นายกฯ ขอประสานด่านเปิด-ปิดเวลาตรงกัน เพื่อการค้า

สุรินทร์ 11 มิ.ย.-นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอฝ่ายความมั่นคงประสานด่านเปิด-ปิดเวลาตรงกัน เพื่อประโยชน์การค้า ขอบคุณแม่ทัพภาค 2-คนหน้างาน รับแรงกดดัน ลั่นไม่อยากให้เกิดกระแสใช้ความรุนแรง ต้องคิดถึงชีวิตคน ฝาก จนท. เร่งทำความเข้าใจประชาชน หลังเฟคนิวส์-ไอโอ ปล่อยข้อมูลเกิดความวุ่นวาย

วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 10.25 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มารอต้อนรับ


จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจเพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุรินทร์ และทันทีที่เดินทางมาถึงได้มีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ รอให้การต้อนรับ และเดินทางต่อด้วย รถตู้เมอซิเดส เบนซ์ เลขทะเบียน นข 6689 สุรินทร์ มายังโรงพยาบาลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัด โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมด้วย

โดยทันทีที่เดินทางมาถึง ได้มีประชาชน ส่วนราชการ กลุ่มเยาวชน และ สส. ในพื้นที่ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 เขต มารอต้อนรับ


จากนั้น นายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ถึงสภาพลักษณะภูมิศาสตร์ของจังหวัด และสถานการณ์ชายแดน โดยจังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่ติดต่อชายแดนติดต่อกับกัมพูชา 125 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย 4 อำเภอ คือ บัวเชด สังขะ กาบเชิง และพนมดงรัก โดยมีด่านถาวร 1 แห่ง คือด่านช่องจอม และช่องทางธรรมชาติ 54 แห่ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ รายงานว่า ก่อนหน้านี้ด่านได้เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00- 22.00 น. ภายหลังจากมีมาตรการควบคุมชายแดน จะเปลี่ยนเวลาเปิด – ปิด เป็นวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เวลา 08.00 – 15.00 น. ซึ่งทางกัมพูชาก็มีการประกาศเลื่อนการเปิด – ปิดด่านเช่นกันโดยเปิดเวลา 09.00 น. และปิดเวลา 16.00 น. ซึ่งจะทำให้จะมีเวลาที่เปิด – ปิด ตรงกันเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น

ทำให้นายกรัฐมนตรี สอบถามว่า ในพื้นที่สามารถประสานได้หรือไม่ ให้เปิดเวลาตรงกัน ต้องให้ทางหน่วยงานความมั่นคงดูว่าเปิดให้เท่ากันได้หรือไม่


ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 จึงกล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงจะลองประสานกับกองทัพฝ่ายกัมพูชาดู พร้อมยอมรับว่าอาจมีนัยบางอย่าง เหมือนมีลักษณะของการเมืองเล็กน้อย เพื่อชิงความได้เปรียบ และหลังจากนี้ ฝ่ายความมั่นคง ผู้ว่าฯ ในพื้นที่จะมีการหารือกันต่อไป

นายกรัฐมนตรี จึงระบุต่อว่า ถ้าเรายึดถือผลประโยชน์ของประชาชน เปิด – ปิด ตรงกัน จะได้ค้าขายได้เท่ากัน อันนี้จะดีกว่า ขอให้ลองดู คงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีปัญหา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ได้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์จริง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และเมื่อสักครู่ได้มีการพูดถึงเรื่องหลุมหลบภัย ขอให้แจ้งมายังกระทรวงมหาดไทยว่าต้องการซ่อมแซมแบบไหน เพราะชีวิตเด็กๆ นักเรียน ต้องให้ความรู้เมื่อไหร่ที่จะต้องใช้หลุมหลบภัย และอยากให้บรรจุอยู่ในการเรียนการสอนทุกปีไม่จำเป็นจะต้องเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์ เพื่อให้เด็กเด็กทราบเหมือนกับประเทศญี่ปุ่นว่าสถานการณ์ไหนควรใช้เมื่อไหร่

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณแม่ทัพภาค 2 ที่อยู่หน้างานตลอดและทราบถึงแรงกดดันมากๆ เพราะตนเองได้ติดต่อกับกระทรวง กลาโหมและกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้นำฝ่ายกัมพูชาได้ทราบและเห็นใจมากๆว่าอยู่หน้างานจริงไม่เหมือนกับตอนอยู่ข้างหลัง บางทีเกิดกระแสมากมาย คนหน้างานคือคนที่เห็นเหตุการณ์และต้องปรับตามสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด ตนถึงได้พยายามเน้นเรื่องของสันติภาพและความสงบสุข และได้ทราบข้อมูลจากทางหน้างานจึงไม่อยากให้เกิดกระแสตีว่าให้เกิดความรุนแรง ให้ลุยเพราะที่จริงแล้วต้องคิดถึงชีวิตของคนหน้างานว่ามีความกดดันสูงเมื่ออยู่ตรงนั้นเราเห็นอาวุธของกันและกัน เมื่อดูอาวุธดูความพร้อม หากต้องเกิดความไม่สงบจริงๆ หรือเหตุการณ์ที่รุนแรงมากขึ้นจริง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องเล็กแต่จะเป็นเรื่องใหญ่ตนเองพยายามที่จะจะสื่อสารเรื่องนี้ถึงความสงบสุข และเมื่อผู้นำคุยกันระหว่าง นายกฯ กัมพูชา ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ และล่าสุดที่คุยกันก็อยากให้ทั้งสองประเทศเกิดความสงบสุข และตนขอยืนยันเรื่องการรักษาอธิปไตยเอาไว้

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาสำคัญไม่น้อยกว่ากระทรวงกลาโหมนั่นคือกระทรวงมหาดไทย เพราะมหาดไทยคือบ้าน ทหารคือรั้วต้องให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าทีมในการดูแลบ้าน ซึ่งแต่ละจังหวัดต้องทำงานร่วมกันประสานกันว่าเกิดเหตุการณ์ใดบ้างตามแนวชายแดน และในบ้านของเรามีที่ปลอดภัยพอหรือไม่ และมีของ หรือมีปัจจัย4 พอหรือไม่สำหรับคนในบ้าน อันนี้คือเรื่องที่สำคัญดูเรื่องนี้เป็นสำคัญช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพราะเวลาเกิดเหตุการณ์ทำงานแบบบูรณาการก็จะเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องความสงบได้พูดคุยกับนายภูมิธรรม และพลเอกณัฐพล รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ซึ่งได้รายงานเสมอ ว่า มีกระบวนการ หรือข้อความแบบไหนที่ภายในคุยกันไว้แล้วยังไม่สามารถสื่อสารได้ เพราะการคุยกันระหว่างประเทศต้องเคารพกติกา และข้อตกลงระหว่างประเทศด้วย เช่น ระดับแม่ทัพคุยกัน ระดับทหารคุยกัน ระดับนายกรัฐมนตรีคุยกัน ระดับรัฐมนตรีกะกลาโหมคุย คุยกันว่าอย่างไร เราต้องบอกกันตลอดเพื่อให้การสื่อสารตรงกัน และไม่เข้าใจผิดซึ่งกันและกันอันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเมื่อพูดกันไปมากๆ ทำให้เข้าใจผิดและเกิดเรื่องใหญ่พยายามจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด พร้อมทั้งขอขอบคุณหน้างานที่เหนื่อยมากๆ ประสานงานกันจนประสบความสำเร็จขอบคุณกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมมือกันอย่างสุดความสามารถรักษาอธิปไตยของเราไว้ รักษาความสงบสุขของบ้านเราไว้ ขอชื่นชมทุกคน

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนประชาชนเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่และแน่นอนว่สเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอะไรที่เกิดความเร่งด่วนจำเป็น ขอให้ แต่ละกระทรวงรายงานตรงมายังกระทรวง เพราะทั้งสองรองนายกฯก็ติดต่อตรงกับตนเองอยู่แล้ว ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยอยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชนเยอะๆในพื้นที่ว่าทำอะไรอยู่บ้าง จะได้ให้ทุกคนเข้าใจตรงกันไม่เข้าใจผิด และไม่ให้ปล่อย Fake News อาจจะโดนไอโอบ้างอะไรบ้าง ไม่รู้มาจากไหน ก็มีการปล่อยข้อมูลที่เกิดความเข้าใจผิดกัน อันนี้จะทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคมได้ โดยทุกท่านที่มีตำแหน่งตรงนี้มีความน่าเชื่อถือที่สามารถติดต่อประชาชนได้สามารถบอกได้ว่าอะไรคือเรื่องจริง ไม่เป็นเรื่องจริง อะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็ขอให้รีบแก้ไม่อยากให้ขยายความไปมากกว่านี้ ขอให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่เป็นทีมเดียวกัน ยังไงประเทศไทยเป็นของพวกเราทุกคน เราต้องรักษาไว้และปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราอย่างเต็มที่รัฐบาลพร้อมซัพพอร์ตทุกหน่วย

“จากนี้ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้นำหรือกองทัพเป้าหมายเดียวกันคือการรักษาสันติภาพเอา ไว้ส่วนเรื่องรายละเอียดก็ว่ากันไปตามหัวข้อแต่เรื่องที่จะดีลกันจะไม่เอามารวมกัน พูดคุยกันทีละข้อ เคลียร์กันแต่ละเรื่องไป“ นายกรัฐมนตรี ระบุ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]

เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงดับสมาชิก อบต.กรงปินัง

ยะลา 23 ก.ย. – เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงสมาชิก อบต.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าบ้านพัก อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตำรวจตั้ง 2 ปม “แค้นส่วนตัว-สร้างสถานการณ์” จากเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายอิสมาแอ กาแจ อายุ 61 ปี สมาชิก อบต.กรงปินัง ขณะจอดรถยนต์กระบะเตรียมเข้าบ้านพักในพื้นที่บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตรวจสอบรอยกระสุนในตัวผู้ตายพบ 12 นัด เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัว โดยแขนซ้าย 2 นัด และใบหน้าอีก 1 นัด เมื่อเวลา 21.22 น. ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้ (23 ก.ย.) ตำรวจ สภ.กรงปินัง ลงพื้นที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์กระบะของผู้ตาย แต่ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมก่อเหตุเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ นายอาดือนัน ฮามิดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ […]

นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรง สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ทองไทยทุบสถิตินิวไฮรอบใหม่ เปิดตลาดพุ่งพรวด 550 บาท ทองไทยแตะ 57,300 บาท ตามราคาทองโลกที่นิวไฮต่อเนื่อง นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรงกว่าคาด สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำเปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย.) เวลา 09.04 น. ปรับเพิ่มขึ้นทันที 550 บาท โดยทองแท่ง ราคารับซื้อ 56,400 บาท ขายออก 56,500 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 55,273.36 ขายออก 57,300 บาท แตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.49 น. ปรับเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้ง ทองแท่ง รับซื้อ 56,300 บาท ขายออก 56,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ […]

“แม่ทัพกุ้ง” รับเคยถูกทาบนั่งตำแหน่งระดับสูง แต่ปฏิเสธ มองไม่ยั่งยืน

กองทัพบก 23 ก.ย.- “แม่ทัพกุ้ง” เผยการเมืองทาบทามนั่งตำแหน่งระดับสูง แต่ปฏิเสธ มองไม่ยั่งยืน ขอเป็นที่ปรึกษาเพื่อนๆ ในกองทัพ ย้ำ ปะทะรอบ 2 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มองเหตุพื้นที่สระแก้ว-กปจ.ชต.เชื่อมต่อ ทภ.2 เส้นเขตแดนเดียวกัน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองบัญชาการกองทัพบก พร้อมร่วมร้องเพลงชาติกับเด็ก โดยพลโทบุญสิน กล่าวย้ำว่า แม้จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ยืนยันว่าจะยังคงช่วยงานของกองทัพอย่างแน่นอน แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแล้ว ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อน ๆ ได้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำงานด้านการเมือง และที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเราบอกว่าไม่ได้เล่นการเมือง เขาก็เปิดใจ พูดคุยกับเรา ยืนยันตนจะรักษาสถานภาพนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่ง รับว่ามีคนติดต่อเข้ามา จะให้ตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง แต่ก็ไม่เอา มองว่าไม่ยั่งยืน นอกจากนี้พลโทบุญสิน ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา(RBC) ว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามข้อตก การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC)ที่ให้รือกันภายใน3สัปดาห์ นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดกันเอาไว้ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ […]