได้พูด นายกฯ เรียกไปพบตนก็ไปพบเพื่อพรีเซนต์งาน ถามอะไรมาก็ตอบทุกเรื่อง แต่ไม่ได้ถามเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าในขณะที่เดินขึ้นไปพบนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้าในหัวคิดแต่เรื่องการปรับ ครม.ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เต็มหัวเลย”

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ไม่พูดเหตุใดจึงไม่ถามเพื่อความชัดเจน นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ยังสั่งงานข้ามปีอยู่

ส่วนจะมีการนัดคุยนอกรอบหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรเพราะนายกฯ ก็สั่งงานปกติอยู่แล้ว หากมีอะไรด่วนนายกฯ ก็โทรเอง หากไม่ด่วนก็ให้เลขาฯโทร

เมื่อถามว่าปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีวิปเพื่อเคลียร์ปัญหากันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่มีปัญหาก็เคลียร์ใจกันไป ตนไม่ได้มีปัญหากับใคร

ส่วนพรรคภูมิใจไทยการปรับเก้าอี้ในโควตาของพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยนิ่งมาตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว ส่วนที่มีปัญหาจะเป็นพรรคเล็ก

เมื่อย้ำว่านายกฯ ได้บอกหรือไม่ว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้นายกฯไม่ได้พูดเลยเรื่องการปรับ ครม. พร้อมกล่าวได้ว่า ก่อนที่จะลงจากตึกไทยคู่ฟ้านายกยังบอกอีกว่าเรื่องการปรับ ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยกันนะ เพราะมีคนไปรายงานนายฯ กว่ามีนักข่าวรอ “ผมเลยหนาวเลยตอนเดินลงมา”

ส่วนบรรยากาศภายในพรรคร่วมรัฐบาลยังดีอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าผู้บังคับบัญชาสายงานคือนายกรัฐมนตรีตราบใดที่นายกฯ กับตนไม่มีปัญหาอะไรในการทำงาน ตนก็ไม่กังวล ส่วนกระทรวงอื่นขอสนับสนุน ความร่วมมือมาที่ตน ถ้าสั่งวันนี้เสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ตนตอบสนองหมด

เมื่อถามว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยยังเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ยังไม่เห็นมี สมัยไหนหรือสภาชุดไหนก็เป็นแบบนี้แสบๆ คันๆ

ส่วนเวลานี้สามารถพูดได้เต็มปากเลยได้หรือไม่ว่ากระทรวงมหาดไทยเป็นของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า “ ก็พูดได้นะ”

ส่วนคดีฮั้วเลือก สว. จะกระทบต่อบรรยากาศทำงานร่วมกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าเมื่อมีหมายออกมา เป็นหมายแจ้งข้อกล่าวหา ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาใครจะกล่าวหาอย่างไรก็ได้ อย่างตนโดนข้อกล่าวหามีเจตนาล้มล้างระบอบประชาธิปไตยซึ่งตนเป็น สส. มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แก้ขัดแย้งกันเอง ก็ไปแก้ต่างข้อกล่าวหา ขณะที่คดีฮั้ว สว. มีเส้นทางสนับสนุน ตนรู้จัก สว. ไม่เกินห้าคนคนที่สนิทที่สุดก็คือรองประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. รวมถึงนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เพื่อร่วมรุ่น วปต. นายมงคล สุระสัจจะ ที่มีบ้านอยู่บุรีรัมย์ เป็นอธิบดีกรมการปกครองสมัยพ่อตนเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยตนก็รู้จักอยู่แค่นี้ แต่ในข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือฮั้ว การแก้ต่างก็ต้องพูดความจริง

เมื่อถามว่ามั่นใจจะสะดุดการเมืองเพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ร้องโอ้ยจะสะดุดได้อย่างไร ไม่ได้ถามเรื่องนี้ ไม่ได้ทำ พร้อมกับทิ้งท้ายว่าวันนี้เต็มจอ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]