“ไอซ์ รักชนก” ชี้งบลงทุนเปิดช่องโกงทั้งสร้างตึก-ถนน-แหล่งน้ำการเกษตร

รัฐสภา 28 พ.ค.-“ไอซ์ รักชนก” อัดงบฯ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ชี้งบลงทุนเปิดช่องโกงทั้งสร้างตึก-ถนน-แหล่งน้ำการเกษตร เตือนชาวบ้านได้ สส.ฝั่งรัฐบาล อย่าหลงดีใจ เพราะโยกงบไปลงผู้รับเหมาหมด สิ่งที่ได้ไม่ใช่ความเจริญ แต่เป็นถนนกากๆ ทางเท้าห่วยๆ ท้า ไลฟ์สดห้องประชุมพร้อมเปิดเอกสารงบฯ

น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายว่าตนจะอภิปรายในหัวข้อการปฏิรูปงบประมาณเพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่นและป้องกันการทุจริตในภาครัฐ ส่วนแรกคือทำไมการจัดการปัญหาคอร์รัปชั่นจึงเป็นเรื่องเดียวกับนโยบายเศรษฐกิจ เพราะมีข้อมูลว่าการคอร์รัปชั่นในภาครัฐสูงถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี และงบก้อนใหญ่ที่สุดในการทุจริตคอร์รัปชั่นคือการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมีการคอร์รัปชั่นมูลค่าสูงสุด 2-3 แสนบาท โดยเฉพาะในงบลงทุนที่เป็นงบก้อนใหญ่ในการจัดซื้อจัดจ้าง เราจะเห็นจากตามหน้าข่าวว่าการคอรัปชั่นจะเกิดขึ้นจากงบก่อสร้าง รวมถึงคุรุภัณฑ์ต่างๆ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังหรือไม่ ที่กำหนดสัดส่วนรายจ่ายลงทุนต้องมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นความตั้งใจอันดีที่จะกำหนดไว้ เพราะการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐทำให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยตัวเองอยู่แล้ว หากมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีประเทศจะสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่แม้ว่าเราจะมีรายจ่ายลงทุนมากขนาดนี้มาหลายปี แต่ทำไมโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจยังไม่เป็นอย่างที่หวัง คำตอบคือการคอรัปชั่นในภาครัฐที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่งบประมาณต่างๆจะปรากฏอยู่ในสส.เขตฝั่งรัฐบาล


“ประชาชนอย่าหลงดีใจว่าท่านได้สส.เขตอยู่ฝั่งรัฐบาลจะมีงบประมาณมาลงแล้วบ้านท่านจะพัฒนา เพราะเขาไม่ได้โยกงบลงมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตท่าน แต่เขาโยกงบไปลงให้กับผู้รับเหมาในเครือข่ายตัวเอง แล้วสิ่งที่ท่านได้อาจจะไม่ใช่ความเจริญ แต่เป็นถนนกากๆ ฟุตบาทห่วยๆ ที่สร้างให้ดีไม่ได้เพราะต้องหาเรื่องทุบทำใหม่”น.ส.รักชนกกล่าว

น.ส.รักชนก กล่าวว่า เช่นเดียวกับตึกหน่วยงานราชการที่ถูกทิ้งร้างมีทุกจังหวัดของเก่าไม่สร้างหาสร้างใหม่ไปเรื่อย บางจังหวัดมีงบประมาณบริหารจัดการน้ำลงทุกปีโดยเฉพาะจังหวัดที่มีรัฐมนตรีอยู่ แต่ท่วมและแล้งแบบหัวปีท้ายปีเป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่มีงบไปลงทุกปี และไม่นานโครงการพวกนี้ก็จะสลายหายไปกับน้ำ แล้วปีหน้าจะต้องตั้งงบมาทำใหม่ ข้อมูลดัชนีคอรัปชั่นของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาเราถูกเพื่อนบ้านแซงไปหลายเรื่องเพราะไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปยังไงก็แล้วแต่ประเทศไทยไม่เคยมีรัฐบาลที่มีเจตจำนงในการจัดการปัญหาทุจริตคอรัปชั่น


น.ส.รักชนก กล่าวว่า ในการหาส่วนต่างจากงบประมาณสามารถแบ่งออกได้เป็น5กลุ่มในการจัดซื้อจัดจ้างคือ 1.การเพิ่มโครงการ รายการที่ไม่จำเป็น 2.การซื้อของแพงเกินราคา 3.การล็อกสเปค 4.การประมูล และ5.การแก้ไขสัญญา ซึ่งตนขอเสนอ การปฏิรูปกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและลดคอรัปชั่น

โดยมีขั้นตอนคือกระบวนการเตรียมคำของบประมาณ รัฐบาลต้องกำหนดกรอบงบประมาณให้แต่ละกระทรวง โดยให้หน่วยงานของบประมาณภายใต้กรอบเพื่อจัดสรรด้วยตัวเองเพื่อให้มีผู้รับผิดชอบชัดเจน เมื่อใช้งบแล้วไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ผู้รับผิดชอบคือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ส่วนสำนักงบประมาณเปลี่ยนหน้าที่จากคนเลือกโครงการมาเป็นผู้วัดผลแทน โครงการไหนที่ทำแล้วประเทศยังเหมือนเดิมต้องทบทวน และส่งความคิดเห็นให้หน่วยงานเลิกทำโครงการ

ส่วนขั้นตอนที่2 กระบวนการพิจารณางบประมาณ สำนักงบประมาณจะต้องเปิดข้อมูลคำของบประมาณ ของทุกโครงการที่หน่วยรับงบประมาณส่งมาขอเงินจากท่าน ให้เห็นไปเลยว่ารายละเอียดสร้อยในโครงการเป็นอย่างไร ข้อมูลหลายชิ้นขอซื้ออะไรบ้าง เปิดออกสาธารณะเพื่อให้ประชาชนได้เห็น แค่เปิดประเทศก็เปลี่ยน


“เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สส.พริษฐ์ ได้เปิดเผยคำของบประมาณของรัฐสภา ต้องเรียกว่าเป็นมิติใหม่เพราะปกติต้องรอให้เขากินให้เสร็จก่อน แบ่งกันให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาจับได้ที่หลัง แต่อันนี้ผิดแต่ยังไม่ได้ใช้งบประมาณ จนทำให้ประชาชนหูตาสว่างว่ารัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ใช้งบทำของอย่างไม่จำเป็นเช่นห้องดูหนัง4มิติ ซ่อมของที่ยังไม่ได้พังอย่างห้องประชุมงบประมาณ สร้างของที่ไม่มีใครเคยได้ใช้ประโยชน์อย่างศาลาแก้ว และจะทุ่มเทงบประมาณอย่างมหาศาลไปเพื่อกลบเกลื่อนความผิดที่ตัวเองทำผิดกฎหมายอย่างที่จอดรถ ดังนั้นตนจึงเสนอเปิดให้ประชาชนและภาคประชาสังคมเห็นเลยตั้งแต่ต้นปีและดูไส้ในในทุกโครงการสองให้เห็นทุกซอกทุกมุมว่าหน่วยงานไหนขอเงินมาทำอะไรบ้าง”น.ส.รักชนกกล่าว

น.ส.รัชนก กล่าวว่า รวมทั้งขอให้มีการถ่ายทอดสด การประชุมกรรมธิการงบประมาณ รวมถึงอนุกรรมาธิการ และขอให้เปิดเอกสารที่ไม่ตีลับของกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการงบประมาณทุกชุด สส.ได้เอกสารแบบไหนประชาชนต้องสามารถโหลดและเอกสารแบบเดียวกันได้ แต่ก็ได้รับเหตุผลว่าจะไปพาดพิงคนที่สาม หรือจะกลัวเพราะเคยมีกรณีที่สส.รีดไถเงินอธิบดีในกรรมธิการงบนอกจากนั้นตนยังเสนอให้สภาท้องถิ่นมีการไลฟ์สดกรรมการงบเช่นเดียวกัน

น.ส.รัชนก กล่าวว่า ในส่วนของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง คือให้ทำแพลตฟอร์มเหมือนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ขายสินค้ามีการเปรียบเทียบราคา ทำให้การหาส่วนต่างหายไป โดยหน่วยงานของรัฐสามารถเลือกได้อย่างเรียลไทม์ ตนเข้าใจว่ากรมบัญชีกลางกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มที่คล้ายกันอยู่แต่ก็มีความกังวลว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการล็อคสเปค รวมทั้งขอให้เปิดเผยข้อมูล API ระบบ e-GP เปิดAPI ข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในระบบDBD ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดAPI ข้อมูลผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจากฐานข้อมูลของกพ. และ เปิด ข้อมูลบัญชีทรัพย์สินข้าราชการระดับสูงและนักการเมือง เพื่อทำRed Flag จับโครงการที่น่าสงสัยที่เสี่ยงต่อการฮั้วประมูล ล็อคสเปค รวมถึงโครงการที่ข้าราชการนักการเมืองมีเอี่ยว และขอให้กรมบัญชีกลางเปิดเผย ข้อมูลการบริหารสัญญาโดยให้กำหนดรหัสเดียวตั้งแต่เริ่มโครงการโดยให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์

น.ส.รัชนก กล่าวว่า ข้อเสนอในการสอบทานคือปฏิรูป สตง. และสำนักงบประมาณ ซึ่งมีหน้าที่ที่เหมาะสมคือการวัดผลโครงการที่ถูกใช้งบประมาณไปเมื่อปีก่อนเพื่อประกอบการจัดสรรงบประมาณในปีถัดไป หากโครงการไหนที่ทำไปแล้วไม่มีผลสัมฤทธิ์หรือพบว่ามีการทุจริตสำนักงบประมาณต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีก ส่วนสตง.ควรเป็นเสาหลักในการทำงบประมาณให้ถูกต้องและคุ้มค่ามีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ความรู้แก่หน่วยงบประมาณ เพื่อให้ใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าและป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น

น.ส.รัชนก กล่าวว่า สุดท้ายการทุจริตและคอร์รัปชั่นตนยืนยันว่ามันป้องกันได้ และตนเชื่อว่าประชาชนในประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยมไม่มีใครที่ชอบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ทุกท่านรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เลวร้าย และถ่วงความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยและเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับให้เกิดขึ้นได้ในประเทศนี้ ตั้งแต่ตนเกิดมาก็ถูกเสี้ยมสอนอะไรหลายๆ อย่างตั้งแต่โตไปไม่โกง สอนกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอดิฉันโตมาถึงได้รู้ว่าไอ้พวกที่พยายามจะเสี้ยมสอนเด็กๆ นั่นแหล่ะ โกงกันฉิบหายคอร์รัปชั่นกันทุกระดับ ตั้งแต่ของใหญ่ๆ อย่างตึก อาคาร ถนน แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ไปจนถึงอาหารกลางวันและนมโรงเรียน ถามว่าประเทศไทยเราจะจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้จริงหรือไม่ คำตอบคือทำได้แต่มันต้องเป็นรัฐบาลที่มีเจตจำนงมาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนจริงๆ สิ่งที่ตนพูดมาทั้งหมดนี้ มันไม่ได้วิเศษวิโสหรือวิลิศมาหราอะไรเลย มันไม่ได้ไกลเกินสมองของรัฐมนตรีที่นั่งอยู่ทั้งหมดในสภาแห่งนี้จะคิดได้ แต่ถามว่าพวกเขารู้ทุกอย่างแต่ทำไมพวกเขาไม่จัดการ ก็เพราะว่าจัดการแล้วจะกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จะหาประโยชน์เข้าพวกพ้องตัวเองได้อย่างไร

“วันนี้คนที่ดิฉันอยากสื่อสารมากที่สุดคือประชาชนที่อยู่ทางบ้าน ตนกล้าพูดว่าถ้าพวกเราพรรคประชาชนมีอำนาจ พวกเราทำได้ พวกเราจะสร้างระบบงบประมาณที่ทำให้ภาษีทุกบาททุกสตางค์ของท่าน ถูกใช้อย่างคุ้มค่า ถูกใช้เพื่อพัฒนาทุกชีวิตในประเทศนี้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง และก่อนที่เราจะลดคอร์รัปชันได้เราจะต้องมีรัฐบาลที่มันจริงจังก่อน ดังนั้นตนจึงไม่สามารถโหวตรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ นอกจากพวกเราจะล้างบางพวกทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดประเทศก่อน”น.ส.รัชนก กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย