รัฐสภา 11 มิ.ย.-กมธ.งบฯ 69 เริ่มถกภาพรวมภาวะเศรษฐกิจประเทศ และงบฯ รายจ่าย 4 หน่วยงาน ก่อนเข้างบกลาง คาดแล้วเสร็จเย็นวันนี้ หากเป็นนโยบายสำคัญอาจเชิญ รมต. ชี้แจง ด้านโฆษก กมธ. เผยไม่ตั้งเป้าปรับลดงบฯ ชี้ดูความเหมาะสมและความจำเป็น
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 พร้อมทีมโฆษก แถลงข่าวถึงภาพรวมการพิจารณางบฯ ปี 2569 ว่าจะเริ่มจากการพิจารณา ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และงบประมาณรายจ่ายก่อน โดยให้หน่วยงานเข้ามาชี้แจงถึงการของบประมาณครั้งนี้ และจะเริ่มเข้าสู่การพิจารณาเป็นรายมาตรา โดยไล่เลียงตามมาตรา และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาชี้แจงโดยตรง สำหรับแนวทางการชี้แจง และการจัดเตรียมเอกสารเพิ่มเติมของหน่วยรับงบประมาณ โดยแนวทางการชี้แจงงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ สามารถเข้าชี้แจงหน่วยงานได้หน่วยงานละ 10 คน

สำหรับการชี้แจงในระดับกระทรวง ปลัดกระทรวงและหัวหน้าและหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณ สามารถเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้วยตนเอง หากเป็นนโยบายสำคัญ อาจมีมติเชิญรัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆมาชี้แจงด้วย การชี้แจงหน่วยรับงบประมาณ หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณสามารถเข้าชี้แจง คณะกรรมาธิการได้ด้วยตนเอง และการชี้แจงงบประมาณแผนงานบูรณาการ ให้หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณ หรือผู้รับผิดชอบหลักเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งนี้หากไม่สามารถมาชี้แจงมาชี้แจงได้ ขอให้หน่วยงานทำหนังสือ ขออนุญาตตอบประธานกรรมาธิการเป็นการเฉพาะ
สำหรับการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ประชุมมีมติให้ ห้าหน่วยงาน เข้าร่วมประชุมทุกครั้งเพื่อ เพื่อสนับสนุนข้อมูลและตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการ ประกอบด้วยสำนักงาน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพล สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและสำนักงบประมาณของรัฐสภา

ส่วนประเด็นในการถ่ายทอดภาพและเสียงที่ประชุมมีมติ ให้ถ่ายทอดภาพและเสียงของการประชุมคณะกรรมาธิการไปยังบริเวณหน้าห้องประชุมเพื่อให้สามารถติดตามการประชุมได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รับรู้ความคืบหน้าต่อเนื่อง ยกเว้นกรณีที่เห็นว่าควรเป็นการประชุมลับ นอกจากนี้ยังมีระบบ การถ่ายทอด ภายในอาคารรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกและเจ้าหน้าที่สามารถรับชมได้ตลอดเวลา
นายชนินทร์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ (11 มิ.ย.) เป็นการประชุมครั้งที่ 2 โดยมีการพิจารณาภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศงบประมาณงบประมาณรายจ่ายจำนวน 4 หน่วยงาน ประกอบด้วยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งภายหลังจากที่ หน่วยงานได้ชี้แจงแล้วจะมีการพิจารณางบประมาณตามมาตรา 6 งบกลาง จำนวน 12 รายการ แบ่งเป็น งบกลางในส่วนของสำนักงาน กปร. 1 รายการ งบกลางในส่วนกรมบัญชีกลาง 7 รายการ และงบกลางในส่วนของสำนักงบประมาณอีก 3 รายการ ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเวลา 18:00 น. วันนี้
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านตั้งเป้าจะปรับลดงบประมาณ 50,000 ล้านบาทนั้น จะเป็นไปได้หรือไม่ นายชนินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตัวแทนฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยในครั้งที่แล้ว อยากให้ทำงานร่วมกันและเสนอให้พิจารณากรอบในการปรับลด แต่ทาง นายพิชัย ชุณหะวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการ ให้ข้อมูลชัดเจนว่าอำนาจในการปรับลดเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ จึงอยากให้พิจารณารายละเอียด ไม่ใช่ตั้งเป้าว่าจะปรับเท่าไหร่ แต่หากพิจารณาในรายละเอียดแล้วมีความเหมาะสม หรือเรื่องไหนมีความไม่จำเป็น ก็ให้ทางกรรมาธิการดำเนินการได้เต็มที่ แต่ไม่มีการตั้งเป้าไว้

เมื่อถามว่า มีการเชิญหน่วยงานอย่างเช่น สภาพัฒน์ฯ มาชี้แจงในวันนี้ มีการตั้งเป้าไว้หรือไม่ว่าจะถามในประเด็นใด นายชนินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการชี้แจงในภาพรวมเศรษฐกิจ เพราะกรรมาธิการอยากเห็นกรอบคร่าวๆ ว่ารัฐบาลตั้งงบประมาณมาในลักษณะนี้ หน่วยงานมองภาพรวมเศรษฐกิจไว้อย่างไร และจะได้มีการปรับความเข้าใจให้ตรงกันจะเข้าก่อนจะเข้าสู่การพิจารณารายมาตรา
ส่วนจะมีการพูดถึงโครงการในการรับมือภาษีทรัมป์ รวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หรือไม่ นายชนินทร์ กล่าวว่า คงไม่มีการพูดถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะไม่ได้อยู่ในงบประมาณปีนี้ ส่วนเรื่องการรับมือภาษีทรัมป์ ก็จะเป็นข้อซักถามกันว่านอกเหนือจากงบประมาณที่ตั้งไว้ มีส่วนไหนที่เตรียมไว้สำหรับเรื่องภาษีทรัมป์มากน้อยแค่ไหน
ส่วนที่ทางฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสด จนมีการโพสต์เฟซบุ๊ก ถึงนั้น นายชนินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าข้อมูลที่โพสต์เฟซบุ๊ก อาจคลาดเคลื่อน การประชุมของกรรมาธิการ มีการถ่ายทอดตามตามที่สื่อมวลชนทราบมาโดยตลอด คือถ่ายทอดหน้าห้องประชุม แต่ถึงขั้นจะต้องถ่ายทอดสดให้ดูให้ดูแบบทั่วไปหรือไม่ ต้องบอกว่าทางทีวีรัฐสภา มีรายการประจำและกรอบเวลา จึงไม่ใช่ว่า ตลอด 24 ชั่วโมงหรือตลอดการประชุม จะต้องเปลี่ยนมาถ่ายทอดการประชุมงบประมาณแทน คงทำแบบนั้นไม่ได้ แต่หากมีประเด็นไหน ก็สามารถติดตามได้หน้าห้องประชุม และจะมีการออกมาแถลง ตนคิดว่าความโปร่งใสของการประชุมยังมีอยู่ ไม่ได้หมายความว่า เราจะปิดโดยที่ไม่ให้ฝ่ายค้านซักถาม หรือเข้าร่วม.-315.-สำนักข่าวไทย