รัฐสภา 29 พ.ค.- “บุญยิ่ง” ขอรัฐบาลจัดงบฯ 69 ลงทุนเฉพาะกิจขยาย รพ.สต. ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล หวังแค่เวลาป่วยมีใครช่วยรักษาประชาชนทันท่วงที
นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรคกล้าธรรม อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 177,639 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 2.3% คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 4.7% ของงบทั้งประเทศ แต่งบประมาณที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้จะไม่มีความหมาย ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงบริการที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทหรือชุมชนห่างไกล
นางบุญยิ่ง กล่าวต่อว่า จังหวัดราชบุรีมีทั้งหมด 10 อำเภอ แต่เขตเลือกตั้งของตนดูแลถึง 5 อำเภอ ตนได้รับร้องเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าประชาชนไม่มี รพ.สต. ใกล้บ้าน ต้องเดินทางหลายกิโลเมตรเพื่อพบแพทย์ แม้กระทั่งวินิจฉัยเบื้องต้นยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งเคยเกิดเหตุผู้ป่วยรายหนึ่งมีอาการหนัก แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าตัดสินใจส่งต่อ เพราะไม่มีอุปกรณ์และบุคลากรที่พร้อมสุดท้าย ผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนปัญหาในหลายพื้นที่ของประเทศว่า โรงพยาบาลชุมชนขาดบุคลากร โดยจากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยขาดแคลนแพทย์ประมาณ 12,000 คน และพยาบาลกว่า 30,000 คน รพ.สต.หลายแห่งขาดอุปกรณ์พื้นฐาน งบลงทุนในสาธารณสุขระดับปฐมภูมิ (Primary Care) ยังมีสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับงบรายจ่ายประจำของกระทรวง ดังนั้น งบประมาณต้องตอบโจทย์การกระจายบริการให้เท่าเทียมไม่ใช่เพียงเพิ่มยอดรวมของทั้งระบบ
“ดิฉันจึงขอเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายงบประมาณให้จัดสรรงบลงทุนเฉพาะกิจ เพื่อขยาย รพ.สต. ให้ครอบคลุมชุมชนที่ห่างไกล โดยเพิ่มงบเพื่อจัดหาอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ชุดตรวจวินิจฉัยฉุกเฉิน และเครื่องมือแพทย์เคลื่อนที่ และเร่งบรรจุและกระจายบุคลากรทางการแพทย์ อย่างเป็นธรรม ให้ชุมชนชนบทได้รับการดูแลใกล้เคียงกับในเมือง รวมถึงจัดสรรงบอบรม อสม. และพัฒนาแพทย์ประจำตำบล ให้มีศักยภาพในการดูแลชุมชนครบวงจร“นางบุญยิ่ง กล่าว
นางบุญยิ่ง กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเห็นด้วยกับร่างงบประมาณปีนี้ แต่ต้องเน้นย้ำว่า ชีวิตคนไม่ควรถูกชะลอด้วยระยะทาง และไม่ควรสิ้นหวังเพราะไม่มี รพ.สต. ใกล้บ้าน งบประมาณจะมีความหมาย เมื่อเราใช้มันสร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงการรักษา เพราะประชาชนไม่ได้ขออะไรเกินเลย แค่ขอให้เวลาป่วย มีใครช่วยรักษาทันท่วงที ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เสียงจากราชบุรีจะไม่เป็นเพียงเสียงสะท้อนในห้องประชุม แต่จะกลายเป็น แนวทางแก้ไขเชิงนโยบายในงบประมาณปีนี้และปีต่อ ๆ ไป .-สำนักข่าวไทย