นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย ว่า ไม่อยากให้เกิดกระแส หรือการปลุกปั่นว่า รัฐบาลกับกองทัพมีปัญหากัน ซึ่งความจริงแล้วไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น มีแต่การสนับสนุนกันอย่างดี และมีการเคลียร์กันว่าอำนาจหน้าที่ เนื้องานเป็นอย่างไรใครจะตัดสินใจ


ส่วนเรื่องการเจรจา และรายละเอียดอาจจะไม่ได้ให้รายละเอียดทั้งหมด แต่ขณะนี้ยืนยันว่ามีความเข้าใจ และยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายมากขึ้น ขณะนี้ ทางกองทัพก็ ยืนยัน มีการจำกัดวงเพื่อไม่ให้ขยายความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุนอยู่แล้ว

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่หากเปรียบว่าเป็นบ้านจันทร์ส่องหล้า หรือ บ้านของนายกรัฐมนตรีเองมีคนมารุกราน นายกฯ จะแก้ปัญหาอย่างไรให้รวดเร็วกว่านี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) มีการพูดคุยกันแล้ว แต่รายละเอียดต้องเคารพทั้งสองฝ่ายว่าสามารถให้ข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน เพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจา เข้าใจว่าสื่อมวลชนอยากได้เนื้อข่าว แต่การพูดคุยของทั้งสองฝ่ายโอเคทั้งหมด

ขณะเดียวกันกองทัพก็ยืนยันแล้วว่ามีความพร้อมทุกรูปแบบ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งกองทัพทราบอยู่แล้วว่าเหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร ถึงเวลาที่ต้องปะทะหรือยัง และเป็นการตัดสินใจของกองทัพจะเป็นคนประเมินหน้างาน ว่าถึงขั้นที่ต้องปะทะหรือไม่ แต่หากยังไม่จำเป็น การที่จะปะทะไปจะเกิดความเสียหาย มากกว่าแรงเชียร์ที่ต้องการให้เกิดการปะทะ พร้อมย้ำว่าต้องใช้สันติวิธีให้ได้มากที่สุด


“ยืนยันว่า ไม่มีใครช้าในเรื่องนี้ ทุกคนทำกันหมดแหละคุยกันหมดแล้ว อยู่ที่ว่าจะฟังส่วนไหนไม่ฟังส่วนไหนมากกว่า และรัฐบาลก็มีการออกแถลงการณ์ไปสองฉบับในการดำเนินการและแนวทางที่ประเทศไทยจะไปต่อ” นายกฯ ระบุ

ด้านนายภูมิธรรม ย้ำว่า เรายังคงยืนยันในหลักการปกป้องอธิปไตย และดำรงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ โดยการพูดคุยวันนี้หลักการสำคัญมีอยู่สามด้าน คือ การต่างประเทศ กองทัพและการสื่อสาร ซึ่งจะมีการปรับให้ชัดเจนขึ้นเพื่อให้เกิดการร่วมกันทำงาน ก่อนยืนยันว่ากองทัพพร้อมที่จะรักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ และบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งได้มีการพูดคุยเป็นเนื้อเดียวกัน

โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นเจ้าภาพหลักในการชี้แจงเรื่องนี้ และจะประสานกับโฆษกกระทรวงกลาโหม กองทัพบก และดีอี เพื่อไม่ให้บรรยากาศการเจรจาหรือการหาข้อสรุปเกิดขึ้นยากลำบาก

พร้อมกล่าวย้ำว่า สมช. เห็นพ้องกันว่าอธิปไตยถือเป็นเรื่องสำคัญหลักที่ต้องดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆจะประคองให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ให้เกิดการเสียประโยชน์ทั้งประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด ที่จะมีภาระความจำเป็นต่อเนื่องกันอีก อย่างเรื่อง ยาเสพติด ไซเบอร์ จึงอยากให้ความขัดแย้งจำกัดวงให้ได้มากที่สุด

ด้าน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนของการต่างประเทศและการทหารต้องไปด้วยกันเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทั้งสองประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาอย่างยาวนาน และเห็นพ้องกันว่าการเจรจา กับฝ่ายกัมพูชา ต้องใช้กลไกที่มีอยู่ ในปัจจุบัน เป็นหลัก คือทวิภาคี และเป็นสิ่งที่ผู้นำสองฝ่ายได้พูดคุยกันตั้งแต่ต้น คือใช้กลไกคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว ทั้ง JBC RBC หรือ GBC ที่เป็นกลไกหลักในขณะนี้ และเป้าหมายของการเจรจาในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ระหว่างคณะกรรมการร่วมสองฝ่ายจะต้องเน้น เรื่องของจุดปะทะ เพื่อแก้ปัญหาการกระทบกระทั่งกันเป็นหลัก เรื่องอื่นๆเราจะยังไม่ให้ความสำคัญ จะพูดเรื่องของการแก้ปัญหาที่มีการเผชิญหน้า และลดความตึงเครียด ในกรอบของกำลังทหารร่วมกัน ให้เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่ง JBC มีหน้าที่อยู่แล้ว ที่จะเจรจาเรื่องเขตแดน เพราะฉะนั้นจะดำเนินการไปพร้อมกัน แต่สิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือการพูดคุยลดความรุนแรง ลดบรรยากาศ ที่จะมีการกระทบกระทั่งกัน เป็นหลัก

ส่วนการชี้แจง จะมีการประสานความร่วมมือกันกับกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพบก ร่วมกับกระทรวงกลาโหม เพื่อให้การสื่อสารแก่ประชาชนให้เข้าใจ ทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมระบุว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องข่าวสาร มากยิ่งขึ้นกว่านี้ ยืนยันว่า การทหารและการต่างประเทศไปด้วยกันอย่างแน่นอน

ขณะที่พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ประเด็นแรกได้เน้นย้ำว่ากองทัพสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยสันติวิธี เป็นเรื่องแรก

ส่วนเรื่องที่ 2 กองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการรักษาอธิปไตย และคุ้มครองปกป้องประชาชนตามแนวชายแดนซึ่งได้ดำเนินการมาตลอด

เรื่องที่ 3 ได้ยืนยันว่าในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพวันนี้ เป็นการประชุมตามวงรอบปกติ ทุก 2 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการพูดคุยเรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชาด้วย ในลักษณะที่สนับสนุนแนวทางของรัฐบาลและแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ได้ประชุมกันวันนี้ และเพื่อความโปร่งใสหลังการประชุมเสร็จ จะมีเอกสารการแถลงข่าวออกมาว่าสิ่งที่คุยกันวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนที่ไม่ได้เชิญสื่อมวลชน เพราะเป็นการทำงานแบบมืออาชีพ และอยากให้เป็นการสื่อสารในแนวทางเดียว คือกระทรวงต่างประเทศ รัฐบาล กระทรวงกลาโหมและกองทัพ และตนในฐานะผู้ปฏิบัติงานขอสงวนการให้ข้อมูลในเรื่องนี้

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินออกจากวงแถลงข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามว่า จะให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปพูดคุยกับ กัมพูชาด้วยหรือไม่ โดยรัฐมนตรี มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้ตอบคำถามก่อนจะขึ้นรถกอล์ฟ กลับไปปฏิบัติงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกภารกิจการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (6 มิ.ย.) จากเดิมมีวาระการประชุมในเวลา 10:00 น. และเลื่อนเป็น 11:00 น. จนกระทั่งมีการแจ้งยกเลิกเนื่องจากนายกเข้าร่วมประชุมกับ สมช..-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย

Delayed flights at Brussels airport after cyberattack disrupts operations

เหตุโจมตีไซเบอร์ป่วนสนามบินในยุโรป

ลอนดอน 20 ก.ย. – สนามบินในยุโรปหลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ต่อระบบเช็กอินและการขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกบางส่วน ขณะที่สหรัฐมีเหตุขัดข้องที่สนามบินในเมืองดัลลัส ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษแจ้งเตือนเรื่องเที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากบริษัทคอลลินส์ แอโรสเปซ (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็คอินและขึ้นเครื่องให้กับสายการบินหลายสายในสนามบินหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเทคนิค ซึ่งอาจกระทบต่อผู้โดยสารขาออก   ขณะที่ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ของเบลเยียมแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้การเช็คอินและขึ้นเครื่องด้วยระบบมือเท่านั้น ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกำหนดตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางในวันเสาร์ตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางไปยังสนามบิน ด้านท่าอากาศยานเบอร์ลินของเยอรมนีแจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการระบบเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ส่งผลให้การเช็คอินต้องใช้เวลานานขึ้น แต่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและท่าอากาศยานซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอลลินส์ แอโรสเปซแจ้งว่า ทราบเรื่องซอฟต์แวร์ที่สนามบินบางแห่งมีปัญหาที่เกี่ยวกับไซเบอร์แล้ว แต่ไม่ได้ระบุชื่อสนามบินเหล่านั้น ส่วนที่สหรัฐองค์การบริหารการบินแห่งชาติหรือเอฟเอเอ (FAA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาออกมากกว่า 1,800 เที่ยวที่สนามบิน 2 แห่งของเมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น และต้องยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว หลังจากระบบโทรคมนาคมเกิดปัญหาขัดข้อง เอฟเอเอระบุว่า ปัญหาการจราจรล่าช้าเกิดจากอุปกรณ์ของบริษัทโทรคมนาคมท้องถิ่นมีปัญหา ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของเอฟเอเอ และเอฟเอเอได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]