“ทักษิณ” ชี้ “สมศักดิ์” วีโต้ตามอำนาจหน้าที่ รมว.สธ.

เนชั่น 30 พ.ค.- “ทักษิณ” ชี้ “สมศักดิ์” วีโต้ เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของ รมว.สธ. บอก ไม่รู้เป็นผลดีทางคดีหรือไม่ ย้อน “ต้องให้บอกชื่อด้วยไหม” หลังคนสงสัยแชตแพทยสภาหลุด อาจไม่ใช่ของจริง เมิน คนยื่นหลักฐานเพิ่ม เหตุ ศาลรับฟังไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องกับคดี ถาม “หนูรี สบายดีไหม เป็นห่วงอยู่”


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ วีโต้มติแพทยสภา กรณีลงโทษแพทย์ 3 คน จากการรักษานายทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อถามว่าเป็นผลดีกับคดีของตนเองหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แล้วแต่คนจะมอง


ส่วนที่มีคนสงสัยว่านายทักษิณได้ แชตไลน์ ที่อ้างว่าเป็นของแพทยสภามาได้อย่างไร นายทักษิณ ร้อง “โอ้ ต้องไปถามคนในกลุ่ม ไม่อย่างนั้นมันไม่หลุด”

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกต ว่าแชตไลน์หลุดดังกล่าวไม่ใช่ของคณะกรรมการแพทยสภา นายทักษิณ ถามกลับว่า “จะให้บอกไหม ต้องให้บอกชื่อด้วยไหม”

ผู้สื่อข่าวถามกลับว่า สามารถบอกชื่อได้หรือไม่ นายทักษิณ ยิ้ม ก่อนบอกว่าเข้าใจว่าคนส่งไปให้ทุกคนทราบ


เมื่อถามว่าหากวีโต้ แล้วทางแพทยสภา ยืนยันมติตามเดิม จะเป็นอย่างไรต่อ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ว่ากันไปตามกติกา ทุกอย่างมีกติกา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คนที่ส่งสติกเกอร์ Yes คือบุคคลระดับสูงใน แพทยสภาใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า “สูงมาก”

ส่วนกรณีที่มีการเปิดเอกสารวีโต้ ที่นายสมศักดิ์ยื่นให้กับแพทยสภา โดยรายละเอียดส่วนใหญ่ กล่าวถึงการพิจารณาของแพทยสภา และการลงโทษแพทย์ทั้งสองคน ซึ่งการดำเนินการแบบนี้ จะทำให้แพทยสภา กับคณะกรรมการที่นายสมศักดิ์ตั้งขึ้น มีปัญหากันในวงการแพทย์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า หลักการคือถ้าทุกคนเคารพกติกา ไม่มีอคติต่อกัน มีจรรยาบรรณในวิชาชีพของตัวเอง ก็ไม่มีปัญหา

“แต่บางครั้งก็มีการเลือกข้าง วันนี้ประเทศไทยต้องหยุดการเลือกข้างได้แล้ว ต้องเลือกตั้งประชาชนเลือกตั้งประเทศไทยดีกว่า จะได้ทำให้บ้านเมืองสงบเสียที และสื่อทั้งหลายก็เหมือนกัน อย่าไปเอาความขัดแย้งมาใช้เยอะ ทุกอย่างจะได้เบาบางลง บางทีพอเราเสนอความขัดแย้งมากๆ คนที่ไม่มีอาชีพก็เลยพลอยมีอาชีพไปด้วย” นานทักษิณ กล่าว

เมื่อถามว่า วันที่ 13 มิถุนายน ที่ศาลนัดไต่สวนนั้น จะเดินทางด้วยตัวเองหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อน

ส่วนหากวันดังกล่าวเป็นไปในทางลบหรือ Worst case พร้อมรับมือหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรต้อง Worst The Worst มันผ่านไปแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าวันที่ 13 มิถุนายนนี้ นายทักษิณจะหนีออกนอกประเทศแน่นอน นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องถาม หนูรีเขา ว่าเอาข่าวจากไหน

ส่วนกรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ บอกว่าไปเยี่ยมนายทักษิณมาสองครั้ง และก็พบว่าสบายดี นายทักษิณ ถามกลับว่า “แล้วหนูรี สบายดีรึเปล่า เป็นห่วงอยู่”

ส่วนกรณีที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ และ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไปยื่นหลักฐานเพิ่มเติมว่าในใบเสร็จของโรงพยาบาลตำรวจ ไม่มีค่ารักษาพยาบาล มีแต่ค่าห้อง ว่า นายทักษิณ กล่าวว่า เขาไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องในคดี ศาลรับฟังไม่ได้ อันนี้โดยกฎหมาย เขาก็น่าจะรู้นะ เรียนกฎหมายตั้งเยอะ สงสัยลืมหมดแล้ว

เมื่อถามว่ารวมถึงหลักฐานตรีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ที่บอกว่ามีการแคปหน้าแชต มีข้อความขอพบนายทักษิณ ด้วยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ค่อยรู้เรื่อง

เมื่อถามย้ำว่า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ก็เคยออกมาบอกว่า ได้ไปเยี่ยมที่ชั้น14 และ พูดกันหลายเรื่อง ได้พูดคุยกันเรื่องอะไรบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่าให้ไปถามท่านก็แล้วกัน ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

แม่แจ่มอ่วม! ฝนถล่ม-น้ำทะลัก บางจุดสูงเกือบ 1 ม.

เชียงใหม่ 23 ก.ย.- ฝนตกหนัก ลำน้ำแม่แจ่มทะลักท่วมชุมชน อ.แม่แจ่ม ช่วงเช้ามืด ขยายวงกว้าง ชาวบ้านบางส่วนไม่ทันตั้งตัว ข้าวของจมน้ำเสียหาย ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำจากลำน้ำแม่แจ่ม เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้านและในเขตชุมชนของตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันนี้ โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า ตลาดสด สถานที่ราชการ และโรงเรียน ระดับน้ำที่ท่วมบางจุดสูงเกือบ 1 เมตรและขยายวงกว้างออกไป น้ำที่ทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่ทันตั้งตัว ตื่นเช้ามาเจอน้ำท่วมบ้าน ข้าวของเครื่องใช้จมน้ำเสียหาย นายเกรียงศักดิ์ บุญตาปวน นายอำเภอแม่แจ่ม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สมาชิกกองร้อย อส. รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่น เร่งเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งการยกข้าวของขึ้นที่สูงและอพยพกลุ่มเปราะบางไปอยู่ในที่ปลอดภัย คาดว่าหากไม่มีฝนตกมาเติมทางต้นน้ำของลำน้ำแม่แจ่ม ระดับน้ำที่ท่วมจะค่อยๆ ลดลง -สำนักข่าวไทย

ไต้ฝุ่น “รากาซา” ถล่มฟิลิปปินส์

มะนิลา 23 ก.ย. – ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” พัดถล่มเกาะลูซอนทางภาคเหนือ ทำให้ฝนตกหนักและดินถล่ม ประธานาธิบดีสั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือเต็มที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งใช้เครื่องจักรกลหนักเก็บกวาดหินและดินโคลนที่พังถล่มปิดทับเส้นทางสัญจรบนทางหลวงสายหนึ่งในเมืองทูบา จังหวัดเบงเกต ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ หลังเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “รากาซา” หรือที่ฟิลิปปินส์เรียกว่า “นานโด” ที่พัดขึ้นฝั่งจังหวัดคากายานที่อยู่ใกล้เคียง ด้วยความรุนแรงระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลาง 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่มในหลายพื้นที่ คลื่นรุนแรงซัดเข้าชายฝั่ง ชาวบ้านกว่า 18,000 คนในหลายจังหวัดทางตอนเหนือของเกาะลูซอนต้องอพยพจากบ้านเรือน ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติยังคงแจ้งเตือนภัยไต้ฝุ่นระดับสูงสุดบริเวณหมู่เกาะบาบูยัน ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน เนื่องจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักต่อเนื่อง พร้อมแนะนำชาวบ้านหลีกเลี่ยงพื้นที่ชายฝั่งและริมฝั่งแม่น้ำ ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า เขากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการหน่วยงานรับมือภัยพิบัติเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนและรับมือเหตุฉุกเฉินตลอดเวลา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมถึงความเสียหายรุนแรง ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซาค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกมุ่งหน้าภาคใต้ของจีน ที่เมืองเซินเจิ้น เจ้าหน้าที่เตรียมแผนอพยพประชาชนหลายแสนคนออกจากพื้นที่ชายฝั่งและพื้นที่ลุ่มต่ำ เมืองอื่น ๆ หลายแห่งในมณฑลกวางตุ้งได้ประกาศหยุดเรียนและหยุดงาน พร้อมระงับการให้บริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาไต้หวันคาดการณ์ว่า อิทธิพลของไต้ฝุ่นรากาซาจะส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคตะวันออก รัศมีของพายุลูกนี้ค่อนข้างกว้าง ประมาณ 320 กิโลเมตร แม้ศูนย์กลางพายุจะยังอยู่ห่างออกไป […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) […]

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย