“ภูมิธรรม” โยน ผบ.ทบ.ไทย-กัมพูชา เคลียร์เหตุช่องบก 31 พ.ค.นี้

วังนันทอุทยาน 28 พ.ค.- “ภูมิธรรม” โยน ผบ.ทบ.ไทย-กัมพูชา เคลียร์เหตุปะทะ ‘ช่องบก’ 31 พ.ค.นี้ หลังปิดห้องคุย ผบ.ทบ. ดูหลักฐาน ‘แผนที่ทางอากาศ’ ทหารสองฝ่ายยังอยู่ตามแนว-นั่งคุยกัน ย้ำยังไม่คุยเรื่องเขตแดน ให้อารมณ์ทุกฝ่ายนิ่งก่อน ขออย่ามอง ‘กัมพูชา’ ขยิบตาให้กัน หวั่นยิงกันอีก ลั่นไทยไม่ได้กลัว-ไม่อ่อนแอ แต่สงครามไม่เป็นผลดีกับใคร


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ทุกฝ่ายทุกเกี่ยวข้องพยายามให้เหตุการณ์ยุติ ทาง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ใช้ความอดทนอดกลั้น อย่าให้บานปลาย ให้เจรจาคุยกันก่อนในทุกระดับ โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุข์ ผบ.ทบ.ไทย จะพูดคุยกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ.กัมพูชา วันเสาร์ที่ 31 พ.ค.นี้ ในขณะที่ตนเองได้พูดคุยกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหม กัมพูชา และทาง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ได้พูดคุยกับฝ่ายเสนาธิการของ รมว.กลาโหมกัมพูชา เป็นการใช้ทุกช่องทางพูดคุยกัน ทางฝ่ายกัมพูชาใส่ใจและสนใจในเรื่องนี้

“ผมได้คุยกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ทางเขายืนยันว่า ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงหรือการรบกัน เพราะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย และ พล.อ.ฮุน มาเนต ก็ได้คุยกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ.กัมพูชา ข้อสรุปเบื้องต้นในขณะนี้ อย่าให้ทุกคนเข้าไปจนเกิดการปะทะกันขึ้นหรือเกิดการยั่วยุขึ้น ทุกคนต้องหยุด และกลับไปอยู่ในจุดเดิม ซึ่งเมื่อฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ระดับนโยบาย ที่อยู่ข้างบนอาจไม่เข้าใจรายละเอียดในพื้นที่ ดึงนั้นจึงมีข้อสรุปตรงกัน ให้ ผบ.ทบ. 2 ฝ่าย ไปพูดคุยกัน ในส่วนของผม มอบอำนาจให้ ผบ.ทบ. ไปพูดคุย วันเสาร์นี้ (31พ.ค.) ส่วนในเรื่องพื้นที่จะเป็นของใคร ยังไม่มีการพูดถึง เพื่อรอให้อารมณ์ของทุกฝ่ายนิ่งก่อน ถ้าเถียงว่าเป็นของใครก็จะหาข้อยุติยาก เพื่อให้หลีกเลี่ยงการปะทะกัน และไปคุยในรายละเอียด” นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ กับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นบ่อย แสดงว่าในระดับนโยบายมีปัญหาหรือไม่ เพราะมีการละเมิดเอ็มโอยู 2543 ถึง 2 ครั้ง ในการเข้าไปขุดคูเลตในพื้นที่ช่องบก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในระดับนโยบายเราคุยกัน จริงใจและจริงจัง ไม่มีปัญหา แต่จากนั้นเป็นการคุยกันรายละเอียด นับจากประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) เป็นต้นมา ก็ดีมาตลอด ในระดับผู้บังคับหน่วย และ ผบ.ทบ. ก็คุยกันดีมาตลอด มีการโทรศัพท์ติดต่อประสานงานต่อเนื่อง เมื่อเช้านี้ตนได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ทั้งหมดต้องหาข้อสรุปให้ได้ ว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของใคร หรือเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ ก็ต้องเคลียร์ว่าเอ็มโอยู 2543 ปฏิบัติกันอย่างไร

เมื่อถามว่ามีการมองว่าฝ่ายกัมพูชาไม่จริงใจในการทำตามข้อตกลงนั้น นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจ ถ้าคิดว่าเขาไม่จริงใจ ก็จะทำให้ทะเลาะกัน ความเป็นจริงคือทุกฝ่ายเข้าใจกัน แต่อาจมีปัญหาที่มองต่างกัน

ส่วนกรณีที่มีการมองว่าฝ่ายกัมพูชาขยิบตาให้ระดับพื้นที่ดำเนินการนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถ้าคิดว่ารขยิบตา เดี๋ยวก็จะยิงกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการยิงกันโดยอาวุธเล็ก เป็นการเกิดอุบัติเหตุกันตอนมืด


จากนั้นสื่อถามย้ำว่าแต่ช่วงเวลาปะทะกินเวลา 10 นาที นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่อาจจะตอบได้ว่าเกิดอะไร ทุกอย่างอยู่ที่ความเป็นจริง อย่าไปจินตนาการ

ทั้งนี้นายภูมิธรรม ระบุว่า จากที่คุยกับฝ่ายกัมพูชา ก็ยืนยันว่าในระดับพื้นที่ก็ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา พร้อมยังพูดถึงสมเด็จฮุน เซ็น ที่มีการพูดคุยในหลายๆส่วน เป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันของระดับปฏิบัติ ก็ต้องเคลียร์ แต่ระดับนโยบายก็เข้าใจกันดี ซึ่งในพื้นที่อาจทำความเข้าใจกันไม่ดี ก็ต้องให้เวลา

สำหรับภายหลังกาประชุมจีบีซีที่ให้ยึดเอ็ทโอยู 2543 ทางทหารกัมพูชาก็ยังขยับเข้ามา นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปสรุปแบบนั้น ให้มีกาประชุมในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน โดย ผบ.ทบ. รู้ข้อมูลในพื้นที่ และในวันนี้ได้เอาภาพถ่ายทางอากาศมาแสดงให้เห็นหลักฐานว่าอยู่กันอย่างไร อย่าเพิ่งใจร้อน เพราะสงครามไม่มีประโยชน์กับใคร

เมื่อถามว่าระดับนโยบายหนักใจหรือไม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากนโยบายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีหลายสาเหตุ อย่าเพิ่งไปคิดว่าเป็นเรื่องนโยบาย แต่ไม่หนักใจ เพราะต้องทำความเข้าใจ ทุกคนอาจไม่รู้ข้อมูลทั้งหมด จึงเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก

เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่เพื่อนบ้านไม่ยำเกรงไทย เพราะสถานการณ์ภายในของไทยอ่อนแอหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา เกิดขึ้นก็ต้องแก้ ขณะนี้มีปัญหาหลายอย่างก็จริง รวมถึงปัญหาวิกฤตการณ์ของโลก แต่อย่าไปกังวล เพราะคนเลือกเข้ามาแก้ปัญหา ขอให้ประชาชนสบายใจ เราหลีกเลี่ยงการปะทะ รัฐบาลสองประเทศคุยกันอยู่ในจุดยืนเดิม การตีเรื่องเขตแดนเป็นของใคร เกิดขึ้นตลอด เรื่องเขตแดนทั่วโลกก็ไม่มีใครคุยจบ จึงต้องหาจุดที่ 2 ฝ่ายยอมรับได้ แต่แนวโน้มที่ดีของโลก คือ การหาแนวทางแก้ไขโดยสันติวิธี ไม่ว่าจะเป็นข้อเรียกร้ององค์กระระหว่างประเทศส่วนใด ก็ให้ใช้ความอดทนอดกลั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเรากลัว หรืออ่อนแอ แต่เราไม่อยากให้เกิด เพราะสงครามไม่ดีกับใครสักฝ่าย ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน

เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ให้เหตุผลหรือไม่ทำไมเข้ามาขุตคูเลต นายภูมิธรรม กล่าวว่า ระดับนโยบายเข้าใจกันดี ต่างฝ่ายต่างอยู่ระดับบน ดังนั้นสิ่งที่ไม่เข้าใจในพื้นที่ต้องให้เขาคุยกันจะดีกว่า แต่เรายืนยันในหลักการว่าจะรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดความรุนแรง ทั้งสองฝ่ายต้องแยกจากกัน ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า เพื่อการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการเข้าไปคุยในพื้นที่ ซึ่งจะง่ายกว่า ตอนนี้ทหารทั้งสองฝ่าย ยังนั่งอยู่ตามแนวพื้นที่และคุยกันไป การใช้คำว่าเผชิญหน้าอาจเกินเลยเกินไป เพราะฉะนั้นอย่ากังวลมากเกิดไป ตราบใดที่ทหารยังคุยกันได้

เมื่อถามว่าได้รับรายงานความสูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะวันนี้ (28 พ.ค.) หรือไม่ หลังมีรายงานฝ่ายกัมพูชาเจ็บ 4 นาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปะทะกันก็คงมีบ้าง เป็นธรรมดา อย่าไปขยายความเลย เพราะจะไปเกิดอารมณ์กับผู้คน และเหตุที่เกิดเล็กมาก เมื่อเกิดเหตุก็ระงับและพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า

ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ได้เข้าพบ นายภูมิธรรม ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาพอสมควร-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]