ศาลรัฐธรรมนูญ 4 มิ.ย.-“ณฐพร” ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ “กกต.-ภูมิใจไทย-สว.” ล้มล้างการปกครองฯ พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมฮั้วเลือกตั้ง ลาก “เนวิน-อนุทิน” เอี่ยว เส้นเงินชัด หลักฐานแน่น
นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยว่าการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลขาธิการ กกต. พรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย สว. นายเนวิน ชิดชอบ นางกรุณา ชิดชอบ นายทองเจือ ชาติกิจเจริญ นายศุภชัย โพธิ์สุ น.ส.วาริน ชิณวงศ์ นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ และนายสุบิน ศักดา และบุคคลในสำนวนกว่า 200 คน ร่วมกันกระทำการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และสั่งให้เลิกการกระทำ พร้อมมีคำสั่งให้ กกต. สว. รัฐมนตรีของภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่มีรายชื่อตามสำนวนการสอบสวนของสำนักงาน กกต.หยุดปฏิบัติหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้อง
นายณฐพร กล่าวว่า เรื่องที่มายื่นร้องสามารถโยงไปถึงว่า กกต.จัดการเลือกตั้งไม่ชอบอย่างไร และไม่ได้ดำเนินการสอบสวนอะไร โดยเฉพาะความเกี่ยวพันระหว่าง กกต. กับพรรคภูมิใจไทย มีอย่างไร ซึ่งหากคดีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ กกต.ก็จะไม่มีการสอบสวนจนถึงทุกวันนี้ โดยพยานหลักฐานจากการสอบสวนของดีเอสไอ ทั้งจากเอไอ เส้นทางการเงิน ระบุว่ามีพยานหลักฐานชัดเจน ดังนั้นถ้าศาลสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดีเอสไอ ศาลก็ต้องรับคำร้องของตนด้วย ในกรณีขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะถ้าปล่อยให้ สว.ชุดนี้เห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ นั่นคือความไม่เป็นธรรม
นายณฐพร กล่าวว่า ช่องทางเดียวที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องนี้คือมาตรา 49 ซึ่งตนเคยยื่นไปยังอัยการเมื่อวันที่ 28 พ.ค. และได้ส่งเอกสารหลักฐานกว่า 80 รายการ เมื่อครบ 15 วัน ก็ยื่นกับศาลได้เลย ดังนั้นสำนวนที่ตนยื่นนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ ศาลจะมีคำสั่งรับคำร้องนี้ แล้วจะต้องดูว่าจะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
เมื่อถามว่า พยานหลักฐานที่ยื่นวันนี้จะสามารถเชื่อมโยงไปยังนายเนวิน และนางกรุณา ด้วยหรือไม่ นายณฐพร กล่าวว่า มีแน่นอน ทั้งเส้นทางการเงิน ทั้งการประชุมพบปะหารือกัน รวมไปถึงตัวบุคคลอย่างสว.ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังได้นายเนวิน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่ต้องห่วงสำนวน 70 หน้า ที่ยื่นวันนี้ข้อมูลชัด และมั่นใจว่าคดีล้มล้างการปกครองไม่มีคดีไหนที่มีพยานหลักฐานแน่นอนเท่าคดีนี้ ดังนั้นศาลไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน เนื่องจากพยานหลักฐานปรากฏหมดแล้ว เพราะคดีนี้จะใช้เวลาเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในคำร้องขอนายณฐพร ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูนั้น ได้บรรยายฟ้องว่า เนื่องจากพบพยานหลักฐานว่าผู้ถูกร้องทั้งหมดมีพฤติการณ์การกระทำเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่การทำ โดย กกต. และเลขาธิการ กกต. ให้การช่วยเหลือสนับสนุน เอื้อประโยชน์ให้พรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรค และผู้ถูกร้องคนอื่นๆ ให้ได้มาซึ่ง สว. 138 คน และสำรอง 50 คน โดยพรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และผู้ถูกร้องคนอื่นๆ ร่วมการจัดทำแผน คิดสูตร จ้างคนมาลงสมัคร และไม่ลงคะแนนให้ผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น และลงคะแนนให้กลุ่มผู้จัดจ้าง กำหนดในโพย ทำให้การได้มาซึ่ง สว. เป็นไปโดยไม่สุจริต เที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และหลักนิติธรรม เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 3 มาตรา 107 มาตรา 108 ประกอบมาตรา 5
นอกจากนี้ในคำฟ้องยังได้มีการระบุชื่อแกนนำพรรคภูมิใจไทย สส. และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่เข้าไปมีส่วนในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการฮั้วเลือก สว. เช่น กลุ่มผู้บงการการกระทำความผิด กลุ่มผู้เสนอแผนและคิดสูตร กลุ่มผู้นำแผนไปดำเนินการ โดยอ้างว่าเป็นพยานหลักฐานที่ได้จากสำนวนการสืบสวนของดีเอสไอ และ กกต.-314.-สำนักข่าวไทย