“ปานเทพ” จ่อแสดงจุดยืนถึง นายกฯ ให้ปกป้องอธิปไตยไทย

กทม. 7 มิ.ย.-“ปานเทพ” เตรียมแสดงจุดยืนถึง นายกฯ ให้ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเป็นรูปธรรม ชี้ รมว.กลาโหม ต้องติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก บอก “กัมพูชา” รุกล้ำ Thailand ไม่ใช่ No man’s land แนะยกเลิก MOU 2543 และเริ่มเจรจาพื้นที่ทับซ้อนใหม่จากดาวเทียม

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึง การยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ว่า ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินไปพร้อมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนักวิชาการรวมถึงประชาชน ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม​ แม้ตอนนี้จะมีคำแถลงจากกระทรวงกลาโหมหลายครั้ง แต่สิ่งที่ยังกังวลอยู่มาก คือสิ่งที่รัฐบาลไทยยังไม่ยืนยันผืนแผ่นดินไทยว่าอยู่ที่ไหน ในขณะที่ฝ่ายกองทัพยืนยันว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหนแต่อำนาจ การประท้วงอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้เข้าข่ายกฎหมายปิดปาก ว่าแผ่นดินนั้นเป็นของประเทศไทย ต้องมาจากรัฐบาล ต้องมาจากกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่แค่กองทัพ​ ดังนั้น วันนี้เรายังไม่ได้ยินว่ามีการรุกล้ำแผ่นดินไทย ไม่ใช่ รุกล้ำ No man’s land รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะต้องแก้ไขคำนี้ ให้ถูกต้องก่อน ซึ่งเป็นกระดุมเม็ดแรก ว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังถูกรุกราน อธิปไตยของแผ่นดินไทย ถ้ามายืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เราจะกลับกระดุมเม็ดต่อไปผิดพลาดทั้งหมดในเวลาต่อมา


นายปานเทพ​ กล่าวว่าในวันอังคารที่ 10 มิถุนายนนี้จะไปยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล แต่จะยื่นเรื่องอะไรนั้นต้องรอดูสถานการณ์เพราะยังมีเวลาเหลืออีก 2-3 วัน แล้วหวังว่ารัฐบาลจะได้ฟังแล้วจะหนัก และทำในสิ่งที่เราได้พูดตั้งแต่วันนี้ให้เป็นรูปธรรม

“ณ ขณะนี้มีการรุกรานแผ่นดินไทยแล้วไม่ใช่ No man’s land แต่เป็น Thailand ต้องมีมาตรการ ในการประท้วงอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีมาตรการในการผลักดันออก หรือจับกุมผู้กระทำความผิด ประหนึ่งกรณีนายวีระ สมความคิด ที่เคยถูกจับกุม บริเวณจังหวัดสระแก้ว และถูกดำเนินคดีความในกัมพูชา ถูกจำคุกอยู่ 3 ปี ประเทศไทยก็ต้องปฏิบัติในมาตรการแบบเดียวกัน ไม่ใช่มีแต่ข้อสงสัยว่าพื้นที่ แผ่นดินไทยเป็น No man’s land แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ขอย้ำว่าการพูดว่าเป็น No man’s land เป็นผลเสียหายต่อประเทศไทย เพราะเท่ากับไม่ยืนยันว่านั่นคือแผ่นดินไทย เพราะ No man’s land ในข้อตกลงเกิดขึ้นได้ เนื่องมาจากการขีดเส้น 2 เส้น คือทางฝั่งกัมพูชาที่คิดรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย กับการขีดของประเทศไทยที่ต้องยืนหยัดในแผ่นดินตัวเอง การลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่อ้างว่าเป็น No man’s land จึงเท่ากับเป็นการรุกรานแผ่นดินไทย ต้องมีมาตรการชัดเจนและเป็นรูปธรรมซึ่งเราต้องดูปฏิกิริยารัฐบาล จากนี้จนถึงวันอังคาร” นายปานเทพ กล่าว


นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ต้องตระหนักว่าขณะนี้กัมพูชาต้องการอะไร คือต้องการไปศาลโลก และไม่ต้องการเจรจาใน JBC แต่กัมพูชายังกอด MOU 2543 ทำไมยังกอดอยู่ทั้งที่ไม่เจรจา เพราะเขากำลังอ้าง มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนซึ่งประเทศไทยไม่เคยยอมรับ และปรากฏอยู่ใน MOU 2543 ในกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด ไทยควรใช้โอกาสนี้ยกเลิก MOU2543 และกลับมาประชุม JBC ตามที่ควรจะเป็น ตามลักษณะลองติจูดละติจูดที่มองเห็นได้แล้วในดาวเทียม ถ้าเรายังปะปนกันอยู่ โดยยึดเอาแผนที่ฝรั่งเศส อยู่ใน MOU 2543 กัมพูชาจะคิดเสมอว่าประเทศไทยกำลังยอมรับ แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน อันเป็นเหตุทำให้ไทยสูญเสียเขาพระวิหาร และพื้นที่โดยรอบ และจะลุกลามไปไกลกว่านี้

นายปานเทพกล่าวว่า มาตรการของเขาตอนนี้เขาทิ้งการประชุม JBC แต่จะกอดแผนที่ใน MOU 2543 ถ้าเราตระหนักรู้เรื่องนี้เราต้องใช้โอกาส ในการละเมิดการประชุม JBC ของฝ่ายไทยและกัมพูชา ดังนั้น MOU 2543 ต้องยกเลิก เพื่อนำไปสู่การเจรจา ที่ไม่ได้มีความคาดหวังเกินหลักแนวธรรมชาติระหว่างไทยกัมพูชา ขณะนี้กัมพูชามีเป้าหมายและความคาดหวัง เขตแดนเกินไปไกลกว่าสันปันน้ำ ยึดแผนที่ฝรั่งเศสเป็นตัวตั้งแล้วเขาดำเนินการแบบนี้มาโดยตลอด ตนเคยเตือนเรื่องนี้เมื่อ 14 ปีที่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ดังนั้นประเทศไทยมีหน้าที่ยืนหยัดและยืนยันแผ่นดินของตนเอง

” วันนี้ถือว่าคำแถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พัฒนาขึ้น ว่าจะปกป้องอธิปไตยแต่ ยังไม่ชัดเจน ว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหน ยังไม่กล้ายืนยันว่าแผ่นดินไทย อยู่ที่ไหน ยังไม่ประท้วงกัมพูชาไหว้รุกล้ำแผ่นดินไทยพูดแต่คำว่าNo man’s land ทั้งที่จึงเป็น Thailand ไม่ใช่ No man’s land” นายปานเทพกล่าว


เมื่อถามว่า นายภูมิธรรมให้อำนาจเหล่าทัพในการเปิดหรือปิดด่าน มองว่าช้าไปหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ช้าไป แต่ถือว่าเเป็นอนาจของกองทัพบกชัดเจนแล้ว ซึ่งกองทัพบกมีหน้าที่ในการใช้ทุกมาตราการในการปกป้องอธิปไตยให้ได้มากที่สุด แต่ไม่พอ เพราะการประท้วงอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้เข้าข่ายกฎหมายปิดปาก เหมือนกรณีปราสาทเขาพระวิหาร รัฐไทยต้องเป็นฝ่ายประท้วงในนามรัฐบาลไทย หรือในนามกระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี เหมือนที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศ แต่วันนี้เรายังไม่ได้เสียงผู้นำรัฐบาลของประเทศไทยประกาศในเรื่องเหล่านี้ พูดแต่เราจะปกป้องอธิปไตยไทยแต่ไม่รู้ว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหน นี่คือจุดเปราะบางและจุดเสี่ยงที่สุด เราต้องการได้ยินเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ถ้าท่านทำไม่ได้ตนเชื่อว่าวันที่ 10 มิ.ย. จากผู้ที่ไปยื่นหนังสือจะไปไกลมากกว่าการเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติ ถ้ารัฐบาลทำไม่ได้อาจจะนำไปสู่ขับไล่รัฐบาลได้

เมื่อถามว่าประธานอาเซียนออกมาเป็นตัวกลางประสานระหว่าง 2 ประเทศ มองว่าจะทำให้ท่าทีของกัมพูชาอ่อนลงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ทุกประเทศที่จะเข้ามาช่วยเป็นตัวกลางเจรจา ยืนยันอีกครั้ง ว่าขณะนี้เรายังไม่ยืนยันว่าเราถูกละเมิดอธิปไตย เราไม่แสดงภาพถ่ายดาวเทียมว่ามีการรุกล้ำอย่างไรเพื่อให้สากลรับรู้ มีแต่ฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น แต่ฝ่ายไทยปล่อยให้โซเชียลเป็นผู้ประกาศ ทางรัฐบาลยังไม่ประกาศอะไรเลย เท่ากับเรานิ่งเฉย ไม่ปฏิเสธ ซึ่งตรงนี้ตนเป็นห่วงว่าจะซ้ำรอยปราสาทเขาพระวิหาร ดังนั้นเราต้องการคำประกาศที่ชัดเจน ไม่ใช่คำอวดอ้างว่า เราสนับสนุนกองทัพ หรือเราปกป้องอธิปไตย แค่นั้นไม่พอ วันนี้ต้องการยืนยัน และยืนยันว่าแผ่นดินไทยอยู่ที่ไหน รุกล้ำอย่างไร และต้องสร้างความรับรู้ในทางสากล ปิดรับกลายเป็นความลับมืดดำ ไม่ให้ประชาชนรู้ แล้วจะชนะทางสากลได้อย่างไร

“ฉะนั้นอย่าทำการสู้รบแบบที่คิดว่าประชาชนรู้ไม่เท่าทัน อย่าคิดว่า ประชาชนหรือสากลจะต้องเชื่อ ในสิ่งที่ไม่มีความชัดเจน และย้ำว่าวันนี้ต้องการความชัดเจน”นายปานเทพกล่าว

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า รัฐบาลควรจะต้องดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อกดดันให้กัมพูชามาอยู่ในเวทีเจรจาที่ไม่เอาเปรียบ ประเทศไทย และสิ่งที่เราควรทำคือกระแสย้อนกลับ ให้รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น ประชาชนในฝั่งกัมพูชานั้นเดือดร้อน นี่คืออำนาจต่อรอง และอย่าคิดว่าไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด นั่นเป็นฝ่ายกองทัพพูด แต่รัฐบาลต้องต่อประโยคหลังให้ได้ เอกราชของไทยจะไม่ให้ใครข่มขี่ด้วย ไม่ใช่บอกแค่ว่าถึงเวลารบเราก็จะรบ ไม่พอ วันนี้มีการรุกล้ำเราต้องทำมากกว่านี้

เมื่อถามถึงโอกาสที่จะสูญเสีย 3 ประสาทตามแนวเขตแดนนั้น นายปานเทพ ยืนยันว่า 3 ปราสาทอยู่ในแนวสันปันน้ำของประเทศไทย ดังนั้นต้องใช้โอกาสนี้ยกเลิก MOU 2543 และเจรจาใหม่ เพื่อไม่ให้มีการซ้ำรอยกับปราสาทเขาพระวิหาร

“ถ้าตราบใดประเทศไทย ไม่บ้าจี้ไปรับอำนาจศาลโลกอีก เราก็ไม่มีทางให้ใครมาตัดสินเรา เพราะกฎบัตรสหประชาชาติก็ยืนยันว่าทุกประเทศมีอำนาจและอำนาจและมีความชอบธรรมในการปกป้องอำนาจอธิปไตยของตัวเอง ดังนั้นการปะทะชายแดนเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะเรามี กลไก JBC ที่เป็นเรื่องของ 2 ประเทศต้องคุยกัน ชาติอื่นอย่าปล่อยให้มายุ่ง เรามีบทเรียนราคาแพงหลายครั้ง ในการที่ชาติอื่นเข้ามายุ่ง เราต้องยืนหยัดในกฎบัตร อาเซียน หรือกฎบัตรสหประชาชาติ ว่าไม่ให้ชาติอื่นแทรกแซง และย้ำว่าสันติวิธีโดยที่เขานั่งทับ เส้นแผ่นดินไทยไปแล้ว เพราะถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ เขาจะนั่งทับไปตลอดกาล การเจรจาได้เปรียบหรือเสียเปรียบพื้นที่เหล่านั้น จะต้องไม่มีใครเอาเปรียบประเทศไทย” นายปานเทพ กล่าว.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]