“อภิสิทธิ์” ยันกม.กาสิโน ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นท่องเที่ยว

รัฐสภา 5 มิ.ย.- “อภิสิทธิ์” ยันกม.กาสิโน ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นท่องเที่ยว-ดึงสิ่งผิดกม.ขึ้นบนดิน เทียบกรณีหวยใต้ดิน งงทำไมมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างเดียวไม่ได้ ไม่เชื่อว่าไม่มีกาสิโนแล้วคนไม่มา ห่วงจีนส่งสัญญาณห้ามเที่ยวไทย เหตุผิดกม.จีน พร้อมท้วงผลศึกษารายได้ยังไม่หักผลเสีย


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิเสภา โดยยืนยันมีจุดยืนชัดเจนกับเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่เป็นรัฐบาล มีการเสนอเรื่องนี้เข้ามา แต่ก็ปฏิเสธด้วยเหตุผล คือเราสัมผัสได้ถึงอันตรายจาดคนที่ไปเกี่ยวข้องกับการพนัน ส่วนที่รัฐบาลชุดนี้มองธุรกิจเป็นโอกาส เราก็พบความเป็นจริงว่า การประกอบธุรกิจแบบนี้แม้จะทำให้ถูกกฎหมาย ก็ไม่สามารถลดในส่วนที่ผิดกฎหมายได้ เพราะการเอาขึ้นมาบนดินต้องมีกฎกติกากำกับ ในขณะที่ธุรกิจผิดกฎหมายไม่ต้องมี ดังนั้นหากจะมองเป็นเรื่องสินค้าและบริการจะได้เปรียบและเสียเปรียบกันอยู่ ยกตัวอย่างการมีล็อตเตอรี่กับหวยใต้ดิน อีกทั้งฝ่ายบริหารกำหนดผู้เล่นว่าต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท ในเวลา 6 เดือน จำนวนคนที่ไปเล่นก็จะน้อยลง หากเป็นในแนวทางนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการนำสิ่งผิดกฎหมายขึ้นมาบนดินแน่นอน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าในส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลมักจะยกตัวอย่างสิงคโปร์ แต่เวลาเราไปจับแหล่งอาชญากรรมหรือการฟอกเงินก็มักจะพบว่าแถวนั้นมีคาสิโนอยู่ใกล้เคียงเสมอ และที่บอกว่าให้เอาตัวเลขการท่องเที่ยวของสิงคโปร์มาเทียบ ถามจริงๆว่าเทียบกับประเทศไทยได้จริงหรือ พร้อมย้ำว่า สามารถมีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์โดยไม่มีคาสิโนได้ ดังนั้นการรัฐบาลบอกว่าไม่มีคาสิโน แล้วบอกว่าสถานบันเทิงไม่มีทางเกิดนั้น ทำไมไม่ลองออกกฎหมายโดยไม่มีกาสิโน


“ถ้าไม่มีกาสิโนแล้วลองออกกฎหมายให้ สิทธิพิเศษกับธุรกิจอื่น ผมไม่เชื่อว่าจะไม่มีการลงทุนเรื่องนี้ เพราะทุกวันนี้ผมก็เห็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยว โดยฝีมือมนุษย์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ตลอดเวลา อยู่ว่างๆ นั่งดูยูทูปฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย จะพบว่ามีของใหม่ๆ ที่เราสร้างขึ้นเป็นแหล่งดึงดูด เขาก็เผยแพร่ทั่วตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนจากกาสิโน ที่สำคัญในที่สุดหากถามว่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากกาสิโนในด้านเศรษฐกิจจนเรียกร้องให้มีการศึกษา เพราะถ้าเราเอาตัวเลขของภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการมา เวลาที่บอกว่ามีแหล่งช้อปปิ้งใหม่เกิดขึ้นระดับใหญ่โต รายได้จะมีเท่านี้เท่านั้น หรือว่ารายได้ทั้งหมดนั้นที่เกิดขึ้นเป็นรายได้ใหม่ ไม่เป็นรถรายได้ของศูนยังค้าที่มีอยู่ปัจจุบันหรือ ดังนั้นผลประกอบการที่ได้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศทั้งหมด เพราะผมไม่เชื่อว่า ถ้าไม่มี จะไม่มาเมืองไทย เลย ต้องถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีปัญหาว่าอุปทานไม่พอจริงหรือ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธว่าบางกรณีอาจจะเป็นสินค้าใหม่ แต่จะบอกว่าใหม่ โดยไม่ทดแทนของเก่าเลยก็ไม่ใช่ เพราะ ทรัพยากรที่เข้าไปหมุนเวียนไม่ได้เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เปลี่ยนเวย์มาจากที่อื่น ซึ่งยังไม่นับรวมว่าโครงการที่จะเกิดขึ้น ทรัพยากรที่รัฐจะต้องใช้ของรัฐ ซึ่งขณะนี้ตนฟังดูน่าจะชัดเจนแล้วว่า จะต้องไปตั้งพื้นที่ของรัฐ ก็ต้องถามว่า แล้วที่ของรัฐเหล่านั้น ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ก็ต้องคำนวณด้วยว่าต้องสูญเสียไป เช่น ถ้าเคยมีท่าเรืออยู่ ถ้าเอาออกไป จะบอกว่าตรงนี้มีรายได้เท่านี้ ก็ต้องถามว่าสิ่งที่ท่าเรือเคยสร้างรายได้ ก็ต้องไปหักเช่นกัน แต่ถ้าไปเอารายงานของผู้ประกอบการ เขาไม่คำนวณเรื่องพวกนี้ แต่รัฐบาลเป็นผู้บริหารประเทศต้องคำนึงถึงตรงนี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นรายได้กาสิโน ถ้าอ้างเรื่องการสร้างงาน มีแน่ แต่สร้างอย่างอื่นก็มีเช่นกัน และงานที่จะถูกสร้างขึ้นในตัวกาสิโน ก็ไม่ใช่เป็นตำแหน่งงานที่มีคุณภาพสูงหรือเป็นจำนวนมาก หรือมีหลักประกันว่าจะไม่เป็นคนต่างชาติอีก แต่เอากาสิโนอยู่ในสถานประกอบการอื่น ตนก็ยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวมาได้โดยไม่มีกาสิโน ถ้าเราได้แรงจูงใจที่ดีพอ ส่วนภาษีที่เก็บได้ เป็นประโยชน์ที่จะเข้าสู่รัฐและได้มาจากรายได้ของตัวกาสิโนนั้น รายงานที่ตนดูและศึกษาเรื่องนี้น่าจะมีเพียงร้อยละ 20 จากต่างชาติและคนไทย ร้อยละ80 หากนับรวมภาษีที่รัฐบาลจะจัดเก็บได้น่าจะน้อยกว่าเรื่องอื่นที่อยู่นอกกาสิโน และตอนนี้ผู้ประกอบการที่เข้ามาเริ่มเคลื่อนไหวอยู่ในนี้ ส่งสัญญาณแล้วว่าถ้าอยากให้มา อัตราภาษีต้องแข่งขันกับที่อื่นได้ ก็แปลว่าเก็บภาษีสูงก็ไม่ได้อีก และอ่านจากกฎหมายก็น่าจะเก็บค่อนข้างต่ำด้วยซ้ำ ทั้งที่ตัวนี้เป็นประโยชน์ และถามว่าส่วนที่เก็บจากคนไทยที่เข้าไปเล่น ถ้าคิดในเชิงรายได้ต้องถามว่าเงินตัวนี้มาจากไหน มาจากคนที่เข้าไปเล่นแล้วเสีย ซึ่งถ้าประเมินประมาณร้อยละ 20 ภาษีเกิดขึ้นจากคนที่เล่นเสียเอามาให้คนที่ได้ จึงอยากให้ตระหนักในเรื่องเหล่านี้


นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตนไม่ได้มองว่าเมืองไทยมีความจำเป็นต้องนำกาสิโนมาเป็นตัวดึงดูดให้คนท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปด้วย ยิ่งถ้าเปิดหลายแห่งเปิดหลายเมืองก็ยิ่งกระทบ และถ้าจำได้ วันที่ผู้นำไทยไปเยือนจีนเป็นเรื่องแปลกที่ผู้นำจีนเอ่ยเรื่องนี้มา เพราะจีนมีกฎหมายที่บอกว่าคนจีนจะไปเล่นการพนัน ที่อื่นก็ผิดกฎหมายจีน หมายความว่าจีนไม่สนับสนุนให้คนจีนเล่นการพนัน ไม่ว่าที่ไหนก็ตามและปัญหาก็คือว่าเวลามีท่าทีเหล่านี้ ก็จะไม่จำแนกแยกแยะว่า คนจีนมาเล่นการพนันหรือมาท่องเที่ยว แต่อาจจะมีการสนับสนุน ไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนมีประมาณหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้นถ้าจะคำนวณว่ากาสิโนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ต้องมาหักลบตรงนี้ด้วย และคำถามก็คือว่าจะคุ้มกันหรือไม่

“ผมขอพูดเป็นประเด็นสุดท้ายว่าเวลาพูดถึงข้อดีหรือพูดถึงการป้องกันข้อเสียต่าง ๆ มันจะทุกอย่างไม่ได้ อย่างตัวเลขที่ผมอ้างถึงว่ามีการศึกษามาแล้ว อย่างกรณีของคณะกรรมการวิสามัญก็บอกแล้วว่าในที่สุดรายได้ของกาสิโนที่เข้ามาเมืองไทยเกือบ80%ตัวเลขที่น่าตื่นเต้นที่สุดเข้าใจว่าทำโดยซิตี้แบงก์ อาจจะเกิดรายได้ ปีละ สามแสนล้านบาท ซึ่งถ้าเราเก็บภาษีสัก ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ใหญ่พอสมควร แต่ท่านต้องไปดูว่าสมมติฐานนั้น บอกว่ารายได้มาจากไหน เขาบอกว่ารายได้ส่วนใหญ่เลย ไปดูตารางมาจากการเปิด กาสิโนที่กรุงเทพฯ และที่ อีอีซี สมมติฐานของประชากรที่อยากเข้าไปเล่น กรุงเทพฯ ประมาณห้าล้านคนเล่นปีละสามครั้ง เพราะฉะนั้น ผมตั้งสมมติฐานกลับมาว่าจะมีคนไทยเข้าไปเล่นวันละ 40,000 คน ดังนั้นถ้าจะบอกว่าอยากได้เยอะๆ ไม่ต้องกลัว คนจะเข้าไปเล่นเยอะๆ มันเป็นไปไม่ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะเรียนว่ายิ่งเห็นตัวเลขเหล่านี้ ผมก็ยัง ยืนยัน ยืนยันความเชื่อและเหตุผลที่มีมาตลอด 30 กว่าปีที่เข้ามาทำงานการเมือง ว่าผลได้จากนโยบายนี้ไม่น่าจะคุ้มกับผลเสียและความเสี่ยงที่จะตามมาอีกมากมาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]