“อนุทิน” ยัน มท. พร้อมเป็นแนวหลังดูแล ปชช.

อุบลราชธานี 8 มิ.ย. – “อนุทิน” ย้อนถาม “แล้วอธิปไตยไทย ใครจะรับผิดชอบ” ปม “ฮุน เซน” โต้ ไทยปิดด่านชายแดนต้องรับผิดชอบ มองรัฐบาลมีแนวทางเจรจาอยู่แล้ว ยัน มท. พร้อมเป็นแนวหลังดูแลประชาชน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระหว่างการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ ผู้สูงอายุก็จะมีความกังวล แต่ในช่วงวัยทำงานที่อายุน้อยลงมา ขวัญกำลังใจดี และไม่กลัวเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ยิ่งไม่กลัวใหญ่เลย ความพร้อมที่มาลงพื้นที่วันนี้ก็เห็นว่าทางจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ ตนเองได้มาย้ำว่า ถ้าจะอพยพมาเพื่อความปลอดภัย ก็ต้องไม่ให้เขารู้สึกว่าห่างบ้าน เราต้องดูแลเรื่องมาตรฐาน หลักสุขาอนามัย ห้องน้ำ ห้องส้วม จะต้องทำให้เขาออกมาแล้วไม่ต้องกังวลอะไร

ส่วนบ้านเรือนเคหะสถาน หากต้องออกมากระทรวงมหาดไทยก็มี อส. ร่วมกับ ชรบ. ดูแลเรื่องความปลอดภัย และทรัพย์สินให้ค่อนข้างสมบูรณ์ และที่สำคัญขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานทุกคน เขาก็ถามว่า กลัวที่ไหน, กลัวเมื่อไหร่, กลัวอย่างไร เพราะฉะนั้น ตรงนี้ถือว่ามาแล้วเราเห็นขวัญกำลังใจของพี่น้องประชาชน และคนที่ดูแลประชาชนเต็มที่ เราก็ไม่กังวล และทหารก็บอกว่าไม่น่าถึงจุดนั้น


ส่วนการรับข้อมูลข่าวสาร ทางจังหวัด และอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องลงพื้นที่ตลอดเวลา ตะเวนไปหลายตำบล ไม่ได้มีจุดที่เป็นจุดเสี่ยงเยอะ เพราะฉะนั้น เรื่องการให้ข้อมูลข่าวสาร ก็มีมาตรฐานอยู่แล้ว

ส่วนมาตรการการปิดด่าน นายอนุทิน ระบุว่า ก็เป็นเรื่องของการใช้นโยบายในการรักษาสถานการณ์เพื่อทำให้เกิดความปกติให้เร็วที่สุด และทางสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้มอบอำนาจการตัดสินใจให้กับฝ่ายทหารได้ดำเนินการตัดสินใจ ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยก็เป็นเรื่องของการสนับสนุน แนวหน้าเป็นเรื่องของทหาร แต่แนวหลังเรื่องการดูแลประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน พวกเรา กระทรวงมหาดไทยก็ต้องดูแลให้ดี และเต็มที่เพื่อที่เราจะทหารจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะอันตรายหรือไม่ ถือว่าเป็นข้อสั่งการข้อสำคัญที่ตนเองได้มอบให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ปฏิบัติ

ส่วนที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ออกมาระบุให้ไทยรับผิดชอบในเรื่องของการปิดด่านนั้น นายอนุทิน ย้อนถามว่า แล้วอธิปไตยของไทย ใครรับผิดชอบ ถ้าเราต้องรักษาดูแลรับผิดชอบอธิปไตยของประเทศของเราแล้ว อะไรที่เป็นเรื่องของเรา เราก็จะรับผิดชอบเองอยู่แล้ว


ส่วนมาตรการเหล่านี้ จะกดดันให้กัมพูชา กลับมาสู่โต๊ะเจรจาได้หรือไม่ นายอนุทิน มองว่า การเจรจารัฐบาลมีวิธีการ และแนวทางอยู่ เราแยกหน้าที่กันทำงาน ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยรับหน้าที่ในเรื่องการทำให้มั่นใจว่าแนวหลังในการสนับสนุนต้องมีความพร้อม ให้ความมั่นใจว่าเราพร้อมปฏิบัติ

นายอนุทิน กล่าวถึง การลงพื้นที่เพื่อเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดแนวชายแดนในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ว่า ก็มีแนวทางในลักษณะเดียวกัน เพราะเรามีแนวชายแดนทั้ง 7 จังหวัด ซึ่งเป็นแนวชายแดนที่เชื่อมกันมีระยะทางที่ยาว ดังนั้น ต้องใช้หลักเดียวกันต้องมีความพร้อมในการจัดการต่าง ๆ ในแต่ละด่าน ด่านที่มีความสัมพันธ์ทางด้านการค้า ด่านผ่อนปรนต่าง ๆ เขาก็มีมาตรการ เราก็ต้องเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะใช้มาตรการใดก็ตาม ประโยชน์ และความปลอดภัยของคนไทยต้องมีความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้น เราจะไม่คำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่น

เมื่อถามถึง การสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมหลุมหลบภัยเนื่องจากค่อนข้างเสื่อมโทรมและใช้มาอย่างยาวนานแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ ทหารประเมินว่าเราเตรียมความพร้อมเอาไว้ ส่วนจะทำใหม่หรือไม่อย่างไรนั้น หากดูก็จะรู้ว่าไม่ได้ใช้งบประมาณเยอะแยะ ทำได้อยู่แล้ว และคนที่จะมาใช้ในหลุมหลบภัย ไม่ได้ให้อยู่เป็นชั่วโมง แต่มาอยู่แค่ช่วงที่มีความจำเป็น อย่างที่นายอำเภอบอกว่า 5 นาทีก็นานเกินไปแล้ว แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องมาใช้หลุมหลบภัยตรงนี้จริง ๆ ต้องมั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถมาทำร้ายคนของเราในหลุมหลบภัยเด็ดขาด ถ้ามาถึงขนาดแล้ว เชื่อว่าพี่น้องทหาร อส. ตำรวจ ก็ต้องมาดูแลเพื่อความปลอดภัย แผนการอพยพ และขนประชาชนออกไปต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด ซึ่งตรงนี้ห่างจากแนวรบเยอะ โดยจุดแนวรบนั้น ซีลหมด ไม่มีคน แม้กระทั่งตนเองก็ไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น เรื่องความปลอดภัยทหาร ได้ยืนยันว่า โอกาสที่จะมาถึงตรงนี้ เรียกว่าแทบจะไม่มีเลย แต่เราก็จะไม่ประมาท

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสิ่งของบริจาคเพื่อสนับสนุนทหารแนวหน้า ว่า เรื่องของสนับสนุน เครื่องอุปโภคบริโภค ไม่น่ามีปัญหา เพราะมาทั้งใจ และงบประมาณ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นอยู่แล้ว สิ่งที่ตนมาวันนี้เพื่อมาบอกทหาร ที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่มีญาติพ่อแม่พี่น้องที่เขาเป็นห่วงกังวล ซึ่งหลายคนก็อยู่ในมือของฝ่ายปกครอง เราก็ต้องดูแลเขาเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนแนวรบอย่างไม่มีความวิตกกังวล มีการแบ่งเขตขีดเส้นกันอย่างชัดเจน มีการรับไม้ส่งไม้ มีแนวหน้า ส่วนหน้า ส่วนหลัง.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย