“ลิซ่า” อัดรัฐบาลจัดสรรงบจังหวัด ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ

รัฐสภา​ 30 พ.ค.-“ลิซ่า” อัดรัฐบาลจัดสรรงบจังหวัด-กลุ่มจังหวัด ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ ซัดใจดำ หลังพบงบกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีเจียดทำโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เผยภาพรวมทั่วทุกภูมิภาคส่วนใหญ่เอาไปทำถนน-สร้างตึก

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วันที่สาม โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมทั้งนี้ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของงบจังหวัด และกลุ่มจังหวัด 2.65 หมื่นล้านบาท ว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความเหลื่อมล้ำ แสดงให้ถึงความล้มเหลวของการกระจายอำนาจ และการพัฒนาท้องถิ่น เพราะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมักทุ่มงบส่วนนี้ให้กับหัวเมืองใหญ่ก่อน เป็นการเพิ่มช่องว่างระหว่างชนชั้น โดยเวิลด์แบงก์เปิดเผยว่าประมาณ 70% ค่าใช้จ่ายรัฐบาลถูกใช้ในพื้นที่ กทม. ทำให้เกิดช่องว่างการพัฒนาของหัวเมือง และชนบท กว้างขึ้นเรื่อยๆ และเกิน 50% ของจังหวัดในประเทศไทยพัฒนาต่ำกว่าศักยภาพโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน และจังหวัดชายแดนใต้ หมายความว่าพื้นที่ในต่างจังหวัดส่วนมากมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ดี แต่รัฐไม่สนับสนุน และดูเหมือนรัฐบาลที่นำโดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าใจปัญหานี้อย่างดี เพราะท่านได้แถลงนโยบายว่าจะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นโอกาสของทุกคน แต่สุดท้ายเป็นแค่คำพูดที่ไม่มีแววจะเกิดขึ้นได้จริง เพราะมีการปล่อยให้งบจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ถูกจัดสรรแบบเดิม ไร้ประสิทธิภาพในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สุดท้ายโครงการจะจบที่การสร้างถนน ทำสะพาน ติดไฟส่องสว่าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง รวมถึงเอาไว้เป็นพ็อกเก็ตมันนี่ปีละ 700 กว่าล้านบาท ติดประกระเป๋าผู้ว่าราชการจังหวัดเอาไว้จัดสรรกรณีจำเป็น


“สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการใช้งบแบบนี้ เพราะผู้มีอำนาจใช้งบคือผู้ว่าฯ ที่แต่งตั้งโดยมหาดไทย ไม่ได้ยึดโยงประชาชน ไม่เข้าใจพื้นที่ มาไม่นานก็ไป การออกแบบงบประมาณแต่ละจังหวัดก็เป็นวิธีการที่ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำประชาชน ใช้เกณฑ์จังหวัดใหญ่ และรวย จึงจะได้งบประมาณเยอะกว่า ดิฉันเห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่น้อยเกินไป ซึ่งการพัฒนาต้องจับมือโตไปด้วยกันอย่าทิ้งใครไว้ข้างหลังแบบนี้ ดังนั้น หากนายกฯ ต้องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มโอกาสประชาชน ควรต้องเริ่มจากการจัดสรรงบประมาณก้อนนี้ก่อน” น.ส.ภคมน กล่าว

น.ส.ภคมน กล่าวด้วยว่า หากดูงบกลุ่มจังหวัด เช่น กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 จ.กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธานี มีความล้ำหน้ากว่าใคร เพราะมีการทุ่มเงินไปกับการสร้างถนน สร้างอาคาร มากกว่าสร้างคน ขณะที่ พื้นที่ชายแดนใต้เป็นพื้นที่เหลื่อมล้ำลำดับต้นๆ เห็นได้จากงบกลุ่มจังหวัด 1,205 ล้านบาท ถูกใช้สำหรับการก่อสร้าง และฝึกอบรม แต่ไม่ได้มีโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต และการศึกษา แม้แต่นิดเดียว ท่านไม่เจียดมาเลยถือว่าใจดำ หรือในส่วนของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่าง จ.บึงกาฬ หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ ขาดแคลนแพทย์ แต่ไม่มีโครงการที่เกี่ยวกับการเข้าถึงสาธารณสุขเลย แต่ใช้กับทำถนนสร้างสะพาน งบภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ตั้งงบกลุ่มจังหวัด 1,278 ล้านบาท โดยระบุว่าสำหรับโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่พบว่า งบส่วนมากเอาไปสร้างถนน ทำสะพาน และไฟส่องสว่าง นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ใช้สำหรับทำถนนจริงๆอีก 3,800 ล้านบาท ทำให้ในงบประมาณปี 69 ในส่วนของงบจังหวัด และกลุ่มจังหวัด จะมีการก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ถึง 5,000 ล้านบาท


น.ส.ภคมน กล่าวว่า สิ่งเหลานี้สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจทางการเมือง การทำภารกิจซ้ำซ้อน ขาดความพร้อมในการทำโครงการ วันนี้การพัฒนาที่ท่านคิดเป็นมีแต่การสร้าง ท่านสร้างทุกอย่าง เหลือสร้างเดียวสี่ท่านไม่ทำคือสร้างสรรค์ ท่านไม่เคยสร้างสรรค์งบประมาณที่ประชาชนรอคอยอะไรเลย ตนจึงเสนอให้ใช้งบประมาณจังหวัด และกลุ่มจังหวัดอย่างสร้างสรรค์ตอบโจทย์พื้นที่มากกว่านี้ ต้องคำนึงถึงการพัฒนาระบบการศึกษา ระบบสาธาณสุข ขนส่งสาธารณะ และเครื่องจักรการเกษตร ท่านต้องลงไปพูดคุยกับประชาชน อย่าคิดเอง ต้องจัดสรรงบโดยคำนึงถึงการพัฒนาจังหวัด ไม่ใช่จัดสรรเป็นเค้กของกลุ่มอำนาจ และอยากเห็นงลบถูกบริหารโดยท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่ขอผ่านผู้ว่าฯ ตนอยากเห็นการถ่ายโอนงบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองที่มีความเชื่อมโยงประชาชนมากกว่า เพราะการจัดสรรงบแบบเดิม เป็นการปิดกั้นการกระจายอำนาจ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการใช้จ่ายแบบนี้คือประชาชน เป็นการจัดสรรงบที่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]