“เจษฎ์” ประกาศไล่ นายกฯ ก่อนเขมร

กทม. 7 มิ.ย.-“เจษฎ์” ประกาศไล่ นายกฯ ก่อนเขมร ลั่นหากรักษาอธิปไตยไทยไม่ได้ ให้ลาออก เชื่อทหารไม่อยากให้เกิดสงคราม

นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย กล่าวถึงการแก้ปัญหาปัญหาชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา รัฐบาลดำเนินการช้าไป ว่า ก็จริงอย่างที่เขาว่า เรื่องการระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกัน ถ้าหากมีการกระทำอะไรที่ก่อให้เกิดนัยยะสำคัญ หรือการเคลื่อนไหวในลักษณะที่ มีโอกาสกระทบต่อความมั่นคง โดยเฉพาะกระทบต่อบูรณภาพของอาณาจักร ต้องรีบดำเนินการโดยด่วน การที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีฝั่งกัมพูชามาที่ปราสาทตาเมือนธมแล้วร้องเพลงชาติ เราต้องดำเนินการตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ถ้าเราจะทำเป็นเป็นทางการน้อยที่สุด ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศเชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชามาคุย โดยให้สื่อสารไปยังประเทศกัมพูชาว่า หากทำเช่นนี้จะกระทบต่อความมั่นคงได้ เพราะเป็นบุคคลที่อยู่ในระดับบริหารราชการแผ่นดิน แต่เมื่อไม่ดำเนินการการรุกคืบจะเกิดขึ้นทันที กลายเป็นว่ามีการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ชาวบ้านเข้ามา ซึ่งเป็นการเข้ามาสอดแนม แต่เราอาจจะไม่ได้คิดตาม เขาตั้งใจจะแสวงหาข่าวเพื่อไปส่งต่อหรือไม่ แต่หากยกระดับขึ้นมาเป็นทหารเข้ามาในพื้นที่ No man’s land เราต้องดำเนินการโดยด่วนผลักดันให้ถอยไป เราไม่อยากจะเสียเลือดเสียเนื้อหรือศึกสงคราม


“เชื่อว่าทหารทุกคนก็ไม่อยากให้เป็นศึกสงครามมากที่สุด เพราะท่านเจ็บท่านตายจริง พวกเราโดยเฉพาะนักการเมืองไม่เจ็บ ไม่ตายจริงหรอก อย่างมากก็พูดๆ ว่านโยบายฉันอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดผลอะไรขึ้น โดยเฉพาะในทางกายภาพ ฉะนั้น ทหารเขาไม่อยากรบ แต่หากมีภาวะการณ์ที่จำเป็นในทางระหว่างประเทศ ภายใต้ระหว่างกฎหมายระหว่างประเทศด้วยซ้ำ อาจจะมีการป้องกันตัว อาจจะมียิงขู่ เช่น ยิงขึ้นฟ้าเพื่อผลักดันคนเหล่านี้ให้ถอยไป คุณอย่าไปใช้วิธีพูด เดินไปแล้วไปคุย เฮ้ย เธอถอยไปเถอะ เธอเอาคนของเธอไป กัมพูชาเขาจะทำแบบนี้ แต่ท้ายที่สุดพอลุกคืบมาถึงเขตแดนเราแล้ว ข้ามเข้ามาเขตแดนเราแล้ว จะมาบอกว่าคุยกัน มันจะไม่ได้ผลแล้วถ้าถูกดึงลากไปศาลโลก ตั้งแต่ปี 2503 เราไม่รับเขตอำนาจศาลโลก” นายเจษฎ์ กล่าว

นายเจษฎ์ กล่าวต่อว่า เราไม่ได้ปฏิเสธกลไกกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ไม่ต้องถึงขั้นนั้น และเป็นอาณาเขตของเรา รัฐบาลเป็นฝ่ายที่ย่อหย่อนที่สุด ตอนนี้คนพูดกันว่าทหารพร้อม ประชาชนพร้อม แต่รัฐบาลกลับไม่พร้อมแล้วจะมาบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างไร ถึงกับมีคนบอกว่าไล่รัฐบาลก่อนไล่เขมรดีหรือไม่


เมื่อถามว่า ไทยอาจถึงขั้นเสียดินแดนหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ไม่แน่ว่าถึงขั้นเสียดินแดนหรือไม่ แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าเสียเปรียบ เสียสถานภาพในเวทีโลก เพราะมัวแต่มะงุมมะงาหรา จะทำอะไรก็ไม่ทำ เงื้อง่า และทำเป็นพูดว่าทำแล้ว คุยแล้ว อ้างแต่ความสัมพันธ์ส่วนตัว ซึ่งต้องบอกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวต้องวางไว้ นี่เป็นเรื่องทางการบ้านเมือง ตอนนี้ทำให้เราเสียเปรียบและเสียพื้นที่ในเวทีระหว่างประเทศ หรือเวทีโลก

“กัมพูชาลุกคืบจะไปศาลโลกจะยึด 4 ปราสาท ประกาศว่า ไทยยิงฉัน ทั้งที่ทุกอย่างเราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คนที่เป็นตัวแทนบ้านเมืองเราไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่บอกประชาชนชาวโลกจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังบอกแค่ว่าจะไปคุยกับ 3-4 กรอบ ในคณะกรรมการร่วมกัน คณะกรรมการเหล่านั้นจะคุยได้อย่างไร ประธานก็เป็นประธานร่วม กรรมการ คณะกรรมการก็จำนวนเท่ากัน แล้วจะคุยได้อย่างไร กัมพูชาก็บอกว่าฉันไม่คุยกับเธอ ข้อเสนอที่เสนอมาฉันก็ไม่รับเพราะเป็นดินแดนฉัน แล้วเราทำอะไร เราเสียเปรียบจากการที่คุณเงื้อง่า ไม่ทำอะไร และไม่บอกให้ประชาชนชาวโลกให้รู้ว่าเราอยู่ตรงไหน เรายืนอยู่ตรงจุดใด อะไรคือของเรา และพูดแต่ความสัมพันธ์ส่วนตัว รัฐมนตรีกลาโหมทำอะไรไม่รู้เรื่องรู้ราว นายกฯ ก็ไม่ใช่ พ่อนายกฯ ก็พูดได้แต่เรื่องส่วนตัว พูดแต่เรื่องเอาแต่กาสิโน เอาแต่ความฉิบหาย ความวิบัติเข้าสู่บ้านเมือง แต่ความสถาพร การรักษาสถานภาพอาณาจักร ทำให้บ้านเมืองอยู่ดี ประชาชนมีสุข แล้วสิ่งที่เป็นของเราต้องเป็นของเราประชาชนชาวโลกต้องรับรู้ ไม่เห็นจะมี แบบนี้บอกว่าทำแล้วได้อย่างไร มีแต่จะทำให้เสีย มีแต่จะทำให้หาย ไม่ได้ทำให้ได้ ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นมา“ นายเจษฎ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากเป็นไปในทิศทางไม่ดี นายกฯ ต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าดูแลบ้านเมือง ไม่ใช่แค่ นายกฯ แต่ต้องพากันลาออกไปให้หมด สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องชี้วัดว่าการที่จะดูแลบ้านเมืองบริหารราชการแผ่นดินและทั้งรัฐสภา สส. สว. ที่บอกว่าเป็นตัวแทนประชาชนคนไทย คุณทำอะไรบ้าง พากันออกให้หมด ถ้าทำหน้าที่ไม่ได้ ประชาชนทำกันเองได้ ทหารช่วยกันทำได้ ที่พูดไม่ได้บอกให้ปฏิวัติ แต่ต้องเปลี่ยนไปตามครรลองที่คิดจะทำ แต่ต้องลาออกไปก่อน เพราะทำงานกันไม่ได้ เหมือนบริษัทห้างร้าน ถ้าคนทำงานไม่ได้ก็ต้องไล่ออก.-319​.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]