“เผ่าภูมิ” ยันรัฐบาลจัดทำงบฯ 69 บนความรับผิดชอบ

รัฐสภา 28 พ.ค. – “เผ่าภูมิ” โต้ฝ่ายค้าน ยืนยันรัฐบาลจัดทำงบฯ ปี 69 บนความรับผิดชอบภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง รับเหลือเงินใช้ได้แค่ 1 ใน 4 เหตุงบประจำสูง แต่รัฐบาลปรับลดเหลือ 70.1% ต่ำสุดในรอบ 18 ปี


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้าน เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณปี 2569 ว่าผู้นำฝ่ายค้านสามารถเปรยภาพรวมงบประมาณในหลายมิติ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เห็นว่างบประมาณฉบับนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร มีภาพรวมเป็นอย่างไร และทิศทางอย่างไร แต่การเริ่มต้นที่ดีอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง หากใช้สมมติฐานและข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เราเห็นตรงกันว่าประเทศไทยกำลังเจอกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอน การบริหารงบประมาณจึงเป็นสิ่งสำคัญ และการจัดทำงบประมาณขาดดุลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การบอกว่าการขาดดุลมากขึ้นเรื่อยๆ และสูงอย่างน่าตกใจ จึงอยากให้ดูในปีงบประมาณ 2568 เราขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 4.5% ของงบประมาณ ในปี 2569 เราขาดดุลลดลงเหลือ 4.3% และจะลดลงเหลือ 3.6% ในปี 2570 และลดลงเหลือ 3.1% ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะเห็นได้ว่า รฐบาลบริหารงบประมาณโดยความรับผิดชอบจะมีการขาดดุลงบประมาณน้อยลงเรื่อยๆ


นอกจากนี้รัฐบาลยังตั้งงบประมาณสำหรับใช้หนี้เงินต้นสูงที่สุดเท่าที่กฎหมายกำหนดให้ในขณะนี้ ประมาณ 4% แสดงถึงความรับผิดชอบ และวินัยการเงินการคลังที่รัฐบาลกำลังปฏิบัติ พร้อมทั้งยังแก้กฎเกณฑ์ เพิ่มเพดานการใช้หนี้เงินต้นเป็น 5% ดังนั้น ปีหน้าจะได้เห็นการใช้หนี้เงินต้นเพิ่มขึ้นอีก นี่คือความรับผิดชอบของรัฐบาลในการตั้งงบประมาณ

การที่ผู้นำฝ่ายค้านบอกว่าสามารถบริหารงบประมาณได้เพียง 1 ใน 4 ของวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ยอมรับว่าเป็นความจริง เพราะเรามีสัดส่วนงบประจำค่อนข้างเยอะ แต่ในงบประมาณฉบับนี้รัฐบาลพยายามปรับลดงบประจำ 1.05% ซึ่งไม่บ่อยที่จะเห็นแบบนี้ ถ้าดูจากสถิติงบประมาณประจำปีนี้อยู่ที่ 70.16% ต่ำสุดในรอบ 18 ปีที่ทำงบประมาณมาเพื่อเปิดช่องว่างสำหรับการลงทุนสำหรับประเทศในอนาคต

ส่วนที่ผู้นำฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่นมีการจัดสรรไม่เพียงพอ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า งบประมาณปีนี้มีการจัดสรรงบให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อยู่ที่ 29.43% ซึ่งมากขึ้นทุกปี และปีนี้ก็สูงสุดในประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงเจตจำนงของรัฐบาลในการกระจายรายได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลมีความพยายามในการส่งเสริมภาคบริโภคเพื่อดึงดูดภาคการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงการเติบโตในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาพรวมที่โตขึ้นติดต่อกัน 15 เดือน ส่วน VAT ในประเทศโตขึ้น 28 เดือนติด เป็นผลมาจากการบริหารของรัฐบาลที่ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งท่านจะเถียงตัวเลขนี้ไม่ได้ แต่ตนก็เห็นด้วยกับภาคการผลิตที่มีปัญหา โดยเฉพาะภาคยานยนต์ที่ติดลบมาโดยตลอด แต่เดือน เม.ย.นี้ เป็นเดือนแรกที่พลิกกับมาเป็นบวก และภาคอสังหาริมทรัพย์


นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า รัฐบาลได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการจัดทำงบประมาณปี 2569 ด้วยความรับผิดชอบ และเจตจำนงของการทำเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้เงื่อนไข และความท้าทายของประเทศที่กำลังจะเจอในอนาคต

จากนั้นนายณัฐพงษ์ ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิง ระบุว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังน่าจะเห็นตรงกับตนในเรื่องของตัวเลข ในการประมาณการ หลายตัวเลขมีความคลาดเคลื่อนเล็กๆ น้อยๆ เช่น สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อรัฐส่วนกลาง ซึ่งท่านได้ชี้แจงว่าในปี 2569 ได้จัดสรรมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2566 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้จัดสรรอยู่ที่ 29.81% แต่ในปี 2569 จัดอยู่ที่ 29.43% จึงถือว่าตัวเลขที่หยิบยกขึ้นมาไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หากจะยึดหลักในการดูตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แต่สิ่งที่ตนอยากนำเสนอเป็นสาระสำคัญหลักคือ ภาพรวมภาพใหญ่ว่าการจัดสรรงบประมาณปี 2569 แทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากการจัดสรรงบประมาณปี 2568 มีแค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]