มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 25 พ.ค. – “สนธิ-จตุพร” โอบกอดกลางเวที “ความจริงมีเพียงคนเดียว” บอกไม่มีใครคิดว่าภาพแบบนี้จะเกิดขึ้น เตรียมร่วมงานใหญ่ ทวงความถูกต้องให้คนไทย พลิกฟื้นชาติบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันนี้ (25 พ.ค.) มีการจัดงาน “ความจริงมีเพียงคนเดียว” ครั้งที่ 2 มีประชาชนมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น ในการร่วมฟังการปราศรัย ซึ่งแต่ละคนจะมีการพูดถึงประเด็นสังคมและที่เกี่ยวข้องกับชาติบ้านเมือง อย่างเช่น งบประมาณเบิกงบปรับปรุงอาคารรัฐสภา, คอร์รัปชันภาษีของประชาชน, หนี้ท่วมล้น กยศ., คดีแตงโมหลังศาลยกฟังจำเลย (บุคคลที่อยู่บนเรือ)
ช่วงหนึ่งนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ และผู้ดำเนินรายการสนธิทอล์ค ได้พูดเปิดบนเวที เพื่อเกริ่นถึงภาพรวมการจัดงาน และการร่วมเวทีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานนปช. วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งนายสนธิเล่าว่า รู้จักนายจตุพรตั้งแต่เป็นศัตรูกัน ตอนที่ตนลุกขึ้นมาต่อสู้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายจตุพรอยู่ข้างนายทักษิณและปะทะกันมาหลายยก แล้วไปพบกันอีกทีที่ศาลอาญาและเรือนจำ ซึ่งเมื่อเจอกันแล้ว วันนั้นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรกันเลยนิดเดียว พูดคุยกัน ปกติธรรมดาแบบคนที่รักชาติบ้านเมืองเหมือนกัน และตนสัมผัสนายจตุพรได้ ว่านายจตุพรที่อยู่ในคุกไม่ใช่คนเก่า หลังจากนั้นตนได้ติดตาม นายจตุพรที่ได้ประกาศสู้กับนายทักษิณทั้งที่เคยเป็นคนทำงานให้นายทักษิณแบบถวายหัว ตนสงสัยว่า การต่อสู้นายทักษิณเป็นของจริงหรือของปลอม จึงได้ติดตามดูมา 2-3 ปี ในช่วงที่ นายจตุพร ได้ไปประท้วง กับกลุ่มคปท. เคยมีโอกาสมาพบตนชักชวนให้ตนออกมานำประชาชน ทั้งนี้เห็นว่านายจตุพรไม่ใช่คนเดิมเป็นคนที่มุ่งมั่น ไม่ใช่ต้องการทำลายนายทักษิณเพียงอย่างเดียว แต่พร้อมที่จะทำงาน เพื่อส่วนรวม ไม่มีสี จึงบอกไป กับนายจตุพร ว่าถ้าจะทำงาน ชิ้นใหญ่ เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ด้วยวิธีที่ตนออกแบบ ทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ ทวงความถูกต้องให้คนไทย พร้อมจะร่วมด้วยหรือไม่ ซึ่งนายจตุพร บอกว่าพร้อม จึงเชิญมาร่วมเวทีวันนี้ และอยากให้ทุกคนให้โอกาส
โดยก่อนที่นายสนธิจะมอบเวทีให้นายจตุพรได้พูดปราศรัย ทั้งสองคนได้โอบกอดและจับมือกัน ซึ่งถือเป็นภาพที่หาดูได้อยาก และเป็นจับตาทิศทางทางการเมืองและการร่วมกันขับเคลื่อนภาคประชาชนหลังจากนี้
นายจตุพรขึ้นเวทีระบุว่า ภาพที่เห็นวันนี้คงไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาประเทศไทยเดินไปในทิศทางหลัก ที่ถูกต้องและพลิกฟื้นชาติบ้านเมืองขึ้นมาให้ได้ เพราะเราเห็นว่าบ้านเมืองไม่ถูกต้องผิด ทำนองคลองธรรม ไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น ประเทศนี้เป็นของพวกเราทุกคน เราต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคตของเรา ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียวประชาชนก็คิดได้เหมือนกัน ถ้าคนไทยไม่ลุกขึ้นมาจัดการแก้ปัญหา ที่มีเต็มอยู่ทุกอณู
“ในวันที่ประเทศวิกฤตเราได้ผู้นำประมาณนี้ ทั้งที่ต้องเป็นผู้นำเก่งกาจมีความรอบรู้ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลายเรื่องรัฐรับเรื่องเพื่อถ่วงเวลา ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน ผมมีความเชื่อว่าถ้าเราไม่กล้าที่เปลี่ยนตั้งแต่วันนี้ ปล่อยให้ประเทศบริหารแบบนี้ ไม่ใช่ผมรังเกียจอะไรนายกฯ แต่ท่านพอเถอะ จะได้มีเวลาแต่งตัวได้ตามใจชอบ เวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว เรื่องชาติบ้านเมืองทุกเรื่องเราพร้อมร่วมมือ วันนี้เอาประเทศให้รอดเอาประชาชนให้รอด สร้างความแข็งแรงให้ทุกสถาบันและร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน” นายจตุพรกล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายจตุพรกำลังพูดอยู่บนเวทีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินเข้ามาร่วมรับฟังด้วย.-319 -สำนักข่าวไทย