นายกฯ เปิดโครงการ “พลังสตรี เพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต”

เมืองทองธานี 12 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เปิดโครงการ “พลังสตรี เพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สานต่องาน “อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์” เปิดโอกาสหญิงไทยโชว์ศักยภาพ ยอมรับทุกวันนี้ยังถูกเหยียดเพศ แต่ต้องใช้เวลาปรับจูนทัศนคติ ยืนยัน รัฐบาลยังสนับสนุนกองทุน ด้าน “อนุทิน” เล่นมุกสตรียิ่งใหญ่เพียงใด ขนาด รมต.กลาโหม ยังต้องยกมือ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชั้น 1 อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาเปิดงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีผู้หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนี้เกิดขึ้นจากนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ก็คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้หญิงไทยมีศักยภาพที่สูงมาก หากได้รับโอกาส ศักยภาพเหล่านั้นจะถูกแสดงออกมา และตนเองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลูกสาว เป็นน้องสาว และเป็นคุณแม่ แน่นอนว่า ในบทบาทต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองบางทีต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย และการเข้ามาทำงานในภาคเอกชนจนมาถึงภาครัฐก็มีความยากง่ายที่แตกต่างกัน และการเลี้ยงลูกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งการเป็นผู้หญิงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกันที่จะทำอย่างไรให้นักการเมืองที่เป็นผู้หญิงจะถูกยอมรับในความคิดเห็นต่อทั่วโลก หรือต่อคนในประเทศ เพราะคำพูดที่เหยียดเพศก็ยังคงอยู่ ไม่ใช่แค่ในประเทศแต่ยังไปถึงทั่วโลกเช่นกัน โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการปรับจูนความคิดว่า จริง ๆ แล้วทุกเพศที่เลือกที่จะเป็นควรได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียมกันได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมา กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้เปลี่ยนชีวิตผู้หญิงมากมายทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ต้องไปธรรมดา ต้องมีศักยภาพที่เด่นชัด และสามารถหาทางของตัวเองได้ พิสูจน์ตัวเองได้ว่า สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง และคนรอบข้างได้จริง ๆ นี่คือสิ่งสำคัญ ซึ่งเราสามารถช่วยเหลือสนับสนุนตัวเองนำความคิดมาเปลี่ยนโครงการมาเปลี่ยนเป็นเงินลงทุน และสร้างธุรกิจเติบโตจากศูนย์จนมาถึงทุกวันนี้ได้ แต่ทุกคนก็อย่าลืมหยุดพัก และชื่นชมตัวเองด้วย

อย่างไรก็ตามตัวเอง ขอส่งความชื่นชม และส่งกำลังใจจากทุกคนว่าการ มาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย และแน่นอนว่า กองทุนดังกล่าวจะต้องถูกสนับสนุนต่อไป เพื่อให้น้องน้องที่เข้ามาประกวดได้มีโอกาสสร้างอาชีพตัวเองชอบ และเติมโอกาสเติมความฝันให้เป็นความจริงได้นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจะทำให้เกิดขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวมีความพยายามที่จะยุบ แต่ด้วยพลังของทุกคนทำให้กองทุนดังกล่าวยังคงอยู่ และมีบทบาทสำคัญ

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันขณะนี้รัฐบาลได้สนับสนุนกองทุนนี้อย่างต่อเนื่อง โดยให้มีระบบดิจิทัลให้มากขึ้น เพราะโลกของเราเปลี่ยนแปลงทุกวันแน่นอนว่าการใช้ Ai หรือ ดิจิทัลต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ และเราต้องช่วยกันพัฒนาทุกอย่างให้เข้ากับระบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการง่ายต่อการสื่อสารง่าย ต่อการโฆษณาสินค้า ให้คนกลุ่มมากขึ้นได้รู้จักสินค้ามากขึ้น และต่อจากนี้โครงการนี้จะพัฒนาต่อ และได้พูดคุยกับทีมงานที่จะดูเรื่องของทุนเพิ่มมากขึ้นว่า กลุ่ม หรือโครงการที่จัดทำและ เกิดประโยชน์ต่อคนมากได้เยอะ ก็ต้องมีรางวัลพิเศษ ซึ่งจะขอแจ้งในรายละเอียดครั้งหนึ่ง


ที่สำคัญวันนี้ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เจ้าหน้าที่ที่พัฒนาชุมชนที่ทำงานเคียงข้างผู้หญิงทุกคน ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันให้กองทุนนี้อยู่ต่ออย่างแข็งแรงและขอยืนยันอีกครั้งว่า กองทุนนี้ไม่ใช่กลไกของรัฐเป็นพลังของประชาชนที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้อย่างจริง ซึ่งตัวเองเคยได้ยินคำพูดของชาวต่างชาติ ยาก When women support each other incredible things happened คือ ถ้าผู้หญิงสนับสนุนกันเองสิ่งต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้าทุกคนสนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็จะเป็นพลังซึ่งกันและกัน ผู้หญิงที่มีความมั่นใจไปสนับสนุนผู้หญิงอีกคนให้มีความมั่นใจให้มีความกล้าทำ กล้าทำตามความฝัน พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ เพิ่มโอกาสให้กับสังคม

ขณะที่นายอนุทิน กล่าวรายงานตอนหนึ่งบนเวทีว่า พลังสตรียิ่งใหญ่เพียงใด ตนจะขอยกตัวอย่างที่ตนได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้(11 มิ.ย.) ระหว่างอยู่บนเครื่องบินในการเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ นายกรัฐมนตรีได้ถามนายภูมิธรรม ว่า “ท่านคะ เวลาคนที่บ้าน ทำให้โกรธ ท่านทำยังไงคะ” ซึ่งนายภูมิธรรม ได้ยกมือขึ้นตอบนายกฯ ตนก็ตกใจ ว่านายภูมิธรรม จะกล้าทำร้ายผู้หญิงเลยหรือ แต่ท่านกลับยกมือทำท่าวันทยาหัตต่อ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เห็นไหมว่าขนาดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังขนาดไหน ท่านนายกฯ จึงหันมาถามตนว่า แล้วตนทำอย่างไร ตนจึงตอบว่าว่าท่านรัฐมนตรีกลาโหมยกมือเดียว แต่ตนยกสองมือเลยเวลาคนที่บ้านทำให้ตนเองโกรธ ซึ่งตนยกมือประกบกัน ยกมือไหว้ตอบ ทำให้เรียกเสียงหัวเราะ และเสียงปรบมือจากผู้ร่วมงานได้จำนวนมาก.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย