“อภิสิทธิ์” ยันกม.กาสิโน ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นท่องเที่ยว

รัฐสภา 5 มิ.ย.- “อภิสิทธิ์” ยันกม.กาสิโน ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นท่องเที่ยว-ดึงสิ่งผิดกม.ขึ้นบนดิน เทียบกรณีหวยใต้ดิน งงทำไมมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างเดียวไม่ได้ ไม่เชื่อว่าไม่มีกาสิโนแล้วคนไม่มา ห่วงจีนส่งสัญญาณห้ามเที่ยวไทย เหตุผิดกม.จีน พร้อมท้วงผลศึกษารายได้ยังไม่หักผลเสีย


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิเสภา โดยยืนยันมีจุดยืนชัดเจนกับเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่เป็นรัฐบาล มีการเสนอเรื่องนี้เข้ามา แต่ก็ปฏิเสธด้วยเหตุผล คือเราสัมผัสได้ถึงอันตรายจาดคนที่ไปเกี่ยวข้องกับการพนัน ส่วนที่รัฐบาลชุดนี้มองธุรกิจเป็นโอกาส เราก็พบความเป็นจริงว่า การประกอบธุรกิจแบบนี้แม้จะทำให้ถูกกฎหมาย ก็ไม่สามารถลดในส่วนที่ผิดกฎหมายได้ เพราะการเอาขึ้นมาบนดินต้องมีกฎกติกากำกับ ในขณะที่ธุรกิจผิดกฎหมายไม่ต้องมี ดังนั้นหากจะมองเป็นเรื่องสินค้าและบริการจะได้เปรียบและเสียเปรียบกันอยู่ ยกตัวอย่างการมีล็อตเตอรี่กับหวยใต้ดิน อีกทั้งฝ่ายบริหารกำหนดผู้เล่นว่าต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท ในเวลา 6 เดือน จำนวนคนที่ไปเล่นก็จะน้อยลง หากเป็นในแนวทางนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการนำสิ่งผิดกฎหมายขึ้นมาบนดินแน่นอน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าในส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลมักจะยกตัวอย่างสิงคโปร์ แต่เวลาเราไปจับแหล่งอาชญากรรมหรือการฟอกเงินก็มักจะพบว่าแถวนั้นมีคาสิโนอยู่ใกล้เคียงเสมอ และที่บอกว่าให้เอาตัวเลขการท่องเที่ยวของสิงคโปร์มาเทียบ ถามจริงๆว่าเทียบกับประเทศไทยได้จริงหรือ พร้อมย้ำว่า สามารถมีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์โดยไม่มีคาสิโนได้ ดังนั้นการรัฐบาลบอกว่าไม่มีคาสิโน แล้วบอกว่าสถานบันเทิงไม่มีทางเกิดนั้น ทำไมไม่ลองออกกฎหมายโดยไม่มีกาสิโน


“ถ้าไม่มีกาสิโนแล้วลองออกกฎหมายให้ สิทธิพิเศษกับธุรกิจอื่น ผมไม่เชื่อว่าจะไม่มีการลงทุนเรื่องนี้ เพราะทุกวันนี้ผมก็เห็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยว โดยฝีมือมนุษย์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ตลอดเวลา อยู่ว่างๆ นั่งดูยูทูปฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย จะพบว่ามีของใหม่ๆ ที่เราสร้างขึ้นเป็นแหล่งดึงดูด เขาก็เผยแพร่ทั่วตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนจากกาสิโน ที่สำคัญในที่สุดหากถามว่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากกาสิโนในด้านเศรษฐกิจจนเรียกร้องให้มีการศึกษา เพราะถ้าเราเอาตัวเลขของภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการมา เวลาที่บอกว่ามีแหล่งช้อปปิ้งใหม่เกิดขึ้นระดับใหญ่โต รายได้จะมีเท่านี้เท่านั้น หรือว่ารายได้ทั้งหมดนั้นที่เกิดขึ้นเป็นรายได้ใหม่ ไม่เป็นรถรายได้ของศูนยังค้าที่มีอยู่ปัจจุบันหรือ ดังนั้นผลประกอบการที่ได้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศทั้งหมด เพราะผมไม่เชื่อว่า ถ้าไม่มี จะไม่มาเมืองไทย เลย ต้องถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีปัญหาว่าอุปทานไม่พอจริงหรือ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธว่าบางกรณีอาจจะเป็นสินค้าใหม่ แต่จะบอกว่าใหม่ โดยไม่ทดแทนของเก่าเลยก็ไม่ใช่ เพราะ ทรัพยากรที่เข้าไปหมุนเวียนไม่ได้เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เปลี่ยนเวย์มาจากที่อื่น ซึ่งยังไม่นับรวมว่าโครงการที่จะเกิดขึ้น ทรัพยากรที่รัฐจะต้องใช้ของรัฐ ซึ่งขณะนี้ตนฟังดูน่าจะชัดเจนแล้วว่า จะต้องไปตั้งพื้นที่ของรัฐ ก็ต้องถามว่า แล้วที่ของรัฐเหล่านั้น ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ก็ต้องคำนวณด้วยว่าต้องสูญเสียไป เช่น ถ้าเคยมีท่าเรืออยู่ ถ้าเอาออกไป จะบอกว่าตรงนี้มีรายได้เท่านี้ ก็ต้องถามว่าสิ่งที่ท่าเรือเคยสร้างรายได้ ก็ต้องไปหักเช่นกัน แต่ถ้าไปเอารายงานของผู้ประกอบการ เขาไม่คำนวณเรื่องพวกนี้ แต่รัฐบาลเป็นผู้บริหารประเทศต้องคำนึงถึงตรงนี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นรายได้กาสิโน ถ้าอ้างเรื่องการสร้างงาน มีแน่ แต่สร้างอย่างอื่นก็มีเช่นกัน และงานที่จะถูกสร้างขึ้นในตัวกาสิโน ก็ไม่ใช่เป็นตำแหน่งงานที่มีคุณภาพสูงหรือเป็นจำนวนมาก หรือมีหลักประกันว่าจะไม่เป็นคนต่างชาติอีก แต่เอากาสิโนอยู่ในสถานประกอบการอื่น ตนก็ยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวมาได้โดยไม่มีกาสิโน ถ้าเราได้แรงจูงใจที่ดีพอ ส่วนภาษีที่เก็บได้ เป็นประโยชน์ที่จะเข้าสู่รัฐและได้มาจากรายได้ของตัวกาสิโนนั้น รายงานที่ตนดูและศึกษาเรื่องนี้น่าจะมีเพียงร้อยละ 20 จากต่างชาติและคนไทย ร้อยละ80 หากนับรวมภาษีที่รัฐบาลจะจัดเก็บได้น่าจะน้อยกว่าเรื่องอื่นที่อยู่นอกกาสิโน และตอนนี้ผู้ประกอบการที่เข้ามาเริ่มเคลื่อนไหวอยู่ในนี้ ส่งสัญญาณแล้วว่าถ้าอยากให้มา อัตราภาษีต้องแข่งขันกับที่อื่นได้ ก็แปลว่าเก็บภาษีสูงก็ไม่ได้อีก และอ่านจากกฎหมายก็น่าจะเก็บค่อนข้างต่ำด้วยซ้ำ ทั้งที่ตัวนี้เป็นประโยชน์ และถามว่าส่วนที่เก็บจากคนไทยที่เข้าไปเล่น ถ้าคิดในเชิงรายได้ต้องถามว่าเงินตัวนี้มาจากไหน มาจากคนที่เข้าไปเล่นแล้วเสีย ซึ่งถ้าประเมินประมาณร้อยละ 20 ภาษีเกิดขึ้นจากคนที่เล่นเสียเอามาให้คนที่ได้ จึงอยากให้ตระหนักในเรื่องเหล่านี้


นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตนไม่ได้มองว่าเมืองไทยมีความจำเป็นต้องนำกาสิโนมาเป็นตัวดึงดูดให้คนท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปด้วย ยิ่งถ้าเปิดหลายแห่งเปิดหลายเมืองก็ยิ่งกระทบ และถ้าจำได้ วันที่ผู้นำไทยไปเยือนจีนเป็นเรื่องแปลกที่ผู้นำจีนเอ่ยเรื่องนี้มา เพราะจีนมีกฎหมายที่บอกว่าคนจีนจะไปเล่นการพนัน ที่อื่นก็ผิดกฎหมายจีน หมายความว่าจีนไม่สนับสนุนให้คนจีนเล่นการพนัน ไม่ว่าที่ไหนก็ตามและปัญหาก็คือว่าเวลามีท่าทีเหล่านี้ ก็จะไม่จำแนกแยกแยะว่า คนจีนมาเล่นการพนันหรือมาท่องเที่ยว แต่อาจจะมีการสนับสนุน ไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนมีประมาณหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้นถ้าจะคำนวณว่ากาสิโนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ต้องมาหักลบตรงนี้ด้วย และคำถามก็คือว่าจะคุ้มกันหรือไม่

“ผมขอพูดเป็นประเด็นสุดท้ายว่าเวลาพูดถึงข้อดีหรือพูดถึงการป้องกันข้อเสียต่าง ๆ มันจะทุกอย่างไม่ได้ อย่างตัวเลขที่ผมอ้างถึงว่ามีการศึกษามาแล้ว อย่างกรณีของคณะกรรมการวิสามัญก็บอกแล้วว่าในที่สุดรายได้ของกาสิโนที่เข้ามาเมืองไทยเกือบ80%ตัวเลขที่น่าตื่นเต้นที่สุดเข้าใจว่าทำโดยซิตี้แบงก์ อาจจะเกิดรายได้ ปีละ สามแสนล้านบาท ซึ่งถ้าเราเก็บภาษีสัก ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ใหญ่พอสมควร แต่ท่านต้องไปดูว่าสมมติฐานนั้น บอกว่ารายได้มาจากไหน เขาบอกว่ารายได้ส่วนใหญ่เลย ไปดูตารางมาจากการเปิด กาสิโนที่กรุงเทพฯ และที่ อีอีซี สมมติฐานของประชากรที่อยากเข้าไปเล่น กรุงเทพฯ ประมาณห้าล้านคนเล่นปีละสามครั้ง เพราะฉะนั้น ผมตั้งสมมติฐานกลับมาว่าจะมีคนไทยเข้าไปเล่นวันละ 40,000 คน ดังนั้นถ้าจะบอกว่าอยากได้เยอะๆ ไม่ต้องกลัว คนจะเข้าไปเล่นเยอะๆ มันเป็นไปไม่ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะเรียนว่ายิ่งเห็นตัวเลขเหล่านี้ ผมก็ยัง ยืนยัน ยืนยันความเชื่อและเหตุผลที่มีมาตลอด 30 กว่าปีที่เข้ามาทำงานการเมือง ว่าผลได้จากนโยบายนี้ไม่น่าจะคุ้มกับผลเสียและความเสี่ยงที่จะตามมาอีกมากมาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย