“ภูมิธรรม” แจงปมไทยเสียเปรียบ ปล่อยกัมพูชาล่วงล้ำ 200 เมตร

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” บอก เลอะเทอะ หลังมีข่าว “เตีย เซ็ยฮา” ล็อบบี้ไม่ให้ปิดด่าน ยกมติครม. ย้ำ ไทยไม่รับอำนาจศาลโลกกรณีขัดแย้งไทย-กัมพูชา แจง ปมไทยเสียเปรียบเหตุปล่อยกัมพูชาล่วงล้ำ 200 เมตร


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีรัฐบาลออกแถลงการณ์การแก้ไขปัญหาชายแดนกัมพูชาโดยยึด 3 กลไก จะสามารถตัดเรื่องการนำไปสู่ศาลโลกได้หรือไม่ ว่า แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการหารือร่วมกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กองทัพบก (ทบ.) กระทรวงต่างประเทศ สิ่งที่แถลงคือจุดยืนของรัฐบาล โดยอยากให้ประชาชนไปดูและศึกษา ซึ่งในแถลงมีเรื่องของการจุดยืนอธิปไตยของประเทศ ยึดมั่นในบูรณภาพเหนือดินแดนไทย รวมถึงสิทธิทางกฎหมายของไทย และแก้ไขปัญหาโดยหลีกเลี่ยงความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลดำเนินการไปตามขั้นตอน และข้อเท็จจริงที่รับรู้ เราไม่ได้ทำตามอารมณ์ หรือความต้องการของใคร แต่ดำเนินการภายใต้การปกป้องของอธิปไตย

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ในบางเรื่องเราไม่ได้เอ่ยถึง เพราะเขาพยายามขยายวงไปถึงศาลโลก เราพยายามจะจำกัดวงไม่ให้ไปถึงจุดนั้น เราจะพูดเฉพาะจุดปะทะ และยึดเอ็มโอยู 43 เนื่องจากง่ายในการหาข้อสรุปร่วมกันได้ ขณะนี้สิ่งที่เกิดปัญหาบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาวเรากลับมาดูตรงนี้ ส่วนพื้นที่อื่นยังไม่มีอะไรรุนแรง เราอย่าไปเล่นเกมตามเขา เพราะจะกลายเป็นประเด็นที่นานาชาติเข้ามาและเรามั่นใจในจุดยืนของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของชาติ ซึ่งจะกระทบกับเอกราชและดินแดนของประเทศไทย ไม่อยากให้ขยายวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลพยายามจำกัดวงปมความขัดแย้ง เนื่องจากมีเรื่องที่จะต้องไปเจรจาต่อรองรวมถึงเรื่องทางเทคนิค ซึ่งสิ่งที่เราได้พูดคุยกับทางกัมพูชา และนายก ฯ ไทยได้คุยกับ นายกฯ กัมพูชา ตนก็พูดคุยกับรองนายกฯ กัมพูชา ทุกฝ่ายยอมรับแล้วว่าในวันที่ 14 มิ.ย. 2568 จะมีการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) เขตแดนไทย-กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เราควรจะคิดไปทีละขั้น หากการประชุมในครั้งนี้หาข้อยุติไม่ได้ ก็ต้องดูว่ามีกลไกอะไรอีก


นายภูมิธรรม กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลเตรียมการทั้งหมดไว้แล้ว ในการต่อสู้ในแง่ของกฎหมาย การเจรจาร่วมตามกลไกต่าง ๆ และหากมีความจำเป็นทหารเตรียมการในแนวหน้าไว้หมดแล้ว ไม่อยากให้มีการปลุกปั่นหรือตำหนิกัน

“วันนี้แกนนำฝ่ายค้านก็มีโทนเสียงที่ดีขึ้น ไม่ใช่พูดตามอารมณ์และเอามัน เพราะเรื่องนี้ผิดพลาดนิดเดียวเสียหายใหญ่หลวง เราอยากได้เสียงสนับสนุนจากประชาชน เหมือนจากที่ประเทศกัมพูชาได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชาชนของประเทศเขาเอง อยากให้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาไม่ใช่มานั่งตำหนิรัฐบาล ในขณะเดียวกันการปิดด่าน ก็มีกระบวนการขั้นตอนไม่ใช่ปิดไปทั่ว เรามีวิธีที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ไม่อยากจะไปพูดว่าเราดำเนินการในขั้นตอนไหนบ้าง เพราะไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ อย่าไปอยากรู้มาก เพราะการเปิดเผยมากเกินไปก็จะสร้างความยุ่งยากในการเจรจา” นายภูมิธรรม

เมื่อถามว่า กระแสประชาชนไม่พอใจกับท่าทีของนายกฯ และนายภูมิธรรม นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราอยากลดความขัดแย้งไม่อยากยกระดับ ไปสู่ปัญหาระดับโลก ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาอีกมากมาย


“จะเรียกว่าเราใจเย็นก็ได้ เขากำลังร้อน เราก็เอาน้ำเย็นลูบ หากมองว่าเราไม่แสดงท่าทีก็พูดได้ แต่ในทางปฏิบัติได้เตรียมไว้หมดแล้ว แล้วยืนยันว่ามีความเข้าใจอันดีกับกองทัพ รวมถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ได้คุยกันตลอด ไม่มีอะไรเลยที่เป็นปัญหา วันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลจะมาโต้แย้งกัน เรามีจุดยืนว่าจะเจรจาเรื่องสันติ หาอนาคตจะนำไปสู่ความรุนแรง บรรทัดสุดท้ายเราก็มีความพร้อมหมด” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเตรียมไว้ ไม่มีประเด็นเรื่องของการนำไปสู่ศาลโลกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลสมัย นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่มีมติครม. 12 มี.ค. 2567 โดยยืนยันว่ามีหนังสือลงวันที่ 19 มี.ค.2567 แจ้งให้หน่วยราชการทุกหน่วยทราบและให้ถือเป็นข้อปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด ว่าในการทำหนังสือสัญญา ระหว่างประเทศใด ๆ ให้ทำข้อกำหนด ไว้ว่า” ไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลไอซีเจ (ศาลโลก) ในทุกเรื่อง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อมิให้กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ
ไม่ต้องถามเลยประเด็นนี้ และตนไม่อยากนำเรื่องนี้มาพูดให้มันกระจายไป ในขณะที่ประชาชนก็พยายามทำความเข้าใจ ในโซเชียลมีเดียที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของประชาชน เชื่อว่ามีการทำไอโอขึ้นมา พร้อมทั้งยืนยันว่าในชีวิตนี้ตนไม่เคยเจอกับ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา หลังจากที่เอไอทำรูปสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ลูบหัวตน

ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม จะปลดแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ก็ไม่รู้ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน นี่คือการปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความระแวงแทงใจ ขอย้ำว่าเรื่องนี้สำคัญและจะกระทบกับเอกราชอธิปไตย ถ้าเราเดินไม่ดี เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเพราะเห็นแก่ประชาชนตามแนวชายแดน

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า รวมถึงทหารที่ดูแลปกป้องอธิปไตย ซึ่งทหารไม่กลัว เพราะพร้อมรบตลอดเวลาอยู่แล้ว ทุกอย่างที่ได้วางไว้มีไทม์ไลน์ไว้ทั้งหมด ถ้าจะต่อสู้ทหารของชาติพร้อมอยู่แล้ว วันนี้ทำหน้าที่อย่างดี ยอมรับว่าคนของเราก็มีความอึดอัดในสถานการณ์ดังกล่าว แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไรคือการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาของชาติได้มากที่สุด อยากให้เข้าใจสิ่งนี้และให้อยากช่วยรัฐบาลด้วย

ส่วนที่มีการพบระเบิดในชายแดนไทย-กัมพูชานั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าจริงหรือไม่ ยังไม่ได้รับรายงาน โซเชียลฯ รู้ก่อนตนซึ่งขอให้รอทางฝ่ายปฏิบัติ บางครั้งข้อมูลในโซเชียลมีเดียมีทั้งจริงและไม่จริง

เมื่อถามว่า แต่มีข้อมูลชัดเจนว่าทหารกัมพูชาล้ำก็มาในเขตแดนไทย 200 เมตร เป็นที่มาของการเสนอปิดด่าน เพื่อกดดันให้ออกจากจุดนั้น แต่มีการสั่งให้ชะลอการปิดด่านเอาไว้ก่อน ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาไปแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ด่านต่าง ๆ ยังไม่ได้ได้รับผลกระทบอะไร และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก

เมื่อถามว่าทหารพยายามเสนอปิดด่าน เพื่อไปกดดันให้ทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจาก 200 เมตร นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้มีกระบวนการอยู่แล้ว ขอให้เราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำอีกว่าในจุดนั้นทหารกัมพูชาเพิ่งล่วงล้ำมา นายภูมิธรรมกล่าวว่าต้องเอาหลักฐานทางอากาศมาชี้แจงกันซึ่งจะตอบโจทย์ทุกอย่าง อยากให้รอ

เมื่อถามอีกว่า ทางกัมพูชาย้ำออกมาได้มีการได้เปรียบไทยแล้ว ทางทหารจึงได้ขอให้นายภูมิธรรม ปิดด่านเพื่อกดดัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ อยากให้ใจเย็น ล้ำหรือไม่ล้ำ มันมีแผนที่อ้างสิทธิ์ในพื้นที่นั้นอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างประกาศอาณาเขต ซึ่งฝ่ายไหนเป็นคนละเมิดกลไกในเอ็มโอยู 43 จะดำเนินการเอง ซึ่งในแนวหน้ายังไม่ไปสู่จุดที่ปะทะกัน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันกับตน เราอยู่ในจุดที่เขาล้ำเข้ามาในไทยไม่ได้เด็ดขาด แต่จุดที่เป็นปัญหาอยู่เป็นจุดที่อยู่ในจุดที่อ้างสิทธิ์กัน

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งว่าอย่างไรในเรื่องของการติดตาม นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เขาไม่ได้แจ้งว่าจะขอปิดด่าน เขาแจ้งว่าหากถึงจุดหนึ่งก็จะขอปิดด่าน ซึ่งตนก็บอกว่าปิดได้อยู่แล้ว แต่มองว่าในขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่จะไปถึงจุดนั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะปิดด่าน ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์แต่ละวัน

เมื่อถามย้ำว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่ากัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย 200 เมตรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้ไปดูในเวทีเจบีซี

ส่วนกรณีกระแสข่าว พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯ และรมว.กลาโหมกัมพูชา ได้โทรศัพท์มาหาเพื่อให้ปิดด่าน นายภูมิธรรม กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า อันนี้เลอะเทอะ แต่ยอมรับว่าได้โทรคุยกันจริง แต่ไม่ได้คุยกันมาก คุยเฉพาะบางส่วนที่เกี่ยวข้อง ในฐานะผู้นำระดับสูงของกัมพูชา คือประเด็นสำคัญคือการอยากให้ใช้กลไกเจบีซี และไม่ให้เกิดความรุนแรง อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายแยกออกจากกัน เรายังไม่เคยพูดเรื่องปิดด่านเลย และมีการต่อรองให้มีการจัดประชุมเจบีซีให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ส่วนกรณีที่มีกระแสปลุกปั่นให้เกิดการปฏิวัตินั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไรเป็นความเห็นของแต่ละคน แต่เชื่อว่ารัฐบาล ทหาร กองทัพคุยกันดีอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าเรือดำน้ำกับเรื่องเครื่องบินกริพเพนจะเข้าที่ประชุมครม.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ยังไม่เข้า ส่วนที่กองทัพอากาศเตรียมแถลงเครื่องบินรบฟูงใหม่เป็นเครื่องบินกริพเพนนั้น กองทัพอากาศสามารถดำเนินการได้ แต่อย่างไรก็ต้องรอสัญญาณจากรัฐบาล จะแถลงอย่างไรก็ไเด้ แต่ถ้ายังไม่นำเข้า ครม. ก็ยังไม่มีผลอะไร.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]