ยื่นศาล​ รธน.​ถอดถอน “พิเชษฐ์” พ้นรอง ปธ.สภาฯ เปิดหลักฐานส่อทุจริต

พรรคประชาชน 6 มิ.ย.- “ภัณฑิล” เดินหน้ายื่นศาล​ รธน.​ถอดถอน “พิเชษฐ์” พ้นรองประธานสภาฯ เปิดหลักฐานส่อทุจริต ตั้งงบไปใช้ในเขตตัวเอง จัด 3 โครงการสัมมนาเกือบ 3 พันครั้งต่อปี แล้วโยกงบมาซ่อมสภา เจตนาใช้ภาษีประชาชนส่อขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 แถมปี 69 ยังของบซ้ำแบบเดิมอีกเกือบ 600 ล้าน


นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณียื่นเรื่องถอดถอน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 สืบเนื่องจากการอภิปรายร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569​ โดยระบุว่านายพิเชษฐ์ มีพฤติกรรมลักษณะ ตั้งใจเอางบประมาณแผ่นดินไปแจกจ่ายกลุ่มเป้าหมายฐานเสียงของตนเองและพวกพ้องในรูปแบบการแจกทุนหรือเงินสนับสนุนโครงการ ให้ประชาชนโดยตรง โดยได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาคณะทำงาน ยกร่าง 4 โครงการ เมื่อเดือนตุลาคม 2566 คือ​ โครงการสภาผู้แทนบรรเทาทุกข์และความจำเป็นเร่งด่วน โครงการ พัฒนาศักยภาพประชาชนในระบอบประชาธิปไตย โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และโครงการส่งเสริมความมั่นคงอาชีพสตรี มูลค่ารวม 443 ล้านบาท ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ได้เห็นชอบ แต่สร้างความหนักใจ ให้ฝ่ายข้าราชการสำนักนโยบายและแผนจึงได้ขอความเห็น สำนักกฎหมายและสำนักการคลังของสภา ซึ่งเห็นว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถทำได้เพราะขัดต่อข้อกฎหมายหลายข้อ อาทิ ไม่ มีรายละเอียด การใช้งบประมาณ และการกำหนดกิจกรรมโครงการหรือตัวชี้วัด ไม่เป็นไปตามระเบียบ การเบิกจ่าย ฝ่ายข้าราชการ จึงกลัวและเขียนดักคอไว้ ขณะที่สำนักกฎหมายของสภาพิจารณาว่าไม่ได้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของสภา ขัดต่อพ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง2561 และขัดพ.ร.บ. วิธีงบประมาณ 2561รวมทั้งสุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ 185 ที่มี เจตนารมณ์ ไม่อยากให้สส.เข้าไปมีส่วนร่วมในการเสนอแปรญัตติหรือกระทำการใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกัยการใช้งบประมาณรายจ่าย และได้มีการแจ้งให้นายพิเชษฐ์รับทราบ ว่าหากยืนยันจะเสนอ จะต้องปรับแก้ไขรายละเอียดโครงการให้อยู่ภายใต้ขอบเขตหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปลี่ยนเป็นโครงการอบรมสัมมนา นายพิเชษฐ์จึงสั่งให้คณะทำงานปรับ เป็นรูปแบบโครงการสัมมนา 3 โครงการคือโครงการ พัฒนาศักยภาพเยาวชน มี 7 โครงการย่อย จัดสัมมนาประมาณ 800 ครั้งเป้าหมาย 80,000 คน โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน มี 2 โครงการย่อย ประมาณ 600 ครั้ง โครงการส่งเสริมบทบาทสตรีทางการเมือง กว่า 800 ครั้งมีผู้เข้าร่วมกว่า 40,000 คน และในโครงการมีความแปลกประหลาด หลายอย่าง ซึ่งเป็นการตั้งเป้าให้สูงจนเป็นไปไม่ได้ 2,294 ครั้ง ในเวลา 1 ปี ถ่ายใต้งบประมาณ 350 ล้านบาท แต่สุดท้ายคณะรัฐมนตรี ตัดงบ เหลือ 83 ล้านบาทแต่นายพิเชษฐ์ยังขอแปรงบเพิ่มสุดท้ายได้มา 178 ล้านบาท

นายภัณฑิล กล่าวอีกว่าเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วนายพิเชษฐ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการเพื่อกำกับดูแลและเห็นชอบการจัดโครงการโดยให้มีตัวเองและเพื่อนสส.พรรคเดียวกันจังหวัดเดียวกันเขตติดกันเป็นกรรมการ และเริ่มให้ประชาชนส่งคำขอเพื่อเริ่มใช้งบ ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าแบบฟอร์มในการขอ พิมพ์ในลักษณะเดียวกัน แต่ละโครงการมาจากจังหวัดเชียงราย ลายมือคล้ายกัน และเมื่อนำงบประมาณมาหารเฉลี่ย พบว่ายังต้องจัดสัมมนามากกว่า 1,300 ครั้งต่อปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้


นายภัณฑิล สรุปว่าการของบดังกล่าวเหมือนทราบอยู่แล้วว่าไม่สามารถดำเนินโครงการได้ จึงชี้ว่าเหมือนเป็นความตั้งใจโยกงบไปใช้ในโครงการอื่นตั้งแต่แรกเป็นเพียงการของบเผื่อไว้ก่อน โดยจะได้ไม่ต้องผ่านครม.ไม่ต้องผ่านขั้นตอนพ.ร.บ.งบประมาณปกติ และเปิดหลักฐานว่าจะทำโครงการ ปรับปรุงพื้นที่ ภูมิทัศน์ภายในและภายนอกอาคารรัฐสภา​ ทั้งทำน้ำพุสนามหญ้า​ ทางเดิน​ ไฟส่องสว่าง​ ห้องครัว โดยโยกงบโครงการอบรมสัมมนาที่มีอยู่ทั้ง 3 โครงการมาใช้แทน พร้อมมีข้อสังเกตว่า สำนักรักษาความปลอดภัยและสำนักอาคารสถานที่ซึ่งเป็นงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายพิเชษฐ์ที่ทำเรื่องขอโยกงบจากโครงการอบรมสัมมนามาใช้

นายภัณฑิล ยังระบุอีกว่า ในการจัดทำงบประมาณปี 2569 มีการขอมาในลักษณะดังกล่าว เพิ่มเป็น 594 ล้านบาทจากที่เคยขอ 350 ล้านบาทในงบประมาณปี 2568 ซึ่งจะต้องจัดสัมมนา 2,800 ครั้งใน 1 ปี และยังมีลักษณะเป้าหมายลงในพื้นที่ตัวเองและโยกงบไปทำอย่างอื่น เหมือนเช่นเดิม พรรคประชาชน จึงจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัย​ถอดถอนนายพิเชษฐ์ออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายการกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสอง ที่ห้ามไม่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อเข้าไปมีส่วนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดเรื่องจริยธรรม แต่เป็นเรื่องของการทุจริต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสารคาดว่าจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ภายในสัปดาห์หน้า​ ส่วนที่เคยบอกพ่อจะยื่นต่อป.ป.ช. นั้นกระบวนการต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งเห็นว่ามีผู้ได้รับผลกระทบเยอะจึงต้องรีบจัดการ

“ ผมอยากรู้เหมือนกันว่าศาลรัฐธรรมนูญจัดวินิจฉัยอย่างไร เพราะขณะนี้สังคมตัดสินไปแล้ว การใช้งบประมาณแบบนี้ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ทุจริตเอางบลงตัวเอง ฝ่ายนิติบัญญัติเรามีหน้าที่ในการออกกติกา ตรวจสอบงบประมาณ เราชงเองตบเองไม่ได้ เอาเงินเข้าเขตตัวเองแล้วก็มาแจกเงินจัดงาน เจตนาคือต้องการจะมีงบกลางของตัวเองเอาไว้ใช้ เงินภาษีจากประชาชนท่านจะเอาไปใช้แบบนี้ไม่ได้ ตั้งงบไว้แล้วเหลือติดก้นถุง” นายภัณฑิลกล่าว


นายภัณฑิล กล่าวว่า นายพิเชษฐ์พยายามจะนัดไปเดินสำรวจอาคารรัฐสภา แต่ไม่ได้ไป เราไม่เห็นถึงความจำเป็น และหลังการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณปี 2569 นายพิเชษฐ์ ได้เดินมาหา พยายามที่จะมาพูดคุยด้วยแต่ก็มีเพื่อนส.สเยอะจึงไม่ได้คุยอะไรกันและไม่ได้มีความพยายามติดต่อหลังไมค์มาพูดคุยด้วยอีก.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]