“อนุทิน” ประกาศเชื่อมั่น​-​เชื่อใจ​นายกฯ

อุดรธานี 15 มิ.ย.-“อนุทิน” ประกาศเชื่อมั่น​-​เชื่อใจ​ นายกฯ แพทองธาร มั่นใจไม่ชิงยุบสภา​สร้างความได้เปรียบการเมือง​ วอนอย่ามองปรับ ครม.เป็นคณิตศาสตร์​ ขอยึดโยงประชาชน อย่าเอาคนใดคนหนึ่งเป็นที่ตั้ง​ เผย​หลังประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ยังคุยนายกฯ ปกติ ไม่มีเรื่องตำแหน่ง พร้อมปัดข่าวกินข้าว “ทักษิณ”

นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ที่มีนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ลงพื้นที่ด้วยนั้น และมีการประกาศบนเวทีตอนหนึ่งว่ามีความสนิทสนมกัน ว่า​ นี่คือการเมืองยุคใหม่ เราจะมาบอกว่าคนที่ ไม่ใช่พรรคเดียวกันเราไม่สนใจไม่ได้ เพราะเราเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ต้องให้ความสนใจกับเสียงของประชาชนทุกคน สส.คนไหนที่นำความต้องการของประชาชนมาแจ้ง ก็พร้อมที่จะลงพื้นที่กับทุกคน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาให้ เพราะเป็นงบประมาณของหลวง ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดนี่คือการทำงานของตน


เมื่อถามว่าจากนี้จะมี สส.จากพรรคอื่นมาร่วมงานเพิ่มอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าขออย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้น เพราะการเลือกตั้งอย่างไม่เกิดขึ้น เพราะถ้ารัฐบาลนี้อยู่ครบเทอม ก็ไปถึงปี 70 โน้น​ มีเวลาเหลือเฟือในการตัดสินใจ พี่จะร่วมงานทางการเมืองกัน หรือถ้ามีเหตุยุบสภาก่อน ก็ยังมีเวลา 30 วันที่ สส.จะคิดย้ายสังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง​ ดูแล้วยังไม่เห็นรัฐบาลไหนที่ปล่อยให้มีการ หมดอายุของสภา โดยที่ไม่ได้ยุบสภาก่อน เพราะการขับเคลื่อนใดๆอาจจะติดอุปสรรค ต้องใช้เวลา 90 วันเป็นอย่างต่ำ​ ส่วนใหญ่นายกรัฐมนตรีจะเลือกการยุบสภาก่อน จะสั้นหรือจะยาว หรือจะอยู่หมดจนหมดสมัยก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่าน

ส่วนมองว่านายกรัฐมนตรี จะชิงยุบสภาก่อน เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เขาก็ไปจนครบจนถึงเดือนหรือ​สองเดือน สุดท้ายก่อนหมดสมัยก็ยุบสภา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็ถือว่านั่นครบแล้ว เพียงแต่การดำเนินการทั้งหลายจะมีความคล่องตัวและสะดวกขึ้น


ส่วนคณิตศาสตร์ทางการเมือง​ หากดูจากตัวเลขสส.ในมือ หลังประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หากหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ การเมือง หรือการฟอร์มรัฐบาล อย่าไปมองเป็นคณิตศาสตร์ เพราะประชาชนเขาไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์ด้วย เขาต้องการว่าใครทำประโยชน์ ให้กับประชาชนได้มากที่สุด การเมืองเป็นเรื่องของการเมือง ตนไม่ได้คำนึงถึงว่าใครจะมีคณิตศาสตร์​ ตนไม่ได้ไปคำนึงถึงว่าใครจะไปมีคณิตศาสตร์​ บวก​ ลบคูณ​ หารเท่าไหร่ แต่ขึ้นอยู่กับทำงานให้กับประชาชนได้เท่าไหร่ ทำงานการทำงานอยู่ร่วมกันก็ต้องจริงใจ ความเข้าใจ มีเจตนารมณ์​ร่วมกัน​ ที่จะทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง​ รับใช้แผ่นดินรับใช้ประชาชน ถ้าเรารวมกันได้เราเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าเอาใครคนใดคนหนึ่งเป็นที่ตั้ง

เมื่อถามต่อว่าหลังจากที่แสดงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยที่พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ได้พูดคุยกับนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า คุยเรื่องงานอย่างเดียว เมื่อวานก็ยังไลน์รายงานสถานการณ์​ต่างๆให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ แต่ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า นายอนุทินได้ไปร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี นายอนุทินถึงกับร้องฮะ ก่อนกล่าวยืนยันว่าเมื่อไหร่​ ไม่มี​ ตนรับประทานอาหารกับนายทักษิณ ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน


ส่วนที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค สส. และรัฐมนตรีของพรรคในเย็นวันพรุ่งนี้ นายอนุทิน​ ยืนยันว่า​ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เป็นวาระการประชุมปกติประจำสัปดาห์​ ขณะนี้ใกล้เปิดสมัยประชุมสภาและขณะนี้เราเป็นกรรมาธิการต้องมาหารือกัน​ที่จะปกป้องงบประมาณ​ ในส่วนที่กระทรวงทบวงกรมที่พรรคภูมิใจไทย ดูแลอยู่ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน

ส่วนจะมีการแจ้งท่าทีของพรรคในการร่วมรัฐบาลให้ สส.รับทราบหรือไม่ นายอนุทิน​ ยืนยันว่าไม่มี เพราะเรื่องสภาก็เป็นเรื่องของสภา การบริหารราชการแผ่นดินก็เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี จะได้ไม่ต้องเอาความกังวล ไปให้กับสส เขาจะได้ทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรรับใช้ประชาชน ให้เลือกเขามาอย่างเต็มที่

ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง การปรับคณะรัฐมนตรี ที่อยากให้ปรับกระทรวงกลาโหมมากที่สุด​ และกระทรวงมหาดไทยอยู่ในลำดับที่ 12 นายอนุทินกล่าวว่า​ โพล มหาวิทยาลัยมหิดล โชคดีของตนอยู่ท้ายหน่อย โพลแบบนี้อยากอยู่ท้ายๆไม่อยากอยู่ 1 ใน 5 ก็ดีที่กระทรวงของพรรคภูมิใจไทย ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ ให้คะแนน กับการทำงานของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้กรุณาให้ตนอยู่ในลำดับท้ายๆ เท่ากับแสดงให้เห็นว่าพวกเราทำงาน

เมื่อถามต่อว่า สวนทางกับการทำงานทางการเมืองหรือไม่ พรรคภูมิใจไทยถูกขย่มเรื่อง ของเก้าอี้กระทรวง​มหาดไทย​ นายอนุทิน​ เชื่อว่า เสียงของประชาชนศักดิ์​สิทธิ์ และถูกต้องมากกว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใดๆทางการเมือง เพราะตรงนั้นเราไม่รู้ว่ามีอคติ หรือมีความโน้มเอียงใดๆบ้าง เราต้องฟังเสียงจากประชาชน ถึงบอกว่าต้องฝากผู้สื่อข่าวไปกราบ ขอบคุณประชาชนจากโพลมหิดล​ เพราะอย่างน้อยเป็นขวัญและกำลังใจของคนทำงาน

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ทำตามโจทย์ของประเทศแก้ไขปัญหาชายแดน​ก่อน แต่ตอนนี้กลับมุ่งไปที่การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก​ นายอนุทิน​ เชื่อว่า​ ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ก็เอาประชาชนเป็นที่ตั้งเหมือนกันอยู่แล้ว​ คนก็พูดแต่เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ไม่เคยเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว ยังไม่เคยหารือ ผู้สื่อข่าวก็ถามว่า เดี๋ยวก็จะปรับแล้ว แต่ตนก็ยังหารือกับนายกฯเมื่อวาน ท่านก็ยังสั่งงาน อวยพรให้เดินทางปลอดภัย แล้วช่วงนี้นายกรัฐมนตรีก็เดินทางเยอะ มท. 1 ก็เดินทางเยอะ ก็ให้กำลังใจในการทำงานของกันและกัน​

เมื่อถามว่ายังเชื่อมั่นและเชื่อใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร​ อยู่หรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ เชื่อมั่นและเชื่อใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร​ เสมอ

ส่วนผลสำรวจประชาชน ที่ระบุว่าเชื่อมั่นกองทัพในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา มากกว่ารัฐบาล จะเป็นการสะท้อนภาวะผู้นำหรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ เราต้องมองทุกอย่างให้เป็นบวก​หมด​ วันนี้อย่าไปมองอะไร เพื่อให้มันแตกแยก ถ้าเป็นเรื่องการป้องกันอริราชศัตรู การรักษาธิปไตยของบ้านเมือง ตอนนี้เรามีกองทัพ แต่กองทัพทำตามนโยบายของรัฐบาลถูกไหม​ ซึ่งนโยบายรัฐบาลผ่านสมช.​ และในเรื่องการบริหารราชการชายแดนขอให้เป็นการตัดสินใจของกองทัพ ก็มอบไปที่แม่ทัพภาคที่ 2 ทุกอย่างมีการมอบเป็นทอดๆ สิ่งที่เราควรจะต้องทำก็คือ การสนับสนุนผู้ปฏิบัติงาน ทุกรูปแบบอย่างเต็ม กำลัง เรื่องในชายแดน เป็นเรื่องของทหารและกองทัพ รัฐบาลก็สนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายปกครอง ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย ให้การสนับสนุน ระวังหลังให้ มหาดไทยเป็นบ้านทหารเป็นรั้ว ตามสโลแกนของนายกรัฐมนตรี เราต้องทำบ้านให้เรียบร้อยเพื่อที่รั้วของเราจะได้มีความปลอดภัย

ส่วนที่ทางกัมพูชาหันปลายกระบอกปืนมายังฝั่งไทย ในฐานะที่การกระทรวงมหาดไทยจะช่วยสนับสนุนงานอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่าทหารเขามีวิธีการ ที่จะป้องกันอันตรายอยู่แล้ว​ ตนคิดว่าคนที่ไม่มีหน้าที่ในเรื่องนี้อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ หรือให้ความเห็นใดๆ ทหารมีแผนเผชิญเหตุรองรับ​ แผนการปะทะแผนการรุกทุกรูปแบบอยู่แล้ว ต้องเชื่อมั่นในแสงยานุภาพของกองทัพ และตนเชื่อมั่น พร้อมขออย่าไปเพิ่มปัญหาใดๆ ให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น และต้องให้การสนับสนุน ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด และเกิดความปลอดภัยสูงสุด.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย