ภาคประชาชนหยุดพนัน ร้องทำประชามติ “เอา-ไม่เอากาสิโน”

กกต. 12 มิ.ย.-ภาคประชาชนหยุดพนัน จัดไรเดอร์ส่งด่วน 53,900 รายชื่อ เรียกร้องทำประชามติ “เอา-ไม่เอากาสิโน” อย่าใช้กลไกสภาเสียงข้างมากลากกาสิโน ฟังประชาชนด้วย

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมภาคีเครืองข่าย นำโดยนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมขบวนไรเดอร์นำรายชื่อประชาชน 53,900 รายชื่อ ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้เสนอต่อ ครม. เห็นชอบให้มีการจัดทำประชามติ เอา-ไม่เอากาสีโน ตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ


นายธนากร กล่าวว่า การออกเสียงของประชาชนมีการลงทุนลงแรง และความยากลำบากเสมอ กว่าเราจะได้ 53,900 รายชื่อใช้เวลานาน 120 วัน เราจึงอยากให้รัฐบาลช่วยฟังเสียงของประชาชนด้วย เพราะนี่คือเสียงของเจ้าของประเทศ และอยากจะวิงวอนต่อรัฐบาลว่าสังคมมีทางออก เราไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งหรือแตกแยก ในเมื่อสังคมและกฎหมายมีทางออก ดังนั้นการทำประชามติจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ดังนี้ 1.เรื่องนี้ รัฐบาลไม่ได้เสนอในนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ถ้ารัฐบาลยังดันทุรังทำเรื่องนี้ไป อาจจะถูกร้องเรียน ว่าผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งได้ ดังนั้นถ้ารัฐบาลยอมทำประชามติ แล้วถ้าทำออกมาแล้วเสียงเห็นชอบกับการมีกาสิโน นั่นเท่ากับว่ารัฐบาลมีฉันทามติจากเสียงประชาชน 2.ถ้ามีการทำประชามติจะเป็นผลดีทำให้ผู้ลงทุน เพราะถ้ารัฐบาลยังดึงดันทำเรื่องนี้ ออกกฏหมายไป ในสภาผู้แทนราษฎรกฎหมายฉบับนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับสังคม และเมื่อใดก็ตาม ที่มีการขยับขับเคลื่อนไปทำกาสิโนที่ไหน ประชาชนในพื้นที่นั้นมีโอกาสสูงมากที่จะลุกขึ้นมาต่อต้าน นั้นการทำประชามติจะเป็นผลดีของการยอมรับของประชาชน และกลุ่มผู้ลงทุนจะได้มั่นใจ และ 3.ทำประชามติจะเป็นผลดีแน่นอนต่อการลดความขัดแย้ง ประชาชนเพราะเมื่อประชาชนทั้งประเทศฉันถามมติร่วมกัน ที่เห็นต่างอย่างไรก็ต้องยอมรับ นั้นจึงอยากส่งเสียงวิงวอนไปถึงรัฐบาล ถ้าการทำประชามติจะมีผลดีกับทุกฝ่าย และจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก และไม่ทำให้เกิดความร้องของอุณหภูมิทางการเมืองในประเทศ

นายธนากร กล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนต่อจากนี้ตามกฏหมาย กกต. จะมีเวลาตรวจสอบความถูกต้องไม่เกิน 30 วัน ทั้งเอกสารและขั้นตอนการเข้าชื่อว่สตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ จากนั้น กกต. จะทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ ส่งเรื่องและรายชื่อทั้งหมดนี้ไปยัง สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทางสำนักงานเลขาธิการจะเป็นผู้นำเรื่องต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งตามกฏหมายกำหนดว่า ครม.ต้องลงมติเห็นชอบในการทำประชามติ เพราะตราบใดที่เห็นชอบเรื่องนี้ก็จะเดินหน้าไม่ได้ อะไรก็ตามแม้กฎหมายไม่ได้เขียนระบุชัดถึงการเข้าชื่อ แต่เชื่อว่าทางสำนักเลขาธิการฯจะมีการตรวจสอบรายชื่ออีกครั้ง และเชื่อว่ารัฐบาลได้ยินเสียงของประชาชนแล้ว


ด้านนางสาวณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ หรือเจ๊เอ๋ เจ้าหนี้ในวงการนอกระบบ ที่มาร่วมยื่นคำร้อง กล่าวว่าไม่เห็นด้วยแต่แรกที่รัฐบาลจะมางุ๊บงิ๊บ ทำกาสิโนขึ้นมา พวกคุณเป็นตัวแทนของประชาชนก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง และประเทศนี้ไม่ใช่ประเทศที่รัฐบาลจะต้องมาครอบงำพวกเรา เราไม่ต้องการกาสิโน ถ้าจะมีต้องมาฟังเสียงประชาชน ว่าประชาชนต้องการอะไร ผลได้ ผลเสีย ผลดี ผลเลว ต้องเอามาแจงให้ชัดเจน เพราะรัฐบาลควรจะชัดเจนกับประชาชน และฟังเสียงประชาชนให้มากกว่านี้

“ใดๆ ก็ตามเลย จิ้งจกทั้งมันยังต้องหยุด นี่ประชาชนเขาเรียกร้องกันทั้งประเทศ ไม่คิดจะหยุดบ้างหรือไง ดิฉันไม่อยากพูดอะไรเยอะ จริงๆ อยากจะคุยกับท่านเลย ว่ามันเป็นอย่างไร ท่านทำแล้วท่านได้อะไร ประชาชนได้อะไร ดิฉันไม่เห็นด้วย และขอคัดค้านตลอดไป” นางสาวณัฐฐา

ด้านสมาพันธ์เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนมัธยม และสมาพันธ์ครูทั่วประเทศ นำความห่วงใยของครูและผู้ปกครองทั่วประเทศที่สะท้อนมา มอบหนังสือให้กับทางเลขาฯมูลนิธิ เพื่อเป็นพลังร่วมคัดค้านกาสิโนและการพนันออนไลน์ที่รัฐบาล บอกว่าจะทำให้ถูกกฎหมาย ยอมไม่ได้ จึงนำหนังสือและแถลงการณ์มามอบให้กับททางมูลนิธิและเห็นด้วยกับการทำประชามติ ที่ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่ลักหลับ เหมือนกับรัฐบาลทำมากว่า 8 หมื่นชื่อ ไม่มีส่วนของภาคประชาชนเลย วันนี้เป็นความบริสุทธิโปร่งใสของปภาคประชาชนล้วนๆ ที่เราทำงานกันมากว่า 1 ปี ซึ่งต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วงมกันลงชื่อ


นางสาวกรกนก มากบุญ ผู้ประสานงานการลงรายมือชื่อเพื่อประชามติครั้งนี้ กล่าวว่าภาคประชาชนใช้เวลารวม 120 วัน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคมกว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ว่าด้วยออกเสียงประชามติ ขั้นตอนต่อจากนี้กกต.จะตรวจความครบถ้วนของรายชื่อทั้งหมดให้เสร็จภายใน 30 วัน หากรายชื่อทั้งหมดครบถ้วน กกต.จะนำส่งรายชื่อทั้งหมดต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเท่ากับได้ส่งถึงมือรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย