กกต. 4 มิ.ย.-กกต.ยกคำร้อง “นันทนา-อัจฉรา” ถูกร้องฮั้วเลือก สว.ระดับจังหวัด
เว็บไซต์สำนักงาน กกต.เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.สั่งยกคำร้อง กรณีมีการร้องว่า น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ผู้มีสิทธิ์เลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับจังหวัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 (สื่อสารมวลชน) หมายเลข 23 และน.ส.อัจฉรา อัชฌายกชาติ ผู้มีสิทธิ์เลือก สว.ระดับจังหวัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 หมายเลข 57 กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.2561 มาตรา 77 ( 1) จัด ทำให้เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร หรือผู้มีสิทธิ์เลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด
โดย กกต.เห็นว่า ที่มีผู้ร้องว่า ในการเลือก สมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2567 น.ส.นันทนา และ น.ส.อัจฉรา ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร ได้คะแนนมีจำนวนใกล้เคียงกัน และมีผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัดที่ไม่ลงคะแนนให้แก่ตนเอง แต่ลงคะแนนให้บุคคลทั้งสอง และเห็นผู้มีสิทธิ เลือกระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 หลายคนแสดงความเคารพ และทักทายบุคคลทั้งสอง จึงสงสัยว่าในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 มีการตกลงหรือสมยอมกันให้ผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัดลงคะแนนให้แก่บุคคลทั้งสองนั้น เมื่อพิจารณาคำร้องและถ้อยคำของผู้ร้องแล้วเป็นเพียงข้อสงสัย ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน เพราะผู้ร้องได้แนบเพียงข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 เป็นหลักฐานประกอบคำร้อง ไม่มีหลักฐานใดประกอบการให้ถ้อยคำ
อีกทั้งจากการไต่สวนพยานประกอบ ซึ่งเป็นกรรมการประจำสถานที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 ให้ถ้อยคำว่า ในวันเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานครดังกล่าวการดำเนินการเลือกเป็นไปโดยปกติ ไม่มีผู้ใดทักท้วงเกี่ยวกับการลงคะแนน และไม่ได้รับเรื่องร้องเรียน หรือได้รับรายงานว่ามีผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัดคนใดกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และจากการตรวจสอบรายงานเหตุการณ์ประจำสถานที่เลือก การลงคะแนน เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน กลุ่มที่ 18 กรุงเทพมหานคร ในวันดังกล่าวก็ไม่มีกรณีทักท้วง และจากการตรวจสอบกล้องบันทึกภาพและเสียงที่ใช้บันทึกเหตุการณ์ในสถานที่เลือกก็ไม่ปรากฏพฤติการณ์ของบุคคลใดที่อาจเข้าข่ายหรือมีลักษณะเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งเมื่อพิจารณาข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 18 ซึ่งปรากฏประวัติการทำงานหรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัคร ของผู้สมัครแต่ละคนก็ไม่อาจนำมายืนยันได้ว่าจะมีการตกลงกันเพื่อลงคะแนนให้แก่บุคคลทั้งสอง ดังที่ผู้ร้องได้กล่าวอ้าง โดยผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัดย่อมสามารถทำความรู้จัก สนทนากัน หรือแนะนำตัวกันได้ เท่าที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง และยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยัน ได้ว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่า น.ส.นันทนา และน.ส.อัจฉรา กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.2561 มาตรา77 (1) ตามคำร้อง.-314.-สำนักข่าวไทย