วอร์มเครื่องเลือกตั้ง “อนุทิน” แนะนำขุนพลการเมืองอีสาน ภท.

อุบลฯ 13 มิ.ย. – “อนุทิน” วอร์มเครื่องเลือกตั้ง แนะนำขุนพลการเมืองอีสาน ภูมิใจไทย หลังประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน​ หากหลุดเก้าอี้มท.​1 ร่วมครึ่งชั่วโมง​ ขณะตรวจความพร้อมมือแม่น้ำมูลท่วม​ อ้อนเรียก​ ไอ้หนู​ ใช้งาน​สั่งให้คลานก็ยอม​​ ลั่น​ อธิปไตย​ คำศักดิ์สิทธิ์ของข้าราชการ​ -​ ทหาร ยกย่องเทิดทูน ล่วงล้ำไม่ได้​


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวงมหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สส.อุบลราชธานี ทั้ง 3 เขต ของพรรค คือ นายสุทธิชัย จรูญเนตร น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช ร่วมลงพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ติดตามความพร้อมของหน่วยงานราชการ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน หากเกิดกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล

โดยนายอนุทิน กล่าวทักทายประชาชนว่า วันนี้ตนไม่ได้ให้ท่านมาต้อนรับอย่างเดียว​ เราเอาของดีๆ​ เอาสิ่งดีๆ เอาความห่วงใยมามอบให้กับชาวพิบูลมังสาหาร​ และชาวอุบลราชธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าได้เดินสายมาเรื่อยๆ​ และวันนี้มาเน้นเรื่องของการเตรียมความพร้อมทางราชการที่จะช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชน จากกรณีหากมีเหตุการณ์อุทกภัยหรือภัยพิบัติต่างๆ ตลอดจนมาเยี่ยมเยียน ให้ขวัญกำลังใจ และมอบความพร้อมที่จะเคียงข้างกับประชาชนชาวอุบลราชธานี​ ศรีสะเกษ สุรินทร์ยโสธร บุรีรัมย์ ที่มีดินแดนติดกับประเทศกัมพูชา​ เนื่องจากช่วงนี้เรามีปัญหานิดหน่อย แต่เราพร้อมที่จะมายืนหยัดอยู่เคียงข้างและให้ความมั่นใจว่า ที่จะดูแลความปลอดภัย ดูแลคุณภาพชีวิต​ ขวัญและกำลังใจของทุกคนอย่างสุดความสามารถ


ก่อนที่นายอนุทิน​ จะแนะนำทีมงานที่มาด้วย​ ว่า รู้ว่ามาอุบลราชธานีมาแล้วจะต้องมีความสุขแน่นอน​ ที่จะได้พบกับประชาชน​ เจอกับรอยยิ้ม ส่วนที่ว่าจะมาให้ขวัญและกำลังใจไปๆมาๆได้ขวัญและกำลังใจจากประชาชนแทน​ และกลับบ้านไปมีความสุข​ มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานให้กับประชาชนของเรา

นายอนุทิน​ แนะนำ​ นางสาวซาบีดา​ ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ พวกเรามาอยู่ตรงนี้​ ห้ามเรียกว่าท่านรัฐมนตรี​ ให้เรียกว่า​ ดีดามานี่ หรือไอ้หนูมานี่ เราไม่มีตำแหน่งแห่งหน​ ท่านต้องดึงขาของพวกตนไว้ด้วย เรียกรัฐมนตรีบ่อยๆ​ไม่ได้คนเราก็มีลอยเหมือนกันแหละ แต่ว่าพวกตนเมื่อ 2 ปีกว่าๆมายกมือไว​แทบทุกบ้าน​ มาขอเสียง​ ขอกำลังใจให้กับสส.แนน ตอนนั้นมาชาวบ้านบอกให้คลานเข้าบ้าน​ ตนยังคลานเลย​ เพื่อที่จะให้เลือกสส.แนน ประชาชนก็ให้กำลังใจเลือกสส.แนนมาเป็นสส.คุณภาพของพรรค​ได้ทำงาน พร้อมชื่นชมกับนายอิสระ​ สมชัยพ่อของแนน บอกว่าเชื่อหรือไม่​ ตนนั่งอยู่ในสภา​ ต้องกวาดสายตาหาสส.แนน โทรหาสส.แนนก่อน​ เพราะมั่นใจในความปลอดภัยในสภาเพราะว่าแนนเป็นสส.ประเภทเปิดปุ๊บติดปั๊บ สั่งอะไรปุ๊บปั๊บ​ สั่งให้ไปเขกหัว​ มันยิงเลยทันที แต่เวลาตนถามอยากได้รางวัลพิเศษอะไร​ เขาขอเขื่อน​ ขอเบี้ย​ ขอไฟ​ ขอน้ำ​ ไม่เคยขอนาฬิกา​ กระเป๋าหรือตังค์เลย ในหัวขอว่าจะคิดอะไรให้กับประชาชน​ ที่เลือกเขามาเป็นสส. แต่จะตบมือให้แนนอย่างเดียวไม่พอ​ แต่ต้องปรบมือให้กับผู้ให้กำเนิดเขาด้วยนั่นคือนายอิสระ สมชัย บุคคลที่เป็นปูชนียบุคคล ที่เราเรียกว่าดูนางให้ดูแม่​ แต่แนนไม่รู้ดูนางหรือดูนาย​ ขอให้ดูพ่อแม่เลยแล้วกัน​ ได้มาหมดความอ่อนน้อมถ่อมตน​ ความสุภาพความอ่อนช้อย​ ความเข้มแข็ง มาจากเลือดของพ่อของแม่

ก่อนที่นายอนุทิน​ จะกลับมาที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ว่ารู้หรือไม่ว่าคนนี่ลูกใคร​ ลูกนายชาดา​ ไทยเศรษฐ์​ สร้างกระแสให้กับพรรคภูมิใจไทยมโหฬาร


นายอนุทิน​ ยังกล่าวแนะนำนายไชยชนก​ ชิดชอบ​ เลขาธิการ​พรรค​ภูมิใจ​ไทย​ เขาเป็นหลานแต่เหมือนลูกในไส้​ แต่มันทำตัวเป็นพ่อผมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรียกเสียงปรบมือให้กับประชาชนที่มารอต้อนรับ​ ทำให้นายอนุทิน​ ถึงกับกล่าวว่า​ กลับบ้านดีกว่า ขึ้นมาพูด 10 นาทีไม่มีเสียงเชียร์ บางคนหลับไปแล้ว​ ให้กำลังใจหน่อยได้หรือไม่ ซึ่งเรียกเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากประชาชน ก่อนกล่าวต่อว่า​ เป็นสส.คุณภาพของบุรีรัมย์ สมัยก่อนคนพวกนี้ต้องปรับตัวเข้าหาพวกตน แต่เดี๋ยวนี้ตนต้องปรับตัวเข้าหาพวกเขา ไม่เช่นนั้นอยู่ไม่ได้ เวลาพูดอะไร ก็จะถูกเบรค​ และแย้งด้วยข้อมูล​ ข้อเท็จจริง​ ว่าเป็นอย่างไร จะเอาความเก๋าไปคุยกับเขาไม่ได้​ นี่คือประโยชน์ของประชาชนที่มีพรรคการเมืองมีสส.ที่เป็นคนรุ่นใหม่ และรับฟังกันตลอดเวลาทำให้เรามีทั้งคนที่มีประสบการณ์และเก๋าเกม มีความรู้ความสามารถ​ มีอุดมการณ์ไม่กลัวใครอยู่ในพรรคการเมืองคือพรรคภูมิใจไทยที่ประชาชนให้ความไว้วางใจเรื่อยมา

นายอนุทิน​ กล่าวว่า เราได้รับการประสานงานเครือข่ายของอุบลราชธานีรับฟังความต้องการของประชาชนมาเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงมาแล้ว 7 พันกว่าล้าน เพื่อทำให้เกิดความสะดวกและการป้องกันภัยต่างๆให้กับประชาชน วันนี้ตนมาดูความคืบหน้าเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ที่จะทำให้พื้นที่ชุมชนเขตเมืองปลอดภัยจากมวลน้ำที่จะไหลเอ่อ​ กระทรวงมหาดไทยจัดให้ได้หมดแต่สิ่งที่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน​ ช่วงนี้โดยเฉพาะช่วงนี้ต้องอย่าให้มีสิ่งปฏิกูลหรืออะไรก็ตามมาขวางทางน้ำ เพราะอย่างน้อยจะทำให้ความเสียหายบรรเทาลงไป​ก่อนกล่าวติดตลกว่า ร้องเพลงเยอะๆเอาความข่มขืน​ ไปทิ้งแม่โขง​

นายอนุทิน​ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีความตึงเครียดอยู่ที่ชายแดนพวกเราอยู่ตรงนี้อย่าไปเครียด ในเรื่องส่วนตัวให้มันเปลืองพื้นที่สมอง ไม่มีทางที่ ทหาร​ ตำรวจ​ อส.​ ผู้ว่าราชการจังหวัด จะให้มีอันตรายจากความขัดแย้งของ 2 ประเทศ​ มา​รบกวนประชาชนชาวพิบูลมังสาหารได้เป็นอันขาด ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือห้ามอย่าเครียด อย่ากังวล​ แต่เราต้องส่งกำลังใจไปแนวหน้าให้กับประชาชนที่อยู่แถวอำเภอน้ำยืน และอำเภอน้ำขุ่น และทหารหาญ ที่อยู่แนวหน้า ใครมีกำลังความสามารถส่งอาหารไปบ้างแต่เฉพาะคนที่มีกำลังถ้าไม่มีกำลังไม่ต้องส่งส่งใจไปพอแล้ว แต่สิ่งที่ตนให้ความมั่นใจกับประชาชนชาวพิบูลได้ คือไม่มีทางที่เราจะยอมให้ฝั่งตรงข้ามฝ่ายตรงข้ามเรา ลูกล้ำเข้ามาในประเทศเราได้ แม้แต่เซ็นเดียว

นายอนุทิน​ ยังกล่าวอีกว่า เรามีทีมเจ้าหน้าที่ทหาร​ ตำรวจ​ เรามีฝ่ายปกครอง​ คอยยันเอาไว้ ไม่มีการข่าว​ ไม่มีสิ่งบอกเหตุใดๆ ที่เราจะต้องกังวล​ ว่าจะมีการรุกล้ำอธิปไตย​ ของเราเข้ามา คำว่าอธิปไตยของข้าราชการไทย ของฝ่ายทหารและข้าราชการพลเรือนไทย เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์มาก​ เป็นคำที่ยกย่องเทิดทูน จะไม่มีการล่วงล้ำเข้ามาอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า​ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ขอให้ใช้ชีวิตตามปกติ​ ต้องปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่าแอบเข้าไปดูคูเลต
ช่วงนี้ต้องเคารพและฟังคำเตือน และนายกรัฐมนตรี บอกแล้วว่า ทหารเป็นรั้ว มหาดไทยเป็นบ้าน นี่คือข้อสำคัญของนายกรัฐมนตรี รอบชายแดนทหารดูแลให้เต็มที่ ในบ้านมหาดไทยจะต้องรับผิดชอบ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่เหมือนกัน ประชาชนจะได้รับการดูแลตั้งแต่รั้วยันบ้าน เมื่อท่านอยู่ในบ้าน จะต้องปลอดภัย 100% เมื่อตนมาอยู่ตรงนี้บรรยากาศเหมือนการหาเสียงเลือกตั้งเพราะเราได้เจอกับประชาชน เมื่อเช้าได้พูดเรื่องวิชาการ พูดกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องการรับมือสถานการณ์การเตือนภัยต่างๆ มั่นใจว่าคงจะมาถ่ายทอดให้กับประชาชนและนำไปปฏิบัติ เราทีมมี อส. อพปร และ ชรบ. คอยดูแลอยู่ มีที่พักพิงให้ และตนกับปลัดกระทรวงมหาดไทยจะไปนอนก่อน ถ้านอนได้ประชาชนก็นอนได้ ถ้านอนไม่ได้ต้องมีการยกระดับ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะต้องอยู่บ้านให้ได้มากที่สุด เพราะการบกพร่องจะทำให้เกิดแรงต่อต้านและเกิดความไม่ร่วมมือ​ วัดกันตรงนี้ ขอให้ประชาชนไว้วางใจความปลอดภัยทั้งหลายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน​

นายอนุทิน​ ยัง ฝากสส.อุบลราช​ธานีทั้งสามคนไว้​ และขอเพิ่มด้วยถ้าเป็นไปได้ เพราะคนเหล่านี้อยู่ในวัยทำงาน ทำงานให้กับพวกท่านได้ สส. ภูมิใจไทยของตนนั้นได้รับการปลูกฝังว่า เป็นสส.ประเทศไทย ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนคนเหล่านี้คือผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเป็นหัวหน้าคนใช้ ถ้ารับใช้พี่น้องประชาชนถือว่าได้รับเกียรติในการรับตำแหน่งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจที่พูดนั้นทำจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายอนุทินเดินทักทายประชาชน ที่มีประชาชนมาห้อมล้อมขอถ่ายรูปและขอสวมกอด ทำให้ผู้สื่อข่าวกล่าวแซวว่า บรรยากาศเหมือนเลือกตั้ง นายอนุทิน ทั้งยิ้มและหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า เหมือนเลือกตั้ง ก่อนหันไปถามชาวบ้านที่มาสวมกอดว่า ได้เลือก น.ส. แนน บุณย์ธิดา สมชัย หรือเปล่า ก่อนจะนำมือไปลูบที่ศรีษะของ สส.แนน ชาวบ้านจึงตอบกลับมาว่า เลือกแนน เพราะแนนเป็นลูกหลาน รักจริงค่ะ ทำจริง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย