“สนธิญา” ยืนเอกสารเพิ่มเติมให้ กกต. สอบ “พีระพันธุ์”

กกต. 23 พ.ค.-“สนธิญา” ยืนเอกสารเพิ่มเติมให้ กกต. สอบ “พีระพันธุ์” พบชื่อถือหุ้น 4 บริษัทฯ-แก้ไขใบบริคณห์สนธิ แนะนายกฯสั่งกระทรวงพาณิชย์ สอบ ไม่เกิน 1 ชม.รู้ผล หากไม่ได้รับคำตอบเตรียมเข้าสู่ชั้นอัยการสูงสุด นายกฯโดยด้วย

นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพิ่มเติม เกี่ยวกับการแก้ไขผู้ถือหุ้น และกรรมการบริหาร ใน 4 บริษัท ที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถือหุ้นอยู่ โดยก่อนยื่นหนังสือ นายสนธิญา เผยกับสื่อมวลชนว่า ตนได้ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบ นายพีระพันธุ์ มาแล้ว 3 ที่ ทั้ง กกต., สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ที่เข้าไปถือหุ้น และเป็นกรรมการผู้จัดการ ทั้ง 4 บริษัท ตนจึงยื่นเรื่องดังกล่าวให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบว่านายพีระพันธุ์ มีการถือหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าว ว่าเป็นกรรมการบริหาร ทั้ง 4 บริษัท จริงหรือไม่อย่างไร


นายสนธิญา เผยอีกว่า ตนได้รับเอกสารเพิ่มอีก 3 ฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารของกระทรวงพาณิชย์ที่มีการอัพเดทบุคคล ทั้งหุ้นส่วน หรือ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทั้ง 4 บริษัท ถูกถอดถอดชื่อออกไป ในวันที่ 21พ.ค.68 ที่ผ่านมา เวลา 13.52น. จึงเป็นเหตุให้ตนมายื่นเรื่อง ถึงการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ (รธน.) และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการเลือกตั้งและจริยธรรมร้ายแรง

ดังนั้น ขอให้ นายพีระพันธุ์ ออกมาชี้แจงว่า มีการแก้ใบบริคณห์สนธิ เกี่ยวกับผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร รวมถึงกรรมการบริหาร ทั้ง 4 บริษัท 3-4 วันที่ผ่านมา ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะ นายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เมื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับการถือหุ้นต่างๆ จะมีผลด้านกระบวนการกฎหมาย ดังนั้น ตนต้องการบทสรุปที่ชัดเจน


ผู้สื่อข่าวงถามว่า ปัจจุบันแม้จะยังมีการยื่นขอให้ตรวจสอบ แต่ก็ยังพบชื่อนายพีระพันธุ์ มองเรื่องดังกล่าวอย่างไร นายสนธิญา กล่าวว่า ตนขอกราบวิงวอนเรียกร้องให้ นายพีระพันธุ์ ออกมาชี้แจง กรณีถือหุ้น 4 บริษัท ว่าจริงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนรับทราบ หากไม่จริงแสดงว่าเอกสารที่ตนได้มาเป็นเท็จ นอกจากนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนไปยื่นร้อง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 ขอให้ตรวจสอบ เรื่องการถือหุ้นของ นายพีระพันธ์ุ ซึ่งเจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล บอกกับตนว่า เราได้ส่งให้กับนายกรัฐมนตรีไปแล้ว กว่า 10 วัน แต่นายกฯยังไม่ตอบ ดังนั้น ตนจึงไปยื่นอีกครั้ง และขอให้เพิ่มด้วยว่า “มีการแก้ไขนิติกรรมใดๆก็ตาม เกี่ยวกับ 4 บริษัทดังกล่าวหรือไม่” ยืนยันว่า การไปร้องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ยังไม่มีความคืบหน้ามาถึงตน ตั้งแต่วันที่ 6พ.ค.68 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การตรวจสอบหุ้นส่วนหรือการถือหุ้น ของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี เพียงสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบภายในไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็เป็นอันแล้วเสร็จ ว่า บุคคลใดมีชื่อและบุคคลใดไม่มีชื่อ แต่ผ่านมาแล้ว 16 วัน ตนจึงต้องยื่นฉบับที่ 2 หลังจากนี้ ภายในสัปดาห์หน้าถ้าตนยังไม่ได้คำตอบ ตนจำเป็นต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ชั้นอัยการสูงสุด ทั้งของรองนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ต่อไป และขณะเดียวกัน ตนไม่ต้องการทำถึงขั้นนั้น เพราะกรณีการถือหุ้นหรือไม่ถือหุ้น เฉพาะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งตรวจสอบได้อยู่แล้ว

นายสนธิญา กล่าวว่า กรณีที่นายพีระพันธุ์ เดินทางไปประเทศลาวนั้น ตนได้ยื่นจริยธรรมและคุณธรรมไปที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากนี้ยังนิ่งเฉย ตนจะไล่ตั้งแต่การจับที่ปรึกษา พีระพันธุ์ ในทำเนียบรัฐบาล ขณะที่วันนี้ พรรคประชาชนก็ออกมาแถลงข่าวว่า นายพีระพันธุ์ ไม่ได้พูดความจริงกรณีการไปพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อไฟฟ้าที่ประเทศลาว โดยให้หน่วยงานราชการไปตรวจสอบ ซึ่งพรรคประชาชนไปถามกฤษฎีกา ว่า นายพีระพันธุ์ ได้ไปหารือเรื่องไฟฟ้าหรือไม่ ซึ่งทางกฤษฎีกาตอบว่า นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ไปหารือเกี่ยวกับเรื่องการซื้อไฟฟ้า ฉะนั้น ตนจะผนวกเรื่องต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อยื่นหนังสือให้เป็นจริยธรรมร้ายแรงเข้าไปอีกรอบ เพราะการบริหารราชการของนายพีระพันธุ์ และนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม รับผิดชอบต่อประชาชน และรับผิดชอบต่อความกินดีอยู่ดี รวมถึงรับผิดชอบความจริง-เท็จ ตามระบบราชการ ย้ำว่า ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมด้วย


นายสนธิญา กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่ได้อะไร มีแต่เสีย มีแต่ถูกด่า ว่าตนไปรับสิ่งต่างๆ ยืนยันว่า ตนทำทุกอย่างหากสิ่งนั้นเป็นประโยชน์กับประชาชนและคนทั้งประเทศ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย