“เสรีพิศุทธ์” เชื่อ 13 มิ.ย. “ทักษิณ” ไม่มาศาลแน่นอน

ศาลฎีกา 29 พ.ค.- “ชาญชัย” กับพวกยื่นส่งหลักฐานคดีชั้น 14 ให้ศาลฎีกา ด้าน “เสรีพิศุทธ์” เชื่อ 13 มิ.ย. เจ้าตัวไม่มาฟังการไต่สวนของศาลแน่นอน


นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

นายชาญชัยกล่าวว่า วันนี้มาที่ศาลฎีกาเรื่องเกี่ยวกับยื่นเรื่องคำร้องไต่สวนว่ามีการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่ แม้ศาลจะได้ยกคำร้องในส่วนของตนแต่ศาลได้เรียกหน่วยงานต่างๆ มาไต่สวน เพื่อทำคำชี้แจงและไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ตนไม่ได้รับหมายให้ส่งคำชี้แจงเพิ่ม แต่มีเอกสารที่เตรียมไว้ จึงอยากจะนำมาส่งให้ศาลเพื่อให้ศาลนำไปพิจารณาทำการไต่สวน เป็นคำร้องและประกอบด้วยคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ประธานสอบเรื่องนี้ คำร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ที่ร้อง ป.ป.ช. จึงขอให้ศาลได้มีหมายเรียกเอกสารและพยานบุคคลให้มาไต่สวน เป็นอำนาจของศาลมีอำนาจในการเรียกไต่สวน


ตนมาร้องเนื่องจากมีข้อกฎหมายรองรับตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ข้อ 62 ผู้ใดบุคคลภายนอกรู้ว่าศาลฎีกามีโทษจำคุกใครถึงที่สุดแล้ว ยังไม่ได้จำคุกจริง สามารถร้องต่อศาล ศาลต้องตั้งองค์คณะในการไต่สวน เพราะฉะนั้นประชาชนสามารถยื่นคำร้องต่อศาล การยื่นครั้งนี้ไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองและเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำลายและมีกระบวนการที่ไปช่วยนายทักษิณมีอำนาจรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และทำลายระบบความน่าเชื่อถือ กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมทั่วไป จึงทำหน้าที่ในส่วนนี้ให้จบสมบูรณ์และอยู่ที่อำนาจของศาล และมีเอกสารที่ชี้ชัดว่าคุณทักษิณไปนอนที่โรงพยาบาล 181 วัน ที่ชัดเจนว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง หากเราไปโรงพยาบาลแล้วจะมีใบเสร็จรับเงินที่เราไปโรงพยาบาลใบเสร็จรับเงินจะบ่งบอกว่าเราไปตรวจโรคอะไร ใบเสร็จนี้ตนพูดตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ส่งให้ศาล

นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้เรามายื่นพยานเอกสาร ตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ที่กำหนดว่า หากรู้ว่าพบผู้ต้องคำพิพากษาแต่ไม่ได้รับโทษสามารถมาแจ้งต่อศาลได้ และนำเรื่องจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพ ที่มีการนำข้อมูลจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้บัญชาการเรือนจำ สมาชิกวุฒิสภามาให้ข้อมูลทั้งหมด 12 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม มายื่นเป็นข้อมูลกับศาลฎีกาฯ

ข้อมูลทั้งหมดเป็นเอกสารจำนวน 222 แผ่น และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนายทักษิณ ตลอดระยะเวลา 181 วัน ที่นายทักษิณได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมีข้อพิรุธเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเราไม่สามารถรู้ว่านายทักษิณป่วยเป็นโรคอะไรและไม่สามารถเรียกเอกสารเวชระเบียนการรักษาตัวนายทักษิณได้ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งในการเรียกตรวจสอบเวชระเบียนใบเสร็จการรักษาตัวและกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณมาทำการตรวจสอบ


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมยื่นพยานหลักฐานครั้งนี้ด้วยเนื่องจากต้องการทำความจริงให้ปรากฏ ตนไม่อยากให้นายทักษิณทำให้ประเทศชาติวุ่นวายไปมากกว่านี้ เชื่อว่าหากปล่อยให้นายทักษิณสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองชนิดต่อไปบ้านเมืองของเราจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน จึงต้องการทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม และเชื่อว่าในวันที่ 13 มิ.ย นี้ ที่ศาลนัดไต่สวนนายทักษิณจะไม่มาศาลอย่างแน่นอน แต่เชื่อว่านายทักษิณไม่น่าจะหนี เพราะจะส่งผลกระทบต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวของตัวเอง

นายตุลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการอ้างว่ามีส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวด้วยอาการป่วยวิกฤตที่โรงพยาบาลตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ มาตรา 55 โดยมีการหักวันขัง แต่นายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตตามที่อ้างไว้ ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องเมื่อรักษาตัวเสร็จแล้วจะต้องกลับเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ปรากฏว่านายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 181 วัน และมีพิรุธหลายอย่างในระหว่างที่นายทักษิณนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากนักโทษที่จะได้รับสิทธิ์พักโทษนั้นจะต้องเป็นนักโทษชั้นดี แต่ในกรณีนายทักษิณเป็นแค่นักโทษชั้นกลางเท่านั้น ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 52 แล้วยังปรากฏข้อเท็จจริงต่อสังคมจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ไปตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎรภายหลังระยะเวลา 4 วันหลังจากที่นายทักษิณได้รับการปล่อยตัว ว่านายทักษิณมีระดับการป่วยไม่ต่ำกว่าระดับ 11 จากสภาพร่างกายที่นายทักษิณยังดูแข็งแรงไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียง รายการที่นายทักษิณได้รับการพักโทษหลัง 181 วันนั้นน่าจะเป็นโมฆะเนื่องจากนายทักษิณไม่ได้มีอาการป่วยวิกฤตติดเตียงแต่อย่างใด

ด้านนายนิติธรกล่าวว่า คำร้องที่ได้ยื่นต่อศาลวันนี้จำนวน 4 คำร้อง ประกอบไปด้วยคำร้องของนายชาญชัยเป็นภาพรวมทั้งหมดของคดี ที่สามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นรวมถึงแสดงไทม์ไลน์ตั้งแต่นายทักษิณลงเครื่องบิน เดินทางไปยังเรือนจำและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ในส่วนของนายสมชายเป็นเอกสารรวบรวมรายงานต่างๆของทุกหน่วยงาน และการเรียกเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล รวมถึงตัวอย่างใบเสร็จการรักษาพยาบาลและเวชระเบียน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกระบวนการรักษาที่แสดงให้เห็นถึงสภาพร่างกายของนายทักษิณ ส่วนคำร้องของนายตุลย์เป็นรายละเอียดของเรื่องการพักโทษ และคำร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นคำร้องที่เกี่ยวข้องกับประจักษ์พยานในการรักษาตัวของนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดมีความสำคัญอย่างมากในการไต่สวนครั้งนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]