“อนุทิน” ลุย​บ้านทุ่งสมเด็จ บอกนายกฯ ฝากให้กำลังใจ

อุบลราชธานี 8 มิ.ย. – “อนุทิน” ลุย​ ชายแดนบ้านทุ่งสมเด็จ ปลุกใจชาวบ้าน อย่าว่าแต่ตารางเมตรเดียว มิลเดียวก็ไม่ได้​ พร้อมกำชับ ผู้ว่าฯ อยู่ในพื้นที่ตลอด พร้อมทำศูนย์พักพิงให้ ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน แต่ต้องเป็นบ้านหลังที่​ 2 ฝาก อส. – ชรบ. ดูแลบ้านเรือนหากเกิดการอพยพ หยอดคำหวานทหาร ดูแลเรื่องรบไปเลย​ มท.ดูเรื่องรักให้​ พร้อมพูดเป็นนัย​ ตอนนี้ต้องทิ้งการเมือง​ ความปลอดภัยประชาชนต้องมาก่อน​ ต้องไม่มีคำว่าทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีคำว่าเตะตัดขา บอก “นายกฯ” ฝากให้กำลังใจประชาชนด้วย​


นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้น​เฮลิคอปเตอร์​ ปักเป้า พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง​ ลงพื้นที่​จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยจุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี​ ทันทีที่มาถึง​ นายอนุทิน​ ได้รับฟังรายงานจากกองอาสารักษาดินแดน​ ก่อนจะเข้าไปสวมกอดให้กำลังใจ​ และเดินทักทาย​ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ.​ ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้​ ทหาร​ ชรบ. อส.และหน่วยงานฝ่ายปกครอง​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่​

จากนั้นนายอนุทิน​ ได้​กล่าวกับพี่น้องประชาชน​ โดยเริ่มจากการแนะนำ​ สส.จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง​ โดยพบว่ามี​ สส.ต่างพรรคมาด้วยคือ​ นายสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี​ พรรคไทรวมพลัง​ และนายวสวรรธ์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง​ มาต้อนรับด้วย​ ทำให้นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ นี่คนละพักกับตนนะ แต่วันนี้พรรคไม่มีมีแต่พวกคนไทยเท่านั้น​ วันนี้ถือว่าเรื่องการเมืองเป็นเรื่องสุดท้าย เรื่องทุกข์เรื่องสุขของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด​ วันนี้แม้กระทั่งการเมืองก็ต้องผนึกกำลังกัน​ ป้องกันบ้านเมือง​ ป้องกันประเทศไทย​ ป้องกันพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัย​ เดี๋ยวทุกอย่างเรียบร้อย​ ค่อยไปฟัดกันใหม่​ วันนี้เดี๋ยวขอกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความรักกันก่อน​


นายอนุทิน​ กล่าวยอมรับว่า​ วันนี้ชื่นใจมาก ทุกคนยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีกำลังใจที่ดี มีความมั่นคงเชื่อมั่นว่า​ พี่น้องทหารของเราจะปกป้องดูแลอธิปไตยของประเทศของเราได้อย่างเต็มที่แน่นอน​ ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และรวมกำลังใจส่งไปยังพี่น้องทหารที่คอยตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดน รับรองว่า​ จะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามา อย่าว่าแต่ตารางเมตรเดียว หรือนิ้วเดียว มิลเดียว​ ก็เข้ามาไม่ได้ เชื่อมั่นในเจตนารมณ์และได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของทหารระดับสูงแล้ว ได้ทำความเข้าใจ และยืนยันในเรื่องของความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยที่จะให้ความร่วมมือในการตรึงแนวหลัง หมายความว่า ดูแลพี่น้องประชาชนครอบครัวของพี่น้องทหาร เพื่อให้ไม่ต้องมีความวิตกกังวลใด ๆ

นายอนุทิน​ กล่าวต่อด้วยว่า​ กระทรวงมหาดไทย โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยความเห็นชอบของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเมื่อสักครู่โทรศัพท์เข้ามาหาตนเอง​ ว่า ขอบคุณมากที่มาที่นี่ และขอให้นำความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี มามอบให้กับพี่น้องชาวอุบลราชธานีทุกคน ว่า​ มีความห่วงใย และสั่งการให้ตนเองมาพบปะกับพี่น้อง และวันนี้เต็มที่ทั้งใจ และหน้าที่ภารกิจที่ต้องทำให้พ่อแม่พี่น้องมีขวัญกำลังใจที่ดี

“เมื่อสักครู่ถามคุณลุงคนนึงที่ใส่ชุด ชรบ. ว่ากลัวหรือไม่ แต่ลุงกลับตอบว่า “กลัวที่ไหนล่ะ” ขอเสียงปรบมือให้ ถือเป็นตัวแทนของคนไทย ในบางครั้งตนเองมาจะมาเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน แต่ในหลายโอกาส คนที่ได้รับกำลังใจ ได้รับขวัญกำลังใจคือพวกเราเอง ที่เห็นถึงความแน่วแน่คนไทยเรา พอมีภาวะการรุกรานเมื่อไหร่ ตนเองไม่เคยเห็นคนไทยกลัวเลย เพราะคำว่ากล้าหาญ อยู่ในสายเลือดอยู่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งความกล้าหาญที่จะรักษาอธิปไตยของบ้านเรา ต้องขอแสดงความชื่นชมทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดในอำเภอ และในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดแนวชายแดนมาครบหมด เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรามีความพร้อม คนไทยทุกคนพร้อมให้มั่นใจว่า แนวหลังมีความพร้อมและความปลอดภัย”


ส่วนเรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับพ่อแม่พี่น้อง ขอให้มีความมั่นใจว่าตนเอง จะมอบอำนาจเต็มให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ในการดูแล ทั้งเรื่องความปลอดภัย คุณภาพชีวิต หากเกิดความจำเป็นที่จะจะต้องออกมายังพักพิงชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ก็จะไม่มีมีความรู้สึกแตกต่างจากการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ที่บ้าน ตนเองหวังว่าคงไม่ต้องถึงจุดนั้น แต่หากจำเป็นต้องขอความร่วมมือพี่น้อง ตนเองจะให้ความยืนยันว่าทีมงาน อส. และ ชรบ. ที่เข้มแข็งของกระทรวงมหาดไทย จะดูแลบ้านเรือนเคหะสถานของพ่อแม่พี่น้องทุกคนเหมือนบ้านของเราเอง ไม่ต้องกังวลขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน และลูกหลานของพวกเราต้องปลอดภัยทุกคน ซึ่งสำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สินใด ๆ

นายอนุทิน ระบุว่า ตนเองใช้มาตรฐานดูแลพี่น้องที่ออกมายังศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้บอกผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นข้อสั่งการว่า ไม่ใช่ที่ซุกหัวนอน ต้องเป็นบ้านหลังที่สองของท่าน ซึ่งจะต้องมีความสะดวก มันไม่มีที่ไหนสบายเท่าบ้านเรา แต่ความสะดวก มาตรฐานสุขอนามัย อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค จะต้องมีมาตรฐานสมกับเป็นศักดิ์ศรีของประชาชนคนไทยในยามที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ไม่ปกติ

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือต่าง ๆ และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ แล้วอย่าลืมว่ามี สส. อยู่เต็มจังหวัดให้บอก สส. ก่อน จะได้ใช้งานผู้แทนของท่าน เวลานี้จะเป็นเวลาพิสูจน์ความทุ่มเทความไว้วางใจของพ่อแม่พี่น้องที่ได้เลือกบุคคลเหล่านี้มาเป็นผู้แทนของท่าน เขาจะต้องดูแลในทุกเรื่อง เพื่อให้พี่น้องไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายหรือขาดเหลือสิ่งใด และเชื่อว่า สส. จะประสานมายังส่วนกลางได้

“นายกฯ ฝากมาบอกพี่น้อง ซึ่งบางครั้งนายกฯ ก็เรียกตนว่าท่านรองฯ บางครั้งก็เรียกตนว่าอา โดยท่านนายกฯ ฝากตนเองมาบอกว่า “อา อิ๊งค์เป็นห่วง แล้วก็ส่งกำลังใจมาให้ ฝากบอกพ่อแม่พี่น้องว่านายกฯ หรือว่า พ่อแม่พี่น้องราษฎรในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศที่มีปัญหาอยู่ ถือว่าเป็นผู้เสียสละเพราะความอดทนอดกลั้นของพวกท่าน ถ้าไม่ออกมาโวยวายออกมาประท้วง ไม่ออกมาว่า กล่าวรัฐบาลหรือทำให้ขวัญใจของคนทำงานและประชาชนทั่วประเทศได้มีความมั่นใจว่าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายเกินไปกว่าที่เราจะควบคุมได้ เราจะให้อย่างเต็มที่ เหลือแต่ว่าขาดอะไรอีก เราก็จะมาเติมให้กับพวกท่าน ถือเป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลจะมาดูแลให้เกิดความสบายใจที่สุดให้กับพ่อแม่พี่น้อง ตนเองขอขอบคุณจริงๆ ในความร่วมมือของทุกฝ่าย”

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครที่คิดว่า จะต้องยอม ถ้าไทยประเทศไทยจะต้องสูญเสียอะไร ไม่มีทางยอม ถ้ายอมแล้วเราเดือดร้อน ดินแดนเสียหาย ศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยเสียหาย ซึ่งตรงนี้เลยจุดมาแล้ว ต้องต่อสู้พิทักษ์บ้านเมืองของอย่างเต็มกำลังความสามารถ เรื่องของความสัมพันธ์อะไร ก็เป็นเรื่องของคนที่เจรจาได้ในความสัมพันธ์ แต่เรื่องการรักษาชาติบ้านเมืองเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ไม่มีใครคิดต่างในวันนี้ เราเห็นตรงกัน

“เพราะฉะนั้นประเทศของเรา อย่าว่าแต่ร้อยเมตรเลย หนึ่งมิลก็เข้ามาไม่ได้”

นายอนุทิน ยังฝากถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า อย่าพึ่งไปเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ทหาร ให้ผลพวงลบกับฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่ไปเก็บของป่า อย่างตนเองจะไปลงพื้นที่ชายแดน ก็ไปไม่ได้ เพราะเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลังอยู่ เราก็ต้องให้ความร่วมมือ ขนาดตนเองมายังต้องเชื่อเขาเลย เพราะถ้าไปแล้วเขาวอกแวกหรือเสียสมาธิ เราต้องให้ความร่วมมือ ย้ำว่า หน้าที่มหาดไทยตอนนี้คือแนวหลัง สำรวจครอบครัวพี่น้องทหารตามแนวชายแดน ว่าต้องการอะไรจะได้ไม่มีความกังวล ทั้งเรื่องความปลอดภัยการสัญจรไปมาการใช้ชีวิตเราจะประชาสัมพันธ์ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ขอให้ความร่วมมือในช่วงนี้ เชื่อว่ามันไม่นานรัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เห็นด้วยกับสงคราม แต่เรายังมีความหวังว่าความสัมพันธ์ที่ดีทั้งสองประเทศจะได้กลับมา แต่ต้องไม่กลับมาเพราะเราต้องยอม หรือเสียเปรียบ เราต้องเข้าใจกัน ด้วยความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย

นายอนุทิน ยืนยันว่า เราไม่ทิ้งกันอย่างแน่นอน ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องอยู่ในจังหวัดจนกว่าสถานการณ์จะสงบ ตนเองจะไม่เรียกประชุมใน กทม. เป็นอันขาด หากติดภารกิจต้องประชุมออนไลน์ ต้องอยู่กับพี่น้องเพื่อประชาชนในพื้นที่

“ถ้าไม่ใช่เรื่องรบ เป็นเรื่องรัก คือรักประชาชน รักชาวบ้าน น้องเอง น้อง มท. เอง จะคอยดูแลให้พี่ทหาร พี่ทหารอย่าให้ใครรุกล้ำเข้ามา”

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนเองโตมาในยุคของการต่อสู้คอมมิวนิสต์ ซึ่งรับฟังเพลงปลุกใจมาตลอด อยากให้พี่น้องลองเปิดฟังเพลงปลุกใจ จะได้รักชาติ รักบ้านเมือง หวงแหนบ้านเมืองของเรา เพราะฉะนั้นบางทีเราต้องรู้สึกครั้งหนึ่งในชีวิต เราสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศของเรา ราชอาณาจักรของเรา รักษาสถาบันของเรา ครั้งหนึ่งในชีวิตมันก็ไม่เสียชาติเกิด หน้าที่การปกป้องรักษาบ้านเมืองไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใด แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน

“อยากให้พี่น้องร่วมมือร่วมใจสมัครสมานสามัคคีเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียว เราต้องไม่มีคำว่าทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีคำว่าเตะตัดขา ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องรักกัน พร้อมยกตัวอย่างเพลง หากไม่ดูเป็นการรบกวน ก็จะชวนเรามารักกัน เชื่อว่า วันนี้การเมืองจะต้องมีความสมัครสมานสามัคคี”

ขณะที่​ นายอำเภอน้ำยืน ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนด้วย​ ว่า 28 กุมภาพันธ์ บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ที่ศาลาตรีมุขมีการเผา ทำให้หลังจากนั้น สถานการณ์ชายแดนตลอดแนวของกัมพูชา และไทย มีความตึงเครียด กัมพูชาก็มีใช้กำลังทหาร และอาวุธเข้ามา เช่นเดียวกับทหารไทย ที่นำกำลังทหารเข้ามาเช่นเดียวกัน จนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เกิดการปะทะกันขึ้นของทหาร 2 ฝ่าย ระยะเวลาประมาณ 10 นาที โดยผลจากการประทะครั้งนี้ ทำให้ทหารกัมพูชาใช้ชีวิต 1 นาย หลังจากนั้น ในพื้นที่ชายแดน กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ก็มีการเตรียมกำลังพลพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่เพื่อที่จะตรึงกำลังในการปกป้องอธิปไตยของแต่ละฝ่าย ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอน้ำยืน 3 ตำบล 40 กว่าหมู่บ้าน มีความตื่นตระหนกจากสถานการณ์ และเกิดความกังวล เพราะทหารวิ่งทุกวัน โดยสถานการณ์ดังกล่าว เราไม่ประมาท ได้เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุการณ์การประทะกันเกิดขึ้น มีศูนย์พักพิงที่นำพี่น้องไปอยู่ในอำเภอเดชอุดม กว่า 64 ศูนย์ และมี ชรบ. อส. คอยทำความเข้าใจกับประชาชนในการติดตามข่าว และมีสติในการฟังข้อมูลข่าวสาร และเน้นให้ฟังข้อมูลจากทางราชการเป็นสำคัญ หากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในอนาคต เราพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัย ให้อยู่ห่างไกลจากพื้นที่ปะทะของแนวชายแดน.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]