ทำเนียบ 10 มิ.ย.-“วราวุธ” เผยรัฐบาลให้ พม. เป็นเจ้าภาพจัด เซ็น MOU 29 หน่วยงาน ปรับปรุงฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบาง เชื่อมโยงตามสิทธิสวัสดิการ-ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า กระทรวง พม. เตรียมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิสวัสดิการที่จะได้รับรายบุคคล เพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ” โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบรับเป็นประธานในพิธีลงนามดังกล่าวแล้ว และมีเลขาธิการนายกรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันที่ 18 มิ.ย.68 นี้ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการบูรณาการจัดทำฐานข้อมูลของประชาชนกลุ่มเปราะบาง (ครัวเรือนเปราะบางและผู้มีรายได้น้อย) คนพิการ ผู้สูงอายุ และฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิและสวัสดิการที่จะได้รับรายบุคคล ของหน่วยงานทุกฝ่ายที่ร่วมลงนาม ให้มีความเชื่อมโยง ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นระบบเดียวกัน แล้วนำฐานข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการใช้ข้อมูลสำหรับงานด้านนโยบายของหน่วยงานทุกฝ่าย อีกทั้งเพื่อจัดทำฐานข้อมูลกลางและบริการสารสนเทศ อาทิ การประมวลผลข้อมูลผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านหน้าจอแสดงผล (Dashboard)
นายวราวุธ กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยสนับสนุนเงิน 10,000 บาทต่อคน ไปแล้ว ทำให้พบว่ามีข้อมูลประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการอยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ซึ่งไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้เกิดปัญหาข้อมูลไม่ถูกต้องครบถ้วน และมีความซ้ำซ้อนกัน จึงได้มอบหมายให้กระทรวง พม. เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณาการการจัดทำฐานข้อมูลของประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ ของหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีความเชื่อมโยง ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นระบบเดียวกัน เพื่อจะได้นำฐานข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป โดยให้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ สขญ. ให้การสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว จากนั้นสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวง พม. กับ สขญ. และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดการประชุมหารือการบูรณาการจัดทำฐานข้อมูลของประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนพิการไปเมื่อเดือน พ.ย. 67 โดยที่ประชุมได้มีมติให้บูรณาการจัดทำฐานข้อมูล ของประชาชนในกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนพิการ และกลุ่มผู้สูงอายุ ใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ ด้านรายได้ การมีงานทำ สุขภาพ สวัสดิการสังคม และการศึกษา เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงนโยบายต่อไป
ซึ่งการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ครั้งนี้ กระทรวง พม. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับ สขญ. และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) มีอำนาจร่วมกันในการพิจารณาและอนุมัติการเข้าร่วมของหน่วยงานหรือองค์กรเพิ่มเติมในอนาคต และการพิจารณาประเด็นที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการ อีกทั้งกระทรวง พม. มีหน้าที่เป็นเลขานุการในการดำเนินการจัดการ นัดหมาย และจัดประชุม รวมถึงติดตามการดำเนินการตามผลการประชุมที่เป็นประเด็นที่สำคัญ ทั้งนี้ มีหน่วยงานร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ทั้งหมด 29 ฝ่าย จาก 15 กระทรวง และอีก 14 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวง พม. , กระทรวงกลาโหม , กระทรวงการคลัง , กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงคมนาคม , กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงยุติธรรม , กระทรวงแรงงาน , กระทรวงศึกษาธิการ , กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงอุตสาหกรรม , สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน , สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน , สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ , กรุงเทพมหานคร , เมืองพัทยา , องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ , การประปานครหลวง , การประปาส่วนภูมิภาค , สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) , สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) , สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) , กองทุนการออมแห่งชาติ , กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ.-314.-สำนักข่าวไทย
