“สุทิน” ชมรัฐบาลตีโจทย์แตกจัดงบฯ 69

รัฐสภา 31 พ.ค. – “สุทิน” ชมรัฐบาลตีโจทย์แตก จัดงบฯ 69 โต้ฝ่ายค้านงบกองทัพไม่สามารถใช้ฐานเดิมพิจารณาได้ ต้องดูเหตุตึงเครียดรอบด้าน ฉะฝ่ายค้านอย่าดิสเครดิตประเทศตัวเองเป็น “รัฐล้มเหลว” ระบุรับได้รัฐบาลจัดงบประมาณ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวปิดการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในฝั่งของรัฐบาล ว่าการที่จะบอกว่างบประมาณแผ่นดินชอบหรือไม่ชอบ และควรที่จะยกมืออนุมัติหรือไม่นั้น มี 4 กรอบ คือ 1.ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งการทำงบประมาณมีกฎหมายเกี่ยวข้อง รัฐบาลไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ 2.มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศที่ตั้งไว้หรือไม่ 3.สามารถตอบโจทย์ประเทศได้หรือไม่ และ 4. ตรงใจ สส. ตรงใจสภาฯ หรือไม่ เพราะเป็นตัวแทนประชาชน และเชื่อว่าเป็นคนที่รู้ปัญหาของประชาชนมากที่สุด

สำหรับหน้าตาของงบประมาณฉบับนี้มียอดเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นตามปัจจัย แต่ส่วนตัวตนไม่พอใจกับงบนี้ เพราะอยากได้เยอะกว่านี้ แต่ติดที่สถานะการเงินของประเทศ และประมาณการรายรับ ซึ่งจะไปชนกรอบวินัยการเงินการคลัง ส่วนหากมีการตั้งงบน้อยกว่านี้จะไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจพัฒนาได้ ดังนั้น การตั้งงบประมาณจำนวนนี้อยู่บนความจำเป็นและข้อจำกัด


นายสุทิน กล่าวต่อว่า รัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีใครอยากกู้เงิน แต่มันมีความจำเป็นตามปัจจัยที่เกิดขึ้น ซึ่งการกู้เงินไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับการจัดทำงบประมาณ เพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจและมีความคุ้มค่าในการดำเนินการหรือไม่ และการกู้เงินไม่ใช่ครั้งแรก ในประเทศไทยไม่มีการกู้เงินมีแค่ 2 ปี คือปี 48-49 ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำงบประมาณแบบสมดุล และที่ผ่านมาได้เห็นการทำงบประมาณของภาครัฐที่ลดลง โดยค่อนข้างเป็นทุกข์กับรายจ่ายประจำที่ค่อนข้างสูง และไม่มีผลไปถึงชาวบ้านและการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปีนี้รายจ่ายประจำลดลงแม้จะไม่มาก เป็นการเริ่มที่ดีและปีต่อๆ ไปต้องลดลงเรื่อยๆ

ส่วนเรื่องของงบการลงทุนพบว่าลดลง ซึ่งความเป็นจริงต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเกิดความเสียหายหากไม่รู้ว่าลดลงแล้วไปอยู่ไหน จากข้อมูลคือการไปชดใช้หนี้เงินคงคลัง ที่จะทำให้สถานะทางการคลังของเราดีขึ้น ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในส่วนนี้ ซึ่งหน้าตาโดยรวมของงบประมาณฉบับนี้ ถือว่าสอดคล้องกับสถานะของประเทศปัจจุบันแลปีต่อไป ซึ่งถือว่ารับได้ ส่วนงบประมาณนี้จะสอดคล้องกับกฎหมายหรือไม่นั้น ที่ผ่านมามีหลายรัฐบาลที่ตกม้าตายเพราะไปทำผิดกฎหมาย ที่สำคัญคือกฎหมายรัฐธรรมนูญ จากการตรวจสอบดูหลายประเด็นมีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและระเบียบวินัยการเงินการคลัง รวมไปถึงการใช้วิธี พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณเพื่อคำนวณรายรับรายจ่าย รวมถึง พ.ร.บ.การจัดการหนี้ภาครัฐ

ขณะที่ยุทธศาสตร์ของประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูประเทศระยะที่ 2 ซึ่งมีการขยายจาก 6 ยุทธศาสตร์เป็น 9 ยุทธศาสตร์ สิ่งที่ตนสนใจและเห็นด้วยในยุทธศาสตร์การเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาคนไทยให้มีศักยภาพ จากที่มีการวิเคราะห์ศักยภาพในเวทีโลกเด็กไทยน่าห่วง หากวัดด้วยการศึกษาวันนี้แพ้ประเทศเพื่อนบ้าน และดูสภาพสังคมด้านยาเสพติดก็รุมถล่ม ทำให้คนหมดคุณภาพ ซึ่งสามารถทำนายอนาคตประเทศได้ การจัดงบในจุดนี้มีการเพิ่มขึ้น รวมถึงยังมีการเพิ่มด้านความเป็นธรรมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ วันนี้คนไทยเจอปัญหา 2 เรื่องคือ ความจน และความเหลื่อมล้ำ


ส่วนกรอบที่ 3 งบประมาณฉบับนี้ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาประเทศได้หรือไม่นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งการจัดงบเปรียบเสมือนการให้ยากับประเทศ เมื่อ 7 เดือนที่แล้วรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศได้มีการแถลงนโยบาย ซึ่งตนอยากรู้ว่าจะตีโจทย์ประเทศแตกหรือไม่ หากเปรียบประเทศไทยเป็นคนเขาจะรู้ไหมป่วยเป็นโรคอะไร หากวิเคราะห์โรคผิด จ่ายยาผิด ก็จะทำให้ตาย แต่หากหมอวิเคราะห์โลกถูก จ่ายยาถูก ก็จะทำให้ฟื้น จากการแถลงนโยบายที่ผ่านมา ต้องชมว่ารัฐบาลตีโจทย์แตก วินิจฉัยถูก ส่วนการจ่ายยาก็ต้องดูในวันนี้ว่าจัดงบประมาณเป็นอย่างไร หากบอกว่าเป็นโรคไตแต่ไปจ่ายยาเบาหวาน จะทำให้ตายเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงต้องดูว่ารัฐบาลจัดงบประมาณถูกทิศถูกทางหรือไม่

วันนี้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชนค่อนข้างมองตรงกันว่าเรื่องใหญ่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังต่ำ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง 80% ของจีดีพี สิ่งนี้เป็นตัวกัดกร่อนและเป็นแรงเสียดทานทางเศรษฐกิจ ซิ่งสิ่งที่เห็นในการจัดงบครั้งนี้คือรัฐบาลทุ่มไปกับเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจำนวนมาก แต่หลายคนมองว่างบประมาณที่จัดอาจจะไม่เพียงพอ ยายังไม่แรง แต่เราต้องเข้าใจว่าการกระตุ้นไม่สามารถใช้งบประมาณรัฐอย่างเดียว ต้องมีมาตรการอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลมีการตั้งรับกับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งวันนี้มีความขัดแย้งกันหลายประเทศ อาจจะมีการเกิดสงคราม ทำให้เศรษฐกิจโลกหด รวมถึงภาษีทรัมป์ ส่วนในเชิงรุก รัฐบาลพยายามหารายได้ใหม่ การลงแรงซอฟต์พาวเวอร์ที่จะทำให้เกิดรายได้ใหม่เราไม่งอมืองอเท้ากับรายได้เก่า และงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ทั้งยังได้มีการส่งเสริมเอกชนทั้งในเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยว การส่งออก โดยงบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาท จะใช้ไปเพื่อหมุนฟันเฟืองในด้านต่างๆ ทั้งการส่งออก อุตสาหกรรม เอกชน

ส่วนจะเป็นการจัดงบประมาณที่ถูกจุดหรือไม่นั้น สำหรับการจัดงบกลางมีคำถามว่าสามารถรองรับความผันผวนได้จริงหรือไม่ ทั้งเรื่องน้ำแล้ง น้ำท่วม และภาษี อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้วมีการตำหนิว่าจัดงบกลางมากเกินไป เป็นแบงก์เช็คเพื่อให้รัฐบาลจ่ายได้แต่ตรวจสอบไม่ได้ แต่เมื่อปีนี้งบกลางลดลงก็ถูกตำหนิอีก สำหรับงบกลาง 6 แสนล้านบาท ตนอาจไม่พอใจ แต่สามารถเข้าใจได้ว่าการจัดทำงบประมาณแผ่นดินไม่ได้จบเท่านี้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นจริงๆ สามารถทำงบประมาณกลางปีได้ ขณะที่หลายคนสนใจเรื่องรายได้เกษตรกร เอสเอ็มอี ตกต่ำ ต้องยอมรับว่าเป็นจริง พบว่ารัฐบาลมี 2 แผนในการแก้ไข คือการใช้งบประมาณแผ่นดินและงบประมาณนอกแผ่นดิน เช่น งบประกันรายได้การเกษตร ข้าว ยาง และส่งเสริมเอสเอ็มอีอย่างเป็นระบบ แต่ยังมีรายได้นอกงบประมาณ การจัดทำซอฟต์โลน ร่วมกับธนาคารเพื่อหาสินเชื่อให้กับทางเอสเอ็มอี ทั้งการป้องกันเอสเอ็มอีต่างชาติที่เป็นคู่แข่งของคนในประเทศ

ส่วนงบกองทัพตนก็พอรู้เรื่อง ซึ่งมีการทวงถามถึงการปรับลดขนาดกองทัพ มองว่าการจัดงบยังเยอะอยู่ ในอดีตสมัยตนเป็น รมว.กลาโหม เคยพูดว่าการจัดงบความมั่นคง การจัดงบกองทัพ จะแตกต่างจากการจัดงบกระทรวงอื่น เนื่องจากกระทรวงอื่นมีการนำฐานเดิมมาตั้งแล้วบวกเงินเฟ้อเข้าไป แต่เรื่องความมั่นคงและกองทัพจะใช้ฐานเดิมไม่ได้ ซึ่งจะต้องดูถึงฐานคู่แข่งและบริบทโลก ว่าสถานการณ์โลกนั้นไปอย่างไร เข้าสู่โหมดตึงเครียดหรือไม่ จะมีการสู้รบหรือไม่ และจะขยายตัวมาถึงเราหรือไม่ เพื่อนบ้านกับเราเอากัน ซัดกันหรือยัง ย้ำว่าฐานความมั่นคงไม่ใช่ฐานตัวเลขเดิม แต่เป็นฐานสถานการณ์ หากมีความตึงเครียดต้องจัดงบประมาณเยอะ หากผ่อนคลายก็จัดงบน้อย และยิ่งมีการส่งสัญญาณว่าจะมีเหตุจะนิ่งนอนใจและจัดงบประมาณ ต้องขอกับทางกรรมาธิการ และต้องทำความเข้าใจกัน ดังนั้น งบส่วนนี้จึงไม่ได้มีความบกพร่อง หากงบส่วนไหนไม่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ สามารถตัดได้ แต่อันไหนเกี่ยวกับยุทธการต้องมีความเห็นใจ

“สุดท้ายกรอบการตอบโจทย์ประเทศตนมองว่าทุกรัฐบาล ไม่มีใครจะจัดงบประมาณละเลยประชาชน ทุกรัฐบาลอยากจัดงบให้ประชาชนชื่นชม อยากเห็นเศรษฐกิจขยายตัว ให้ประชาชนหน้าชื่นตาบาน กินอิ่ม นอนอุ่น ดังนั้น กรอบงบประมาณนี้จะขอให้ความเห็นชอบและให้กำลังใจ ส่วนงบประมาณปีนี้จะถูกใจเพื่อนสมาชิกหรือไม่ จากที่มีการประเมินมา 4 วัน เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่เราเห็นใจข้อจำกัดของรัฐบาล แต่อาจจะไม่ตรงใจบ้างก็เป็นเหตุที่ทุกคนจะต้องเข้าใจและยอมรับให้ได้ ส่วนที่ไม่ตรงใจอาจจะเป็นเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้าน ซึ่งก็สามารถเข้าใจได้ เพราะหากรัฐบาลจัดงบแล้วฝ่ายค้านขึ้นมาชื่นชมจะผิดปกติ แต่หากขึ้นมาตำหนิและรายละเอียดบางอย่างมันเลยเถิด ไม่ถูกกาลเทศะ รัฐบาลต้องแยกแยะและเก็บไปคิด เช่น การบอกว่าประเทศไทยเข้าสู่รัฐล้มเหลว ซึ่งควรที่จะต้องพูดอย่างระมัดระวัง เพราะการดิสเครดิตประเทศของตัวเองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และการทุจริตในหลายเรื่องบางครั้งยังไม่เกิดขึ้นในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ แต่อาจเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งสามารถเตือนสติกันได้” นายสุทินกล่าว

ทั้งนี้ หากอภิปรายงบประมาณแผ่นดินแล้วพูดเรื่องการทุจริต สิ่งที่ควรพูดคือการตั้งงบในลักษณะนี้อาจไม่สามารถตรวจสอบได้ หรือมีการหมกเม็ด ซึ่งจะสามารถป้องกันการทุจริต ฝ่ายค้านควรมีมุมมองที่วิตกจริตให้น้อยลง และตั้งอยู่บนโลกของความเป็นจริง ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องรับฟัง ท้ายที่สุดความแตกต่างทางความคิดในสภา แต่จะมีสิ่งที่เหมือนกันคือการเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและมาจากประชาชน ซึ่งเราอาจมองไม่ต่างกัน แต่มีวิธีแก้ปัญหาที่ต่างกัน ด้วยประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพที่ต่างกัน ซึ่งคนเป็นมืออาชีพและไม่เป็นมืออาชีพหรือเป็นมือสมัครเล่น เรื่องเดียวกันก็จะอาจจะมีการแก้ปัญหากันคนละแบบ แต่หวังว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้จะถูกนำไปพิจารณาในวาระที่สองอย่างรอบคอบ และเข้าสู่วาระที่สามก่อนที่จะถูกอนุมัตินำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งตนเห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบของสภา เพื่อไปพิจารณาในวาระต่อไป .-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]