“เสรีพิศุทธ์” เชื่อ 13 มิ.ย. “ทักษิณ” ไม่มาศาลแน่นอน

ศาลฎีกา 29 พ.ค.- “ชาญชัย” กับพวกยื่นส่งหลักฐานคดีชั้น 14 ให้ศาลฎีกา ด้าน “เสรีพิศุทธ์” เชื่อ 13 มิ.ย. เจ้าตัวไม่มาฟังการไต่สวนของศาลแน่นอน


นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

นายชาญชัยกล่าวว่า วันนี้มาที่ศาลฎีกาเรื่องเกี่ยวกับยื่นเรื่องคำร้องไต่สวนว่ามีการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่ แม้ศาลจะได้ยกคำร้องในส่วนของตนแต่ศาลได้เรียกหน่วยงานต่างๆ มาไต่สวน เพื่อทำคำชี้แจงและไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ตนไม่ได้รับหมายให้ส่งคำชี้แจงเพิ่ม แต่มีเอกสารที่เตรียมไว้ จึงอยากจะนำมาส่งให้ศาลเพื่อให้ศาลนำไปพิจารณาทำการไต่สวน เป็นคำร้องและประกอบด้วยคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ประธานสอบเรื่องนี้ คำร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ที่ร้อง ป.ป.ช. จึงขอให้ศาลได้มีหมายเรียกเอกสารและพยานบุคคลให้มาไต่สวน เป็นอำนาจของศาลมีอำนาจในการเรียกไต่สวน


ตนมาร้องเนื่องจากมีข้อกฎหมายรองรับตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ข้อ 62 ผู้ใดบุคคลภายนอกรู้ว่าศาลฎีกามีโทษจำคุกใครถึงที่สุดแล้ว ยังไม่ได้จำคุกจริง สามารถร้องต่อศาล ศาลต้องตั้งองค์คณะในการไต่สวน เพราะฉะนั้นประชาชนสามารถยื่นคำร้องต่อศาล การยื่นครั้งนี้ไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองและเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำลายและมีกระบวนการที่ไปช่วยนายทักษิณมีอำนาจรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และทำลายระบบความน่าเชื่อถือ กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมทั่วไป จึงทำหน้าที่ในส่วนนี้ให้จบสมบูรณ์และอยู่ที่อำนาจของศาล และมีเอกสารที่ชี้ชัดว่าคุณทักษิณไปนอนที่โรงพยาบาล 181 วัน ที่ชัดเจนว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง หากเราไปโรงพยาบาลแล้วจะมีใบเสร็จรับเงินที่เราไปโรงพยาบาลใบเสร็จรับเงินจะบ่งบอกว่าเราไปตรวจโรคอะไร ใบเสร็จนี้ตนพูดตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ส่งให้ศาล

นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้เรามายื่นพยานเอกสาร ตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ที่กำหนดว่า หากรู้ว่าพบผู้ต้องคำพิพากษาแต่ไม่ได้รับโทษสามารถมาแจ้งต่อศาลได้ และนำเรื่องจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพ ที่มีการนำข้อมูลจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้บัญชาการเรือนจำ สมาชิกวุฒิสภามาให้ข้อมูลทั้งหมด 12 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม มายื่นเป็นข้อมูลกับศาลฎีกาฯ

ข้อมูลทั้งหมดเป็นเอกสารจำนวน 222 แผ่น และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนายทักษิณ ตลอดระยะเวลา 181 วัน ที่นายทักษิณได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมีข้อพิรุธเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเราไม่สามารถรู้ว่านายทักษิณป่วยเป็นโรคอะไรและไม่สามารถเรียกเอกสารเวชระเบียนการรักษาตัวนายทักษิณได้ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งในการเรียกตรวจสอบเวชระเบียนใบเสร็จการรักษาตัวและกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณมาทำการตรวจสอบ


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมยื่นพยานหลักฐานครั้งนี้ด้วยเนื่องจากต้องการทำความจริงให้ปรากฏ ตนไม่อยากให้นายทักษิณทำให้ประเทศชาติวุ่นวายไปมากกว่านี้ เชื่อว่าหากปล่อยให้นายทักษิณสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองชนิดต่อไปบ้านเมืองของเราจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน จึงต้องการทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม และเชื่อว่าในวันที่ 13 มิ.ย นี้ ที่ศาลนัดไต่สวนนายทักษิณจะไม่มาศาลอย่างแน่นอน แต่เชื่อว่านายทักษิณไม่น่าจะหนี เพราะจะส่งผลกระทบต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวของตัวเอง

นายตุลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการอ้างว่ามีส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวด้วยอาการป่วยวิกฤตที่โรงพยาบาลตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ มาตรา 55 โดยมีการหักวันขัง แต่นายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตตามที่อ้างไว้ ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องเมื่อรักษาตัวเสร็จแล้วจะต้องกลับเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ปรากฏว่านายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 181 วัน และมีพิรุธหลายอย่างในระหว่างที่นายทักษิณนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากนักโทษที่จะได้รับสิทธิ์พักโทษนั้นจะต้องเป็นนักโทษชั้นดี แต่ในกรณีนายทักษิณเป็นแค่นักโทษชั้นกลางเท่านั้น ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 52 แล้วยังปรากฏข้อเท็จจริงต่อสังคมจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ไปตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎรภายหลังระยะเวลา 4 วันหลังจากที่นายทักษิณได้รับการปล่อยตัว ว่านายทักษิณมีระดับการป่วยไม่ต่ำกว่าระดับ 11 จากสภาพร่างกายที่นายทักษิณยังดูแข็งแรงไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียง รายการที่นายทักษิณได้รับการพักโทษหลัง 181 วันนั้นน่าจะเป็นโมฆะเนื่องจากนายทักษิณไม่ได้มีอาการป่วยวิกฤตติดเตียงแต่อย่างใด

ด้านนายนิติธรกล่าวว่า คำร้องที่ได้ยื่นต่อศาลวันนี้จำนวน 4 คำร้อง ประกอบไปด้วยคำร้องของนายชาญชัยเป็นภาพรวมทั้งหมดของคดี ที่สามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นรวมถึงแสดงไทม์ไลน์ตั้งแต่นายทักษิณลงเครื่องบิน เดินทางไปยังเรือนจำและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ในส่วนของนายสมชายเป็นเอกสารรวบรวมรายงานต่างๆของทุกหน่วยงาน และการเรียกเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล รวมถึงตัวอย่างใบเสร็จการรักษาพยาบาลและเวชระเบียน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกระบวนการรักษาที่แสดงให้เห็นถึงสภาพร่างกายของนายทักษิณ ส่วนคำร้องของนายตุลย์เป็นรายละเอียดของเรื่องการพักโทษ และคำร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นคำร้องที่เกี่ยวข้องกับประจักษ์พยานในการรักษาตัวของนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดมีความสำคัญอย่างมากในการไต่สวนครั้งนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]