“ปานเทพ” จ่อแสดงจุดยืนถึง นายกฯ ให้ปกป้องอธิปไตยไทย

กทม. 7 มิ.ย.-“ปานเทพ” เตรียมแสดงจุดยืนถึง นายกฯ ให้ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเป็นรูปธรรม ชี้ รมว.กลาโหม ต้องติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก บอก “กัมพูชา” รุกล้ำ Thailand ไม่ใช่ No man’s land แนะยกเลิก MOU 2543 และเริ่มเจรจาพื้นที่ทับซ้อนใหม่จากดาวเทียม

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึง การยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ว่า ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินไปพร้อมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนักวิชาการรวมถึงประชาชน ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม​ แม้ตอนนี้จะมีคำแถลงจากกระทรวงกลาโหมหลายครั้ง แต่สิ่งที่ยังกังวลอยู่มาก คือสิ่งที่รัฐบาลไทยยังไม่ยืนยันผืนแผ่นดินไทยว่าอยู่ที่ไหน ในขณะที่ฝ่ายกองทัพยืนยันว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหนแต่อำนาจ การประท้วงอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้เข้าข่ายกฎหมายปิดปาก ว่าแผ่นดินนั้นเป็นของประเทศไทย ต้องมาจากรัฐบาล ต้องมาจากกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่แค่กองทัพ​ ดังนั้น วันนี้เรายังไม่ได้ยินว่ามีการรุกล้ำแผ่นดินไทย ไม่ใช่ รุกล้ำ No man’s land รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะต้องแก้ไขคำนี้ ให้ถูกต้องก่อน ซึ่งเป็นกระดุมเม็ดแรก ว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังถูกรุกราน อธิปไตยของแผ่นดินไทย ถ้ามายืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เราจะกลับกระดุมเม็ดต่อไปผิดพลาดทั้งหมดในเวลาต่อมา


นายปานเทพ​ กล่าวว่าในวันอังคารที่ 10 มิถุนายนนี้จะไปยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล แต่จะยื่นเรื่องอะไรนั้นต้องรอดูสถานการณ์เพราะยังมีเวลาเหลืออีก 2-3 วัน แล้วหวังว่ารัฐบาลจะได้ฟังแล้วจะหนัก และทำในสิ่งที่เราได้พูดตั้งแต่วันนี้ให้เป็นรูปธรรม

“ณ ขณะนี้มีการรุกรานแผ่นดินไทยแล้วไม่ใช่ No man’s land แต่เป็น Thailand ต้องมีมาตรการ ในการประท้วงอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีมาตรการในการผลักดันออก หรือจับกุมผู้กระทำความผิด ประหนึ่งกรณีนายวีระ สมความคิด ที่เคยถูกจับกุม บริเวณจังหวัดสระแก้ว และถูกดำเนินคดีความในกัมพูชา ถูกจำคุกอยู่ 3 ปี ประเทศไทยก็ต้องปฏิบัติในมาตรการแบบเดียวกัน ไม่ใช่มีแต่ข้อสงสัยว่าพื้นที่ แผ่นดินไทยเป็น No man’s land แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ขอย้ำว่าการพูดว่าเป็น No man’s land เป็นผลเสียหายต่อประเทศไทย เพราะเท่ากับไม่ยืนยันว่านั่นคือแผ่นดินไทย เพราะ No man’s land ในข้อตกลงเกิดขึ้นได้ เนื่องมาจากการขีดเส้น 2 เส้น คือทางฝั่งกัมพูชาที่คิดรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย กับการขีดของประเทศไทยที่ต้องยืนหยัดในแผ่นดินตัวเอง การลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่อ้างว่าเป็น No man’s land จึงเท่ากับเป็นการรุกรานแผ่นดินไทย ต้องมีมาตรการชัดเจนและเป็นรูปธรรมซึ่งเราต้องดูปฏิกิริยารัฐบาล จากนี้จนถึงวันอังคาร” นายปานเทพ กล่าว


นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ต้องตระหนักว่าขณะนี้กัมพูชาต้องการอะไร คือต้องการไปศาลโลก และไม่ต้องการเจรจาใน JBC แต่กัมพูชายังกอด MOU 2543 ทำไมยังกอดอยู่ทั้งที่ไม่เจรจา เพราะเขากำลังอ้าง มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนซึ่งประเทศไทยไม่เคยยอมรับ และปรากฏอยู่ใน MOU 2543 ในกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด ไทยควรใช้โอกาสนี้ยกเลิก MOU2543 และกลับมาประชุม JBC ตามที่ควรจะเป็น ตามลักษณะลองติจูดละติจูดที่มองเห็นได้แล้วในดาวเทียม ถ้าเรายังปะปนกันอยู่ โดยยึดเอาแผนที่ฝรั่งเศส อยู่ใน MOU 2543 กัมพูชาจะคิดเสมอว่าประเทศไทยกำลังยอมรับ แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน อันเป็นเหตุทำให้ไทยสูญเสียเขาพระวิหาร และพื้นที่โดยรอบ และจะลุกลามไปไกลกว่านี้

นายปานเทพกล่าวว่า มาตรการของเขาตอนนี้เขาทิ้งการประชุม JBC แต่จะกอดแผนที่ใน MOU 2543 ถ้าเราตระหนักรู้เรื่องนี้เราต้องใช้โอกาส ในการละเมิดการประชุม JBC ของฝ่ายไทยและกัมพูชา ดังนั้น MOU 2543 ต้องยกเลิก เพื่อนำไปสู่การเจรจา ที่ไม่ได้มีความคาดหวังเกินหลักแนวธรรมชาติระหว่างไทยกัมพูชา ขณะนี้กัมพูชามีเป้าหมายและความคาดหวัง เขตแดนเกินไปไกลกว่าสันปันน้ำ ยึดแผนที่ฝรั่งเศสเป็นตัวตั้งแล้วเขาดำเนินการแบบนี้มาโดยตลอด ตนเคยเตือนเรื่องนี้เมื่อ 14 ปีที่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ดังนั้นประเทศไทยมีหน้าที่ยืนหยัดและยืนยันแผ่นดินของตนเอง

” วันนี้ถือว่าคำแถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พัฒนาขึ้น ว่าจะปกป้องอธิปไตยแต่ ยังไม่ชัดเจน ว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหน ยังไม่กล้ายืนยันว่าแผ่นดินไทย อยู่ที่ไหน ยังไม่ประท้วงกัมพูชาไหว้รุกล้ำแผ่นดินไทยพูดแต่คำว่าNo man’s land ทั้งที่จึงเป็น Thailand ไม่ใช่ No man’s land” นายปานเทพกล่าว


เมื่อถามว่า นายภูมิธรรมให้อำนาจเหล่าทัพในการเปิดหรือปิดด่าน มองว่าช้าไปหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ช้าไป แต่ถือว่าเเป็นอนาจของกองทัพบกชัดเจนแล้ว ซึ่งกองทัพบกมีหน้าที่ในการใช้ทุกมาตราการในการปกป้องอธิปไตยให้ได้มากที่สุด แต่ไม่พอ เพราะการประท้วงอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้เข้าข่ายกฎหมายปิดปาก เหมือนกรณีปราสาทเขาพระวิหาร รัฐไทยต้องเป็นฝ่ายประท้วงในนามรัฐบาลไทย หรือในนามกระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี เหมือนที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศ แต่วันนี้เรายังไม่ได้เสียงผู้นำรัฐบาลของประเทศไทยประกาศในเรื่องเหล่านี้ พูดแต่เราจะปกป้องอธิปไตยไทยแต่ไม่รู้ว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหน นี่คือจุดเปราะบางและจุดเสี่ยงที่สุด เราต้องการได้ยินเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ถ้าท่านทำไม่ได้ตนเชื่อว่าวันที่ 10 มิ.ย. จากผู้ที่ไปยื่นหนังสือจะไปไกลมากกว่าการเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติ ถ้ารัฐบาลทำไม่ได้อาจจะนำไปสู่ขับไล่รัฐบาลได้

เมื่อถามว่าประธานอาเซียนออกมาเป็นตัวกลางประสานระหว่าง 2 ประเทศ มองว่าจะทำให้ท่าทีของกัมพูชาอ่อนลงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ทุกประเทศที่จะเข้ามาช่วยเป็นตัวกลางเจรจา ยืนยันอีกครั้ง ว่าขณะนี้เรายังไม่ยืนยันว่าเราถูกละเมิดอธิปไตย เราไม่แสดงภาพถ่ายดาวเทียมว่ามีการรุกล้ำอย่างไรเพื่อให้สากลรับรู้ มีแต่ฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น แต่ฝ่ายไทยปล่อยให้โซเชียลเป็นผู้ประกาศ ทางรัฐบาลยังไม่ประกาศอะไรเลย เท่ากับเรานิ่งเฉย ไม่ปฏิเสธ ซึ่งตรงนี้ตนเป็นห่วงว่าจะซ้ำรอยปราสาทเขาพระวิหาร ดังนั้นเราต้องการคำประกาศที่ชัดเจน ไม่ใช่คำอวดอ้างว่า เราสนับสนุนกองทัพ หรือเราปกป้องอธิปไตย แค่นั้นไม่พอ วันนี้ต้องการยืนยัน และยืนยันว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหน รุกล้ำอย่างไร และต้องสร้างความรับรู้ในทางสากล ปิดรับกลายเป็นความลับมืดดำ ไม่ให้ประชาชนรู้ แล้วจะชนะทางสากลได้อย่างไร

“ฉะนั้นอย่าทำการสู้รบแบบที่คิดว่าประชาชนรู้ไม่เท่าทัน อย่าคิดว่า ประชาชนหรือสากลจะต้องเชื่อ ในสิ่งที่ไม่มีความชัดเจน และย้ำว่าวันนี้ต้องการความชัดเจน”นายปานเทพกล่าว

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า รัฐบาลควรจะต้องดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อกดดันให้กัมพูชามาอยู่ในเวทีเจรจาที่ไม่เอาเปรียบ ประเทศไทย และสิ่งที่เราควรทำคือกระแสย้อนกลับ ให้รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น ประชาชนในฝั่งกัมพูชานั้นเดือดร้อน นี่คืออำนาจต่อรอง และอย่าคิดว่าไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด นั่นเป็นฝ่ายกองทัพพูด แต่รัฐบาลต้องต่อประโยคหลังให้ได้ เอกราชของไทยจะไม่ให้ใครข่มขี่ด้วย ไม่ใช่บอกแค่ว่าถึงเวลารบเราก็จะรบ ไม่พอ วันนี้มีการรุกล้ำเราต้องทำมากกว่านี้

เมื่อถามถึงโอกาสที่จะสูญเสีย 3 ประสาทตามแนวเขตแดนนั้น นายปานเทพ ยืนยันว่า 3 ปราสาทอยู่ในแนวสันปันน้ำของประเทศไทย ดังนั้นต้องใช้โอกาสนี้ยกเลิก MOU 2543 และเจรจาใหม่ เพื่อไม่ให้มีการซ้ำรอยกับปราสาทเขาพระวิหาร

“ถ้าตราบใดประเทศไทย ไม่บ้าจี้ไปรับอำนาจศาลโลกอีก เราก็ไม่มีทางให้ใครมาตัดสินเรา เพราะกฎบัตรสหประชาชาติก็ยืนยันว่าทุกประเทศมีอำนาจและอำนาจและมีความชอบธรรมในการปกป้องอำนาจอธิปไตยของตัวเอง ดังนั้นการปะทะชายแดนเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะเรามี กลไก JBC ที่เป็นเรื่องของ 2 ประเทศต้องคุยกัน ชาติอื่นอย่าปล่อยให้มายุ่ง เรามีบทเรียนราคาแพงหลายครั้ง ในการที่ชาติอื่นเข้ามายุ่ง เราต้องยืนหยัดในกฎบัตร อาเซียน หรือกฎบัตรสหประชาชาติ ว่าไม่ให้ชาติอื่นแทรกแซง และย้ำว่าสันติวิธีโดยที่เขานั่งทับ เส้นแผ่นดินไทยไปแล้ว เพราะถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ เขาจะนั่งทับไปตลอดกาล การเจรจาได้เปรียบหรือเสียเปรียบพื้นที่เหล่านั้น จะต้องไม่มีใครเอาเปรียบประเทศไทย” นายปานเทพ กล่าว.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย