รัฐสภา 11 มิ.ย.- “วีระ” จี้ “สภาพัฒน์” คาดอัตราภาษีนำเข้าสุทธิไว้ที่เท่าไหร่ หลังเจรจา “ทรัมป์” แล้ว ขอความมั่นใจจาก ก.คลัง ปี 68 จะไม่เกิดการขาดแคลนรายได้ ถาม “แบงก์ชาติ” เทียบ หนี้ต่างประเทศ-เงินทุนสำรองไทย น่ากังวลหรือไม่
นายวีระ ธีรภัทร กรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กล่าวในที่ประชุม กมธ.งบ 69 โดยตั้งคำถามว่า เท่าที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประเมินภายในถึงผลสุทธิต่อการเจรจากับ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา กระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนการค้า อัตราภาษีนำเข้าที่คิดว่าจะเป็น ซึ่งจะถูกใช้เป็นสมมุติฐานในการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ จะอยู่ที่เท่าไหร่
และสำหรับตัวเลขที่ทำการประมาณในปี 68 ได้เปลี่ยนจากสมมติฐานเดิมในการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มีส่วนเพิ่มหรือส่วนต่างอย่างไร


นายวีระ ยังได้ถามต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนหนี้ต่างประเทศสุทธิของประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน ประมาณ 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น หากเทียบกับทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ที่มีอยู่ขณะนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลหรือไม่
นายวีระ สอบถามกระทรวงการคลังว่า ในปี 68 จะให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่า จะไม่มีการขาดแคลนรายได้ จากที่ทำการประมาณการรายได้ ส่วนในปี 69 ดูแล้วยังไงก็จะต้องมีการขาดแคลนรายได้ จึงอยากถามถึงตัวเลขประมาณการในใจว่า การคาดว่าตัวเลขที่จะไม่เป็นไปตามการประมาณการรายได้นั้น จะขาดไปเท่าไหร่ รวมถึงกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้นำหลักในการเข้าไปเจรจากับ โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หวังว่าสุทธิของอัตราภาษีนำเข้าของไทย จะอยู่ที่เท่าไหร่
นายวีระ ได้ถามกับสำนักงบประมาณอีกว่า เรื่องการใช้เงินคืน ในส่วนที่หน่วยงานรัฐออกไปให้ก่อน ตามมาตรา 28 อยู่ที่วงเงินเท่าไหร่ .319-สำนักข่าวไทย