“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร


เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี เบื้องต้นทางหัวหน้าพรรคจะประเมิน เพื่อเรียนต่อนายกฯ แต่สุดท้ายคนที่ประเมินจริงๆคือพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องแลกกระทรวงนายอนุทินพอใจกระทรวงไหนถึงจะยอมแลกกับกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่มี อะไรที่ตกลงไปแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น


เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะไม่ยอมแน่นอนกับการเปลี่ยนกระทรวง นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกับยอมหรือไม่ยอม เพราะเป็นข้อตกลง

“พรรคภูมิใจไทย อยู่ดีๆ ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล อย่าลืมว่าเรามาตามคำเชิญของพรรคเพื่อไทย จำได้หรือไม่ วันที่ไปกินช็อกมิ้นต์เราก็ไป พรรคเพื่อไทยเชิญมาเกือบจะออกจากตึกไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะถูกปิดล้อมจากผู้ชุมนุม กดดันน่าดูเหมือนกันกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เราก็ผ่านร้อนผ่านหนาวต่อสู้ทำงานตอบสนองนายกฯ มาแล้ว 2 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกฯ ท่านปัจจุบัน พรรคภูมิใจไทย มีความเต็มใจ ยินดี อยากจะสนับสนุนให้ท่านประสบความสำเร็จในความเป็นนายกฯในสมัยนี้ให้สุด การทำงานความสัมพันธ์ ความผูกพันกับท่านนายกฯแพทองธาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตนก็เป็นความสัมพันธ์ที่เคารพนับถือให้เกียรติกัน ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ในการทำงาน เรื่องของผลงานต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทยก็มีให้เห็นหลายเรื่อง หลายๆ อย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงการโพสต์ข้อความพร้อมภาพให้กำลังใจนายกฯ ในเฟซบุ๊ก นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เราอยู่ในสภาวะที่มีความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการตัดสินใจหลายๆ อย่างต้องมาจากนายกฯ การโพสต์รูปเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมสนับสนุนนายกฯให้มีกำลังใจ มีความมั่นใจว่า ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจในทางไหนก็ตามในการรับมือกับสถานการณ์บริเวณชายแดน กระทรวงมหาดไทยและส่วนงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่จะปฏิบัติและสนับสนุนในทุกรูปแบบ


เมื่อถามว่าช่วงที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะทวงคืนกระทรวงมหาดไทยได้มีการพูดคุยกับนายกฯหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ปกติใช้วิธีไลน์กัน ยกเว้นมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็จะโทรศัพท์คุยกัน

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องการปรับ ครม. ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มีเลยครับ”

เมื่อถามว่า ช่วงที่มีกระแสข่าวเยอะๆนายกฯได้ให้ความมั่นใจกับนายอนุทินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ให้ความมั่นใจ ”

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ให้ความมั่นใจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า “เนี่ยทำงานกันไม่ได้แล้ว รัฐมนตรีทั้งหลายที่เป็นข่าวก็ไม่มีความมั่นใจ ไอ้ตรงนั้นไม่เท่าไหร่หรอกรัฐมนตรี แต่ที่แย่คือ กลัวข้าราชการจะไม่มีความมั่นใจ และงานจะเดินไม่ได้ หากทำไปจะถูกกล่าวหาว่าถูกต้องหรือเปล่า เป็นเด็กคนนั้นคนนี้อะไรหรือเปล่า มันมีสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ต่อประชาชน ซึ่งในส่วนนี้นายกฯก็ให้ความมั่นใจกับครม. ท่านพูดในที่ประชุมครม. ท่านลงมาแถลงกับสื่อมวลชน จริงๆ ก็ไม่ควรถามเรื่องนี้กันแล้วเราได้ฟังจากนายกฯชัดเจนว่าท่านยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับครม. ก็ไม่ทราบว่าใครที่ยังไม่หยุดเรื่องพวกนี้ พวกผมก็ต้องเชื่อนายกฯ ถ้าผมไม่เชื่อก็ทำงานไม่ได้ ถ้ามัวแต่ห่วงเก้าอี้ กลัวว่าจะหลุดไปไหนก็คงไม่ไปเมืองนอก นั่งเฝ้าท่านนายกฯ อย่างเดียว ซึ่งมันไม่ใช่แน่นอน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า กระแสข่าวการนัดกินข้าวระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติในวันที่ 8 มิ.ย. ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายอนุทิน ปฏิเสธว่า ไม่มีการนัดกินข้าวกัน มีแต่นัดทำงาน พรรครวมไทยชาติกับพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันทำงาน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของค่าไฟฟ้า และตนนั่งประชุมครม. ติดกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และได้พบกับนายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่มานั่งคุยกันในเรื่องของภาคการผลิตไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตอยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงภาคการใช้งาน คือ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นนโยบายของนายกฯในการลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน เห็นว่า ถึงเวลาควรจัดเวิร์คช็อป เพื่อหาวิธีทางในการลดค่าไฟฟ้าให้ตอบรับกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นการคุยกันระหว่างสองพรรคตามที่เป็นข่าว และได้มีการตกลงว่าหากมีการนัดวันเวิร์กชอป เรียบร้อยจะมีการเชิญนายกฯ มาเป็นประธานในการเปิดสัมมนาเวิร์กชอปด้วย ซึ่งขณะนี้คาดว่าจดหมายเชิญได้ส่งไปถึงกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงมหาดไทย เพียงแต่ยังไม่ได้ตอบรับจะจัดเวิร์คช็อปในวันไหน ส่วนการนัดกินข้าวก็กินกันตลอดอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าในวันที่ 8 มิ.ย. จะมีการนัดกินข้าวที่สโมสรราชพฤกษ์ นายอนุทิน กล่าวว่า พรุ่งนี้ยังไม่มี ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังไม่มี ไปทานกันมาแล้ว แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการปรับ ครม. คุยกันแค่เรื่องงาน

เมื่อถามว่า กระแสข่าวจะเป็นการจับมือกัน ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติในการต่อรองกับพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ย้อนถามว่า ทำไมดูถูกพรรคการเมือง ดูถูกรัฐมนตรี ดูถูกหัวหน้าพรรค ของพวกนี้ไม่มีการต่อรอง การต่อรองจบไปตั้งแต่เดือน ก.ค.66 แล้ว อย่าใช้คำว่าต่อรองเลย มีข้อตกลงกันแล้ว ปล่อยให้พวกเราได้ทำงานอีก 2 ปีก็จะหมดวาระแล้ว

เมื่อถามว่า ได้เห็นข่าวที่ สส.พรรคภูมิใจไทย เสนอสูตรการเกลี่ยกระทรวงใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน สส.พรรคภูมิใจไทย สรุปในที่ประชุมกันหมดแล้ว ว่าคนที่จะให้ข่าวเรื่องปรับ ครม. ได้คือหัวหน้าพรรคเท่านั้น แต่ถ้าในเรื่องของพรรคเป็นหน้าที่ของเลขาธิการพรรค ถ้าได้ยินข่าวที่ไม่ได้มาจากหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค และโฆษกพรรค ถือว่าไม่เป็นความจริง เชื่อถือไม่ได้

เมื่อถามว่า หากสุดท้ายแล้วมีชื่อหลุดจากเก้าอี้ รมว.มหาดไทย จะเป็นอย่างไรต่อไป นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมความคิดนี้ไว้ เพราะมันเกิดขึ้นไม่ได้.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย